34down voteacceptedEach input to a

34
down vote
accepted
Each input to a DFA or NFA affects the state of the automaton: if it was in state qq immediately before the input, either it will be in some state q′q′ after the input, or the input will cause it to choke. (Note that q′q′ may be the same as qq.) Suppose that we have an automaton in a state qq. The difference in behavior between a DFA and an NFA is this:

If it’s a DFA, each possible input determines the resulting state q′q′ uniquely. Every input causes a state change, and the new state is completely determined by the input. Moreover, the automaton can change state only after reading an input.
If it’s an NFA, some inputs may allow a choice of resulting states, and some may cause the automaton to choke, because there is no new state corresponding to that input. Moreover, the automaton may be constructed so that it can change state to some new state q′q′ without reading any input at all.
As a consequence of this difference in behavior, DFA’s and NFA’s differ in another very important respect.

If you start a DFA in its initial state and input some word ww, the state qq in which the DFA ends up is completely determined by ww: inputting ww to the DFA will always cause it to end up in state qq. This is what is meant by calling it deterministic.
If you start an NFA in its initial state and input some word ww, there may be several possible states in which it can end up, since some of the inputs along the way may have allowed a choice of state changes. Consequently, you can’t predict from ww alone in exactly which state the automaton will finish; this is what is meant by calling it nondeterministic. (And it’s actually a little worse than I’ve indicated, since an NFA is also allowed to have more than one initial state.)
Finally, these differences affect how we determine what words are accepted (or recognized) by an automaton.

If it’s a DFA, we know that each word completely determines the final state of the automaton, and we say that the word is accepted if that state is an acceptor state.
If it’s an NFA, there might be several possible final states that could result from reading a given word; as long as at least one of them is an acceptor state, we say that the automaton accepts the word.
What I’ve described informally is the view of an NFA that makes it look most like a DFA and that I think best explains why it’s called nondeterministic. There is, however, another way of looking at NFAs: it’s also possible to think of an NFA as being in multiple states at once, as if it were making all possible choices at each input. If you think of it in those terms, you can say that it accepts a word provided that at least one of the states in which it ends up after reading that word is an acceptor state. This point of view is perhaps most useful for understanding the algorithm used to turn an NFA into an equivalent DFA.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

