ณ โลกใบหนึ่ง ซึ่งมีหลากหลาย เมืองณ เมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งมีหลากหลาย ครอบค การแปล - ณ โลกใบหนึ่ง ซึ่งมีหลากหลาย เมืองณ เมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งมีหลากหลาย ครอบค ไทย วิธีการพูด

ณ โลกใบหนึ่ง ซึ่งมีหลากหลาย เมืองณ

ณ โลกใบหนึ่ง ซึ่งมีหลากหลาย เมือง
ณ เมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งมีหลากหลาย ครอบครัว
และ ณ ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งมีเพียง พ่อแม่ลูก

ครอบครัวนี้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ภายในหมู่บ้านที่ไม่ใหญ่โตนักในแถบชานเมือง โดยมีพ่อผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว มีแม่ผู้เป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว และมีลูกผู้เป็นผู้ช่วยของทั้งสอง

“อาม” ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวนั้น มีบุคลิกที่เงียบขรึม น่าเกรงขาม ด้วยวัยที่เริ่มชราแล้วจึงไม่ได้มีอาชีพอะไรทำ แต่อามก็เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี และเป็นที่เคารพของภรรยาและลูก

“แก้ว” ผู้หาเลี้ยงครอบครัวด้วยอาชีพขายอาหารให้คนในหมู่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้คนต่างก็รู้สรรพคุณของเธอดี ว่าเธอทำอาหารได้อร่อยแค่ไหน เธอเป็นคนที่รักสามีและลูกมาก ยอมตามใจทุกอย่างโดยไม่บ่นแม้แต่สักคำเดียว

ส่วน “เอ้” เด็กชายวัย 12 ขวบ ผู้เป็นผู้ช่วยของทั้งสอง เอ้เป็นเด็กหัวดีเรียนเก่ง แต่ก็เรียนได้แค่ชั้น ป.4 เนื่องจากทางบ้านไม่มีเงินส่งให้เรียน เขาจึงต้องออกจากโรงเรียนมาอยู่บ้าน เอ้เป็นเด็กที่ขยันขันแข็ง ช่วยงานครอบครัวอยู่เสมอ ทั้งงานบ้าน และงานทางร้าน เขาเป็นเด็กที่กลัวผู้เป็นพ่อมาก อันเนื่องมาจากสาเหตุที่ว่า

นิสัยส่วนตัวของแบงค์นั้นเป็นคนที่ชอบศิลปะ รักการวาดเขียนเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งตรงกันข้ามกับผู้เป็นพ่ออย่างยิ่งยวด อ่ำนั้นเป็นคนที่ไม่ชอบ งานศิลปะเสียเลย ไม่ชอบถึงขั้นเกลียดเลยทีเดียว โดยเขาให้เหตุผลกับตัวเองและลูกว่า คนทำงานศิลปะ หรือพวกศิลปิน เป็นคนไม่ดีเหมือนเป็นคนบ้า แต่งตัวก็ไม่เรียบร้อยสกปรกรกรุงรัง น่าเกลียดไม่น่าคบ เขาจึงสั่งลูกชายอย่างเด็ดขาด ว่าห้ามวาด ห้ามเขียน ห้ามไปยุ่งกับพวกศิลปิน ห้ามอะไรทุกอย่างที่เกี่ยวกับศิลปะ

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ อามผู้เป็นพ่อจับได้ว่าลูกชายของตนนั้น แอบเขียนรูปในบ้าน ทำให้เขาโกรธจัด ถึงขั้นจับลูกชายมาลงโทษ โดยการจับมัดมือแขวนไว้กับคานบ้านแล้วกระหน่ำตีอย่างไม่ยั้ง พร้อมกับบอกลูกชายว่า ห้ามทำแบบนี้อีกเด็ดขาด เอ้ถึงกับร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลออกมามันทั้งเจ็บทั้งเสียใจ ปุ๊ผู้เป็นแม่ก็เข้ามาห้ามสามีด้วยความสงสารลูกอย่างยิ่ง จากเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เอ้รู้สึกกลัวผู้เป็นพ่อขึ้นมาอย่างจับใจ แต่มันก็ไม่สามารถทำให้ความรักความชอบในศิลปะของเขานั้นลดน้อยถอยลงเลยแม้แต่น้อย

