แนวทางการพัฒนาในความความคิดของฉัน เศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้เป็นเพียงเศรษฐกิจที่มีไว้สำหรับคนยากจนแต่เป็นเศรษฐกิจที่มีไว้เพื่อสอนให้ร่ำรวยด้วยคำว่าพอเพียง และต้องรักษาให้คงอยู่บนความยั่งยืนโดยประกอบด้วยหลัก 3 ประการ เงื่อนไขประกอบ 2 ประการ ดังนี้ 1. ใช้เหตุผลเป็นเครื่องนำทาง :ต้องรักษาสติและปัญญาให้มั่นคงไม่ตามกระแสของโลกจนเกินควร 2. ทำพอประมาณ :ยึดเส้นทางสายกลาง 3. มีภูมิคุ้มกันตลอดเวลา ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรามักจะนึกถึงการประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเฉพาะในภาคการเกษตรแต่ในความเป็นจริงแล้วปรัชญานี้สามารถนำมาใช้ในภาคธุรกิจได้ด้วย ซึ่งการพัฒนาอย่างยั่นยืนบนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพบว่ามีแนวทางที่คล้ายๆกันอยู่ 10 ประการ โดยมีแนวโน้มที่จะสามารถสร้างความสมดุลและความสำเร็จอย่างยั่งยืนขององค์กรได้ดังนี้ 1. มองการณ์ไกล :ไม่มุ่งหวังผลกำไรเพียงในระยะเวลาสั้นแต่คำนึงถึงผลกระทบในระยะยาว คาดการณ์สถานการณ์การเปลี่ยนแปลง ส่วนใหญ่จะลงทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพของสินค้าหรือบริการในระยะยาวและเพื่อบริหารความไม่แน่นอนในอนาคต เช่น การรับทำ Premium Product ให้มากขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขายในขณะที่บริษัทลงทุนดำเนินการปรับปรุงแก้ไขประสิทธิภาพในการผลิตให้สูงขึ้นกว่าคู่แข่ง 2. ให้ความสำคัญกับพนักงาน :รักษาและพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยใช้รูปแบบการทำงานแบบทีมเป็นหลัก รับฟังความคิดเห็นของพนักงาน ลงทุนในการพัฒนาให้มากขึ้น ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้จาก Class room based learning เป็น Action learning, Self-managed learning, Learning Organization and Corporate university รวมทั้งเอาใจใส่ในความเป็นอยู่ของพนักงาน ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงาน ให้ความสำคัญถึงความสามารถของพนักงานและให้โอกาสอย่างทั่วถึง 3. รักษาผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของธุรกิจ :เป็นการลงทุนเพื่อรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยการดำเนินธุรกิจที่ไม่ใช่เพียงแค่เข้าไปทำผลกำไรเพียงอย่างเดียวแต่ธุรกิจจะต้องตอบแทนสังคมและชุมชนที่อยู่รอบข้างด้วยและมุ่งให้ผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาวโดยมองที่ชุมชนเป็นหลักเพื่อให้ธุรกิจอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืนและเป็นสุข ดังนั้นการรับผิดชอบของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะสอดคล้องกับเงื่อนไขคุณธรรมของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับธุรกิจด้วย 4. พัฒนานวัตกรรมทุกมิติขององค์กรอย่างต่อเนื่อง :นวัตกรรมที่พัฒนานั้นจะเป็นทั้งนวัตกรรมแบบไม่สะสมและ Incremental innovation โดยธุรกิจต้องมุ่งสร้างนวัตกรรมใหม่ทั้งทางด้านสินค้า บริการ กระบวนการทำงานและรูปแบบธุรกิจ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากขึ้น ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับ Process Technology ซึ่งจะเปลี่ยนไปสู่ Incremental Improvement. 5. ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล :เป็นการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมโดยใช้วัสดุที่มีอยู่แล้วในท้องถิ่นและใช้นโยบายจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 3R : Reduce เป็นการลดการใช้พลังงานและวัตถุดิบ, Reuse and Recycle เป็นการนำสิ่งของที่ไม่ใช้แล้วหรือนำของเสียกลับมาใช้ใหม่หรือใช้ซ้ำ, Replenish การใช้ทรัพยากรอย่างเพียงพอด้วยการฟื้นฟูหรือหาทางเลือกใหม่ ซึ่งในธุรกิจที่ต้องให้บริการควรให้ความสำคัญสูงสุดคือทรัพยากรบุคคลโดยพัฒนาศักยภาพพนักงานให้มีความรู้และความสามารถ