peacemakers. Maternalist argument c

peacemakers. Maternalist argument continued through the cold war, when women's peace organization sought to protect future generations from the threat of nuclear war, and into the present day, but more contemporary feminist peace researchers and activists have argued that maternalism is not innate but rather the result of women being made responsible for"maternalist practices" or caring work, whether or not they have children(Ruddick 1984). This makes them more likely to have empathy for others" and the world's children and destructive power. Other contemporary feminists, however, have pointed out that women have historically supported wars(both imperialist wars and wars of na liberation) and fought in them, often in the name of maternalism. Sending sons and daughters to war can be seen as a patriotic motherly and fighting in wars can be seen as a form of motherly protection of the homeland (Elshtain 1987). At the same time, many women have become soldiers out of economic necessity or sought gender equality insoldiering as a ticket to full citizenship and a path to public power for women. Thus, the idea that women are either naturally or socially geared for peace has been put in question and even seen as an impediment to women seeking gender equality because it bars them from or marginalizes them in militaries that control significant resources and are particularly valorized in the stories of nations and the fabric of national life. This produces a"gendered nationalism" in which only men who forged a nation in blood get to define what that nation is, regardless of whether women spilled blood for it or on its altar as(fewer) combatants or(many) non-combatants, and regardless of the many other contributions that women make to(re)producing and sustaining the life of a nation(Enloe 1989:63).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

peacemakers อาร์กิวเมนต์ maternalist อย่างต่อเนื่องตลอดสงครามเย็น เมื่อสตรีสันติภาพองค์กรพยายามที่จะปกป้องคนรุ่นอนาคตจากการคุกคาม ของสงครามนิวเคลียร์ และ ในปัจจุบัน แต่นักวิจัยสตรีสงบทันสมัยมาก และนักเคลื่อนไหวได้โต้เถียงว่า ไม่ว่า maternalism แต่ผลลัพธ์ค่อนข้างของผู้หญิงที่มี "maternalist ปฏิบัติ" หรืองานดูแล รับผิดชอบหรือไม่มีเด็ก (Ruddick 1984) นี้ทำให้พวกเขากับเอาใจใส่ผู้อื่น" และโลกของเด็กและอำนาจทำลาย ไทยร่วมสมัยอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ได้ชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงมีอดีตสนับสนุนสงคราม (สงครามจักรวรรดินิยมและสงครามปลดปล่อย na) และต่อสู้กันในพวกเขา มักจะชื่อ maternalism ส่งบุตรและธิดาไปสงครามอาจถือเป็นการรักชาติ motherly และต่อสู้ในสงครามจะได้เป็นรูปแบบของการปกป้องบ้านเกิดเมืองนอน (Elshtain 1987) motherly ในเวลาเดียวกัน ผู้หญิงหลายคนได้เป็น ทหารตามความจำเป็นทางเศรษฐกิจ หรือขอ insoldiering ความเท่าเทียมกันทางเพศเป็นตั๋วไปเป็นพลเมืองเต็มรูปแบบและเส้นทางสู่อำนาจสาธารณะสำหรับผู้หญิง ดังนั้น ความคิดที่ว่า ผู้หญิงเป็นธรรมชาติ หรือสังคมมุ่งเพื่อสันติภาพได้ถูกใส่ในคำถาม และเห็นว่าจะเป็นกรวดในรองเท้าผู้หญิงหาพยานเนื่องจากพวกเขาจากบาร์ หรือ marginalizes พวกเขาในกองทัพที่ควบคุมทรัพยากรสำคัญ และมี valorized โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของประชาชาติและผ้าของชาติชีวิต นี้ผลิตเป็น "gendered ชาตินิยม" ที่ผู้ชายเท่านั้นที่ปลอมประเทศในเลือดได้รับการกำหนดประเทศที่ โดยไม่คำนึง ถึงว่าผู้หญิงหกเลือดมัน หรือ บนของแท่นบูชา as(fewer) พลรบ or(many) ไม่ใช่พลรบ และคือ ว่าหลายอื่น ๆ ผลงานที่ผู้หญิงทำกับ (re) ผลิต และค้ำจุนชีวิตของชาติ (Enloe 