เอ้มีงานอดิเรกที่นอกเหนือจากการทำงานบ้าน และงานที่ร้านแล้ว คือการไปดูคนวาดโปรแกรมหนัง ซึ่งเวลามีหนังใหม่เข้ามาฉายในหมู่บ้าน ทางโรงหนังก็จะมีการขับรถประกาศโฆษณาว่าหนังเรื่องนี้เข้าฉายแล้ว และตามรถพวกนี้ก็จะมีภาพของดาราที่แสดงนำติดไว้กับรถด้วย เอ้ชอบดูงานพวกนี้มาก เขาสามารถอยู่กับคนพวกนี้ได้เป็นวันๆ ช่วยผสมสีบ้าง ช่วยทาตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง มันทำให้เขามี ความสุข คนพวกนี้ก็รู้จักเอ้กันแทบทุกคนและให้ความเอ็นดูเขาเป็นอย่างมาก แต่เนื่องด้วยเอ้ไม่ค่อยมีเวลา เขาจึงมักจะเจียดเอาเวลาที่แม่ใช้เขามาซื้อของที่ตลาด แวะมาที่หลังโรงหนังเพื่อมาคลุกคลีกับงานศิลปะที่เขารัก จนบางครั้งนานเป็น 2-3 ชั่วโมง ทำให้แม่ด่าว่าเป็นประจำ แต่แกก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก

วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่แม่ใช้เขาไปซื้อของที่ตลาด และเอ้ก็เต็มใจอย่างยิ่ง แม่ให้เงินแบงค์ ห้าร้อยแก่เขาหนึ่งใบ มันเป็นเงินที่มากโขสำหรับเด็กอายุ 12 ขวบอย่างเขา แล้วสั่งให้ไปซื้อน้ำปลามาหนึ่งขวด ตามด้วยการกำชับว่า “อย่าทำเงินหายละ” เอ้กำเงินแน่นแล้วรีบวิ่งออกจากร้านตรงไปยังหลังโรงหนังที่เขาคุ้นเคย และเขาก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเช่นเคยเช่นกัน เอ้ทำงานกับคนพวกนั้นจนเพลิน ลืมเวลาไปเสียสนิท เมื่อพระอาทิตย์ตกดินฟ้าเริ่มมืด เขาก็นึกขึ้นได้ว่า แม่สั่งให้เขามาซื้อน้ำปลานี่นา เอ้เริ่มสำรวจตัวเองอย่างเร่งรีบและแล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น เงินแบงค์ห้าร้อยที่แม่ให้เขามาซื้อน้ำปลานั้นไม่อยู่กับตัวเสียแล้ว มันหายไปไหน เขาสับสน รู้สึกกลัวขึ้นจับใจ กลัวไปเสียทุกอย่างกลัวพ่อจะตีที่ทำเงินหาย กลัวแม่จะด่าที่กลับบ้านดึก กลัวที่ต้องเผชิญหน้ากับพ่อและแม่ กลัวทุกสิ่งทุกอย่าง เขาทำอะไรไม่ถูก คิดได้แต่เพียงว่า อย่ากลับบ้าน อย่ากลับบ้าน!

เอ้เดินเรื่อยเปื่อยโดยไร้จุดหมายออกจากโรงหนังจนมาถึงตลาด มันเป็นตลาดที่วายแล้ว แม่ค้าต่างก็พากันเก็บข้าวเก็บของ ผู้คนเริ่มบางตาลง เขาคิดอะไรไม่ออก ทรุดตัวลงนั่งชันเข่าข้างๆกับถังขยะ แล้วน้ำตาก็เริ่มไหลริน ความกลัว ความกดดัน ความเสียใจ รวมจนถึงความหิว ก็พากัน ถาโถมพลั่งพลูออกมาจากนัยตาคู่นั้น เอ้สะอื้นเล็กๆ เวลาผ่านไปไม่นานเขาก็ผล็อยหลับลงตรงข้างถังขยะนั้น

เวลาล่วงเลยมาจนถึงห้าทุ่ม เอ้รู้สึกตัวขึ้นมาจากเสียงเรียกที่เขาได้ยินในระยะไม่ไกลจากตัวเขานัก เสียงนั้นขานแต่ชื่อเขาอยู่ตลอด เอ้ลุกขึ้นยืนแล้วมองไปรอบๆ เขาเห็นแม่และพ่อยืนอยู่ที่ปากซอยตลาด ซึ่งกำลังตะโกนร้องเรียกและมองหาเขาอยู่ เอ้ไม่รู้จะทำอย่างไร ทันใดนั้น นายอ่ำและนางปุ๊ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดเด็กคนนี้ก็หันมาทางเขาพอดี