34ออกเสียงลงการยอมรับแต่ละอินพุตจะมี DFA หรือ NFA ส่งผลกระทบต่อสถานะของออโตมาตาการ: ถ้ามันเป็นในสถานะ qq ก่อนป้อนข้อมูล มันจะอยู่ใน q′q′ บางรัฐหลังจากป้อนข้อมูล หรือการป้อนข้อมูลจะทำให้หายใจติดขัด (หมายเหตุ q′q′ ที่อาจจะเหมือนกับ qq.) สมมติว่า เรามีออโตมาตามีสถานะ qq. เป็น แตกต่างกันในลักษณะการทำงานเป็น DFA NFA คือ:ถ้าเป็น DFA แต่ละอินพุตสามารถกำหนด q′q′ รัฐเกิดขึ้นโดยเฉพาะ ทุกอินพุตทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสถานะ และรัฐใหม่ถูกกำหนด โดยการป้อนข้อมูลอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ ออโตมาตาสามารถเปลี่ยนสถานะเท่านั้นหลังจากอ่านข้อมูลป้อนถ้าเป็น NFA อินพุตบางอาจทำให้ทางเลือกของอเมริกาผล และบางอาจทำให้เกิดโต หายใจติดขัดเนื่องจากมีสถานะใหม่ที่ไม่ตรงกับอินพุตที่ นอกจากนี้ ออโตมาตาอาจจะสร้างเพื่อให้มันสามารถเปลี่ยนสถานะ q′q′ บางรัฐใหม่โดยไม่ต้องอ่านป้อนข้อมูลใด ๆ เลยเป็นผลมาจากความแตกต่างนี้ในลักษณะการทำงาน ของ DFA และของ NFA แตกต่างอีกประการที่สำคัญมากถ้าคุณเริ่ม DFA สถานะเริ่มต้น และใส่ ww บางคำ qq รัฐที่ DFA จบลงอย่างสมบูรณ์กำหนด โดย ww: ww ไป DFA ป้อนจะเสมอทำให้สิ้นสุดใน qq. รัฐ นี่คืออะไรมีความหมาย โดยการเรียก deterministicถ้าคุณเริ่มเป็น NFA ในสถานะเริ่มต้น และใส่ ww บางคำ อาจมีหลายรัฐที่เป็นไปได้ที่มันสามารถจบลง เพราะบางส่วนของปัจจัยการผลิตไปพร้อมกันอาจทำให้ทางเลือกของการเปลี่ยนแปลงสถานะ ดังนั้น คุณไม่สามารถทำนายจาก ww คนว่าที่จังหวัดออโตมาตาจะจบ นี่คืออะไรมีความหมาย โดยการเรียกถูก (และมันเป็นจริงเล็กน้อยที่เลวร้ายยิ่งกว่าฉันได้ระบุ ตั้งแต่การ NFA ยังสามารถมีสถานะเริ่มต้นมากกว่าหนึ่ง)ในที่สุด มีผลต่อความแตกต่างเหล่านี้ว่าเรากำหนดอะไรคำจะยอมรับ (หรือรู้จัก) โดยออโตมาตาการถ้าเป็น DFA เรารู้ว่า แต่ละคำกำหนดสถานะสุดท้ายของออโตมาตาสมบูรณ์ และเรากล่าวว่า คำยอมรับว่ารัฐ มีสถานะให้เป็นผู้รับถ้าเป็น NFA อาจเป็นรัฐสุดท้ายไปได้หลายที่อาจส่งผลการอ่านคำที่กำหนด ตราบใดที่สถานะให้เป็นผู้รับเป็นอย่างน้อยหนึ่งในพวกเขา เราบอกว่า ออโตมาตาการรับคำสิ่งที่ได้อธิบายอย่างเป็นมุมมองของ NFA ซึ่งทำให้ดูเหมือน DFA มากที่สุด และที่ ผมคิดว่า ดีที่สุดอธิบายทำไมถึงเรียกว่าถูก มี อย่างไรก็ตาม วิธีอื่นการมอง NFAs: ก็อาจจะคิดว่า เป็น NFA เป็นในอเมริกาหลายครั้ง เป็นถ้ามันมีการทำทางเลือกที่เป็นไปได้ทั้งหมดที่ป้อนข้อมูลแต่ละ ถ้าคุณคิดว่า มันในคำเหล่านั้น คุณสามารถพูดว่า จะยอมรับคำที่อย่างน้อยหนึ่งในอเมริกาซึ่งมันจบลงหลังจากอ่านคำนั้นเป็นสถานะให้เป็นผู้รับ มุมนี้อาจเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับการทำความเข้าใจอัลกอริทึมที่ใช้ในการเปิดการ NFA เป็น DFA เทียบเท่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

34
ลงคะแนน
ได้รับการยอมรับ
การป้อนข้อมูลไปยัง DFA หรือ NFA แต่ละส่งผลกระทบต่อสถานะของหุ่นยนต์: ถ้ามันอยู่ใน QQ รัฐทันทีก่อนที่จะมีการป้อนข้อมูลอย่างใดอย่างหนึ่งก็จะเป็นในบาง q'q รัฐหลังจากการป้อนข้อมูลหรือการป้อนข้อมูลที่จะทำให้ เปียกชุ่ม. (โปรดทราบว่า q'q 'อาจเป็นเช่นเดียวกับ QQ.) สมมติว่าเรามีหุ่นยนต์ใน QQ รัฐ ความแตกต่างในการทำงานระหว่าง DFA และ NFA คือ:

ถ้าเป็น DFA แต่ละการป้อนข้อมูลที่เป็นไปได้กำหนดรัฐ q'q 'ส่งผลให้ไม่ซ้ำกัน ทุกการป้อนข้อมูลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรัฐและรัฐใหม่จะถูกกำหนดอย่างสมบูรณ์โดยการป้อนข้อมูล นอกจากนี้หุ่นยนต์สามารถเปลี่ยนรัฐเดียวหลังจากที่ได้อ่านอินพุต.
ถ้ามันเป็น NFA ปัจจัยการผลิตบางส่วนอาจจะอนุญาตให้ทางเลือกของการส่งผลให้สหรัฐอเมริกาและบางตัวอาจทำให้หุ่นยนต์จะสำลักเพราะไม่มีรัฐใหม่ที่สอดคล้องกับการป้อนข้อมูลที่ นอกจากนี้หุ่นยนต์อาจถูกสร้างขึ้นเพื่อที่จะสามารถเปลี่ยนสถานะบาง q'q รัฐใหม่ 'โดยไม่ต้องอ่านป้อนข้อมูลใด ๆ ที่ทุกคน.
เป็นผลมาจากความแตกต่างในพฤติกรรม DFA และ NFA ของแตกต่างกันในอีกความเคารพที่สำคัญมาก.