1989:63)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้สร้างสันติ อาร์กิวเมนต์ Maternalist ต่อไปผ่านสงครามเย็นเมื่อสตรีองค์กรสันติภาพพยายามที่จะปกป้องลูกหลานในอนาคตจากการคุกคามของสงครามนิวเคลียร์และในยุคปัจจุบัน แต่นักวิจัยสันติภาพสตรีนิยมร่วมสมัยมากขึ้นและเรียกร้องให้มีการถกเถียงกันอยู่ว่า maternalism ไม่ได้เป็นมา แต่กำเนิด แต่ผลจากการ ผู้หญิงที่ถูกทำหน้าที่รับผิดชอบในการ "วิธีปฏิบัติที่ maternalist" หรือที่ทำงานดูแลหรือไม่ว่าพวกเขามีลูก (Ruddick 1984) ซึ่งทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะมีความเห็นอกเห็นใจสำหรับคนอื่น ๆ "และลูก ๆ ของโลกและอำนาจการทำลายล้าง. สตรีร่วมสมัยอื่น ๆ แต่ได้ชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงที่ได้รับการสนับสนุนในอดีตสงคราม (ทั้งสงครามจักรวรรดินิยมและสงครามนาปลดปล่อย) และต่อสู้ในพวกเขามักจะ ในชื่อของ maternalism ได้. ส่งลูกชายและลูกสาวไปสู่​​สงครามสามารถมองเห็นเป็นทหารมีใจรักแม่และการต่อสู้ในสงครามที่สามารถมองเห็นเป็นรูปแบบของการป้องกันที่เป็นแม่ของบ้านเกิด (Elshtain 1987) ได้. ในขณะเดียวกันผู้หญิงหลายคนได้กลายเป็น ออกจากความจำเป็นทางเศรษฐกิจหรือขอความเสมอภาคทางเพศ insoldiering เป็นตั๋วไปเป็นพลเมืองเต็มรูปแบบและเส้นทางสู่อำนาจของประชาชนสำหรับผู้หญิง. ดังนั้นความคิดที่ว่าผู้หญิงมีทั้งธรรมชาติหรือสังคมมุ่งเพื่อความสงบสุขได้รับการใส่ในคำถามและมองเห็นได้แม้ในฐานะที่เป็นอุปสรรคต่อการ ผู้หญิงที่กำลังมองหาความเสมอภาคทางเพศเพราะพวกเขาจากแท่งหรือ marginalizes พวกเขาในกองทัพทหารที่ควบคุมทรัพยากรที่สำคัญและมีการ valorized เฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของประเทศและผ้าของชีวิตแห่งชาติ นี้ผลิต "ชาตินิยมเพศ" ซึ่งในผู้ชายเพียงคนเดียวที่ปลอมแปลงประเทศที่อยู่ในโลหิตจะได้รับการกำหนดสิ่งที่ประเทศนั่นคือไม่คำนึงถึงว่าผู้หญิงที่หกรั่วไหลของเลือดหรือบนแท่นบูชาในฐานะ (น้อย) พลเรือนหรือ (มาก) ไม่ใช่พลเรือน, และไม่คำนึงถึงผลงานอื่น ๆ อีกมากมายที่ผู้หญิงทำกับ (Re) การผลิตและการค้ำจุนชีวิตของประเทศ (Enloe 1989: 63)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สันติ . maternalist โต้แย้งต่อผ่านสงครามเย็น เมื่อองค์การสันติภาพของผู้หญิงพยายามที่จะปกป้องลูกหลานในอนาคตจากการคุกคามของสงครามนิวเคลียร์ และในวันปัจจุบัน แต่ร่วมสมัยมากขึ้น นักวิจัยและนักกิจกรรมสันติภาพสตรีได้ถกเถียงกันอยู่ว่าความเป็นแม่ไม่ได้เช่นกัน แต่ผลของผู้หญิงถูกให้รับผิดชอบ " maternalist ปฏิบัติ " หรือการดูแลงาน หรือไม่ก็มีเด็ก ( รัดดิก 1984 ) นี้ทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น " และเด็กของโลกและอำนาจการทำลายล้างสูง อื่น ๆร่วมสมัยที่อนุรักษ์ แต่ได้ชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงในอดีตมีการสนับสนุนสงคราม ทั้งสงครามและสงครามปลดแอกจักรวรรดินิยมของนา ) และต่อสู้ พวกเขามักจะอยู่ในชื่อของความเป็นแม่ . ส่งลูกชายและลูกสาวสงครามสามารถมองเห็นเป็นรักชาติแม่และการต่อสู้ในสงคราม จะเห็นเป็นรูปแบบของการคุ้มครองคุณแม่ของบ้านเกิด ( elshtain 1987 ) ในเวลาเดียวกัน , ผู้หญิงหลายคนเป็นทหารเพราะความจำเป็นทางเศรษฐกิจหรือแสวงหาความเท่าเทียม insoldiering เป็นตั๋วพลเมืองเต็มรูปแบบและเส้นทางสู่พลังงานสำหรับผู้หญิง ดังนั้นความคิดที่ว่าผู้หญิงเป็นทั้งธรรมชาติหรือสังคมมุ่งเพื่อสันติภาพได้รับการใส่ในคำถาม และยังมองว่าเป็นอุปสรรคต่อผู้หญิงแสวงหาความเสมอภาคทางเพศ เพราะแถบนั้นหรือ marginalizes พวกเขาในกองทัพที่ควบคุมทรัพยากรที่สำคัญและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง valorized ในเรื่องราวของประเทศ และผ้าของชีวิตแห่งชาติ นี้จะสร้าง " เพศชาตินิยม " ซึ่งมีเพียงผู้ชายที่ปลอมเป็นประเทศในเลือดได้รับการกำหนดสิ่งที่ประเทศที่ไม่ว่าผู้หญิงหยดเลือดมัน หรือบนแท่น ( น้อยกว่า ) รบหรือ ( มาก ) ไม่ใช่พลรบ และไม่ว่าผลงานอื่น ๆอีกมากมายที่ผู้หญิงให้ ( อีกครั้ง ) การผลิต และ sustaining ชีวิตของประเทศ ( enloe 1989:63 )