หากคุณเริ่มต้น DFA ในสถานะเริ่มต้นและใส่บาง WW คำ QQ รัฐในการที่เอฟเอจะจบลงอย่างสมบูรณ์จะถูกกำหนดโดย WW: WW ป้อนไปยัง DFA เสมอจะทำให้มันจบลงใน QQ รัฐ นี่คือสิ่งที่หมายโดยเรียกมันว่ากำหนด.
หากคุณเริ่มต้น NFA ในรัฐเริ่มต้นและปัจจัยการผลิตบาง WW คำอาจจะมีรัฐเป็นไปได้หลายอย่างในการที่จะสามารถจบลงเนื่องจากบางส่วนของปัจจัยการผลิตไปพร้อมกันอาจจะได้รับอนุญาต ทางเลือกของการเปลี่ยนแปลงสถานะ ดังนั้นคุณไม่สามารถคาดการณ์จาก WW คนเดียวในว่าที่รัฐหุ่นยนต์จะเสร็จสิ้น; นี่คือสิ่งที่มีความหมายโดยเรียกมันว่า nondeterministic (และก็จริงเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เลวร้ายยิ่งกว่าที่ฉันเคยระบุตั้งแต่ NFA ยังได้รับอนุญาตให้มีมากกว่าหนึ่งสถานะเริ่มต้น.)
ในที่สุดความแตกต่างเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อวิธีการที่เรากำหนดสิ่งที่คำได้รับการยอมรับ (หรือได้รับการยอมรับ) โดยหุ่นยนต์.

ถ้ามัน DFA เรารู้ว่าแต่ละคำสมบูรณ์กำหนดรัฐสุดท้ายของหุ่นยนต์และเราบอกว่าเป็นคำที่ได้รับการยอมรับหากรัฐที่เป็นรัฐใบเสร็จ.
ถ้ามันเป็น NFA อาจจะมีหลายรัฐสุดท้ายไปได้ว่าอาจเป็นผลมาจากการอ่าน คำที่กำหนด; ตราบใดที่อย่างน้อยหนึ่งในนั้นคือรัฐใบเสร็จเราบอกว่าหุ่นยนต์ยอมรับคำว่า.
สิ่งที่ฉันได้อธิบายไว้อย่างไม่เป็นทางการคือมุมมองของ NFA ที่ทำให้มันดูมากที่สุดเช่น DFA และที่ฉันคิดว่าดีที่สุดอธิบายว่าทำไมมันเป็น เรียกว่า nondeterministic มี แต่วิธีการมอง NFAs อื่น: มันยังเป็นไปได้ที่จะคิดว่าของ NFA ว่าอยู่ในหลายรัฐในครั้งเดียวถ้ามันถูกตัดสินใจเลือกที่เป็นไปได้ทั้งหมดในแต่ละการป้อนข้อมูล ถ้าคุณคิดว่ามันในแง่ที่คุณสามารถพูดได้ว่าจะยอมรับคำให้ไว้ว่าอย่างน้อยหนึ่งของรัฐในการที่จะจบลงหลังจากที่ได้อ่านคำว่าเป็นรัฐใบเสร็จ มุมมองนี้อาจจะมีประโยชน์มากที่สุดสำหรับการทำความเข้าใจขั้นตอนวิธีการที่ใช้ในการเปิด NFA เป็นเทียบเท่า DFA

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

34ลงโหวตยอมรับแต่ละที่จะเป็น DFA หรือ NFA มีผลต่อสถานะของหุ่นยนต์ : ถ้าเป็นในสถานะคิวคิวทันทีก่อนที่จะใส่ให้มันจะอยู่ในสถานะ Q Q นั้นหลังจากได้รับข้อมูล หรือ เข้า จะทำให้สำลัก ( หมายเหตุ ที่ถามนั้นถามนั้นอาจจะเหมือน QQ ) สมมติว่า เราได้ทำงานในสถานะคิวคิว . ความแตกต่างในพฤติกรรมระหว่าง DFA และ NFA นี้คือ :ถ้ามันเป็น DFA , แต่ละรัฐจะกำหนดให้ใส่ไปได้ q Q ’’เอกลักษณ์ . ทุกข้อมูลสาเหตุการเปลี่ยนแปลงสภาพและสถานะใหม่จะถูกกำหนดอย่างสมบูรณ์โดยการป้อนข้อมูล นอกจากนี้ หุ่นยนต์สามารถเปลี่ยนสถานะหลังจากอ่านใส่ถ้ามันเป็น NFA บางปัจจัยอาจช่วยให้เลือก ส่งผลให้สหรัฐอเมริกาและบางส่วนอาจจะทำให้หุ่นยนต์จะสำลัก เพราะไม่มีรัฐใหม่ที่สอดคล้องกับที่ใส่ นอกจากนี้ หุ่นยนต์จะถูกสร้างขึ้นเพื่อให้มันสามารถเปลี่ยนรัฐบางรัฐใหม่ Q School Q นั้นโดยไม่อ่านป้อนข้อมูลใด ๆที่ทั้งหมดเป็นผลมาจากความแตกต่างในพฤติกรรม , DFA และของ NFA มีอีกส่วนที่สำคัญมากถ้าคุณเริ่มต้นเริ่มต้นของรัฐและใส่ DFA ในบางคำ WW , รัฐ QQ ที่ DFA สิ้นสุดจะถูกกำหนดอย่างสมบูรณ์โดย WW : ป้อน WW กับ DFA เสมอจะทำให้มันสิ้นสุดขึ้นในรัฐ QQ . นี่คือสิ่งที่หมายโดยเรียก deterministic .ถ้าคุณเริ่ม NFA ในเริ่มต้นของรัฐและใส่บางคํา WW อาจจะมีสภาพที่เป็นไปได้หลายที่สามารถสิ้นสุดเนื่องจากบางส่วนของกระผมไปพร้อมกัน อาจจะได้รับอนุญาตให้เลือกสภาพการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น คุณไม่สามารถคาดเดาจาก WW คนเดียวในตรงรัฐซึ่งหุ่นยนต์จะเสร็จ นี่คือสิ่งที่หมายโดยการเรียกมัน nondeterministic . ( และมันก็จริง มันแย่กว่าที่ผมเคยพบ ตั้งแต่ NFA จะอนุญาตให้มีมากกว่าหนึ่งเริ่มต้นของรัฐ )ในที่สุด ความแตกต่างเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อวิธีที่เราตรวจสอบสิ่งที่คำได้รับการยอมรับ ( หรือยอมรับ ) โดยออโตมาตาถ้ามันเป็น DFA , เรารู้ว่าแต่ละคำที่สมบูรณ์กำหนดสถานะสุดท้ายของหุ่นยนต์ และเราพูดคำที่เป็นที่ยอมรับ ถ้าสถานะเป็นพระนาสิก รัฐถ้ามันเป็น NFA , อาจเป็นไปได้หลายสุดท้ายระบุว่า อาจเป็นผลจากการอ่านให้คํา ตราบเท่าที่ อย่างน้อยหนึ่งในพวกเขาเป็นพระนาสิก รัฐ เราบอกว่าออโตมาตายอมรับคำสิ่งที่ผมอธิบายมาอย่างไม่เป็นทางการ เป็นมุมมองของ NFA ที่ทำให้มันดูมากเช่น DFA และที่ผมคิดว่าดีที่สุดอธิบายว่าทำไมมันเรียกว่า nondeterministic . อย่างไรก็ตามยังมีอีกวิธีหนึ่งของการค้นหา nfas : มันเป็นไปได้ที่จะคิดว่า NFA เป็นหลายรัฐทันที ราวกับว่ามันคือการเลือกที่เป็นไปได้ทั้งหมดที่แต่ละคนใส่ ถ้าคุณคิดในแง่นั้น คุณสามารถพูดได้ว่า มันรับคำไว้ว่าอย่างน้อยหนึ่งของอเมริกาที่ซึ่งก็ลงท้ายหลังจากอ่านคำที่เป็นพระนาสิก รัฐ มุมมองนี้อาจจะเป็นประโยชน์มากที่สุดสำหรับความเข้าใจขั้นตอนวิธีใช้พลิก NFA เป็นเทียบเท่า DFA .