ทั้งคู่รีบวิ่งตรงเข้ามาหาลูกชายของตน อามเข้ามากอดลูกหนึ่งทีแล้วพูดเพียงว่า “กลับบ้านได้แล้ว ดึกแล้ว” จากนั้นก็ละมือจากอ้อมกอดเดินหันหลังกลับทันที ส่วนแก้วผู้เป็นแม่ก็เข้ามาโถมกอดลูกของตนด้วยความดีใจ พร้อมกับน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาอยู่ตลอด เธอบอกกับลูกว่าให้กลับบ้านในน้ำเสียงที่สั่นเครือ แล้วก็อุ้มลูกขึ้น นางแก้วเดินตามสามีออกมาจากตลาด ระหว่างระยะทางของตลาดถึงบ้านไม่มีเสียงการสนทนาใดๆทั้งสิ้น นอกจากเสียงสะอื้นของนางแก้ว

เอ้ผู้เปรียบเสมือนผู้ต้องหาที่เพิ่งพ้นคดีมาได้กลับรู้สึก แย่ยิ่งนัก เขารู้สึกเสียใจอย่างมาก ที่ทำตัวอย่างนี้ มันทำให้แม่ต้องร้องห่มร้องไห้ตลอดระยะเวลาที่เขาหายตัวไป และเหตุการณ์นี้ก็ทำให้เขารับรู้ว่า ผู้เป็นพ่อนั้นรักเขามากแค่ไหน จากการที่พ่อนั้นไม่ซักไซ้เขาเลยหรือแม้แต่จะดุด่าต่อว่าเขาพ่อก็ไม่ทำ พ่อทำเพียงแต่เข้ามากอดเขาแล้วบอกให้กลับบ้าน มันทำให้เขารู้สึกเสียใจจนน้ำตาแทบจะไหลออกมาเป็นสายเลือดเลยทีเดียว

แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขามั่นใจเป็นที่สุดว่าจะไม่มีวันทำอย่างนี้อีกตลอดชีวิตคือ เขาสังเกตเห็นดวงตาของผู้เป็นพ่อในขณะที่โผเข้ามากอดเขานั้น เต็มไปด้วยน้ำใสๆที่เขาไม่เคยเห็นมันออกมาจากดวงตาคู่นี้เลย และมันก็เปรียบเสมื
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ณโลกใบหนึ่งซึ่งมีหลากหลายเมืองณเมืองแห่งหนึ่งซึ่งมีหลากหลายครอบครัวและณครอบครัวหนึ่งซึ่งมีเพียงพ่อแม่ลูกครอบครัวนี้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายภายในหมู่บ้านที่ไม่ใหญ่โตนักในแถบชานเมืองโดยมีพ่อผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวมีแม่ผู้เป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวและมีลูกผู้เป็นผู้ช่วยของทั้งสอง"อาม" ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวนั้นมีบุคลิกที่เงียบขรึมน่าเกรงขามด้วยวัยที่เริ่มชราแล้วจึงไม่ได้มีอาชีพอะไรทำแต่อามก็เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีและเป็นที่เคารพของภรรยาและลูก"แก้ว" ผู้หาเลี้ยงครอบครัวด้วยอาชีพขายอาหารให้คนในหมู่บ้านซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้คนต่างก็รู้สรรพคุณของเธอดีว่าเธอทำอาหารได้อร่อยแค่ไหนเธอเป็นคนที่รักสามีและลูกมากยอมตามใจทุกอย่างโดยไม่บ่นแม้แต่สักคำเดียวส่วน "เอ้" เด็กชายวัย 12 ขวบผู้เป็นผู้ช่วยของทั้งสองเอ้เป็นเด็กหัวดีเรียนเก่งแต่ก็เรียนได้แค่ชั้น ป.4 เนื่องจากทางบ้านไม่มีเงินส่งให้เรียนเขาจึงต้องออกจากโรงเรียนมาอยู่บ้านเอ้เป็นเด็กที่ขยันขันแข็งช่วยงานครอบครัวอยู่เสมอทั้งงานบ้านและงานทางร้านเขาเป็นเด็กที่กลัวผู้เป็นพ่อมากอันเนื่องมาจากสาเหตุที่ว่านิสัยส่วนตัวของแบงค์นั้นเป็นคนที่ชอบศิลปะรักการวาดเขียนเป็นชีวิตจิตใจซึ่งตรงกันข้ามกับผู้เป็นพ่ออย่างยิ่งยวดอ่ำนั้นเป็นคนที่ไม่ชอบงานศิลปะเสียเลยไม่ชอบถึงขั้นเกลียดเลยทีเดียวโดยเขาให้เหตุผลกับตัวเองและลูกว่าคนทำงานศิลปะหรือพวกศิลปินเป็นคนไม่ดีเหมือนเป็นคนบ้าแต่งตัวก็ไม่เรียบร้อยสกปรกรกรุงรังน่าเกลียดไม่น่าคบเขาจึงสั่งลูกชายอย่างเด็ดขาดว่าห้ามวาดห้ามเขียนห้ามไปยุ่งกับพวกศิลปินห้ามอะไรทุกอย่างที่เกี่ยวกับศิลปะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่อามผู้เป็นพ่อจับได้ว่าลูกชายของตนนั้นแอบเขียนรูปในบ้านทำให้เขาโกรธจัดถึงขั้นจับลูกชายมาลงโทษโดยการจับมัดมือแขวนไว้กับคานบ้านแล้วกระหน่ำตีอย่างไม่ยั้งพร้อมกับบอกลูกชายว่าห้ามทำแบบนี้อีกเด็ดขาดเอ้ถึงกับร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลออกมามันทั้งเจ็บทั้งเสียใจปุ๊ผู้เป็นแม่ก็เข้ามาห้ามสามีด้วยความสงสารลูกอย่างยิ่งจากเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เอ้รู้สึกกลัวผู้เป็นพ่อขึ้นมาอย่างจับใจแต่มันก็ไม่สามารถทำให้ความรักความชอบในศิลปะของเขานั้นลดน้อยถอยลงเลยแม้แต่น้อยเอ้มีงานอดิเรกที่นอกเหนือจากการทำงานบ้านและงานที่ร้านแล้วคือการไปดูคนวาดโปรแกรมหนังซึ่งเวลามีหนังใหม่เข้ามาฉายในหมู่บ้านทางโรงหนังก็จะมีการขับรถประกาศโฆษณาว่าหนังเรื่องนี้เข้าฉายแล้วและตามรถพวกนี้ก็จะมีภาพของดาราที่แสดงนำติดไว้กับรถด้วยเอ้ชอบดูงานพวกนี้มากเขาสามารถอยู่กับคนพวกนี้ได้เป็นวัน ๆ ช่วยผสมสีบ้างช่วยทาตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้างมันทำให้เขามีความสุขคนพวกนี้ก็รู้จักเอ้กันแทบทุกคนและให้ความเอ็นดูเขาเป็นอย่างมากแต่เนื่องด้วยเอ้ไม่ค่อยมีเวลาเขาจึงมักจะเจียดเอาเวลาที่แม่ใช้เขามาซื้อของที่ตลาดแวะมาที่หลังโรงหนังเพื่อมาคลุกคลีกับงานศิลปะที่เขารักจนบางครั้งนานเป็น 2-3 ชั่วโมงทำให้แม่ด่าว่าเป็นประจำแต่แกก็ไม่ได้สนใจอะไรนักวันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่แม่ใช้เขาไปซื้อของที่ตลาด และเอ้ก็เต็มใจอย่างยิ่ง แม่ให้เงินแบงค์ ห้าร้อยแก่เขาหนึ่งใบ มันเป็นเงินที่มากโขสำหรับเด็กอายุ 12 ขวบอย่างเขา แล้วสั่งให้ไปซื้อน้ำปลามาหนึ่งขวด ตามด้วยการกำชับว่า “อย่าทำเงินหายละ” เอ้กำเงินแน่นแล้วรีบวิ่งออกจากร้านตรงไปยังหลังโรงหนังที่เขาคุ้นเคย และเขาก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเช่นเคยเช่นกัน เอ้ทำงานกับคนพวกนั้นจนเพลิน ลืมเวลาไปเสียสนิท เมื่อพระอาทิตย์ตกดินฟ้าเริ่มมืด เขาก็นึกขึ้นได้ว่า แม่สั่งให้เขามาซื้อน้ำปลานี่นา เอ้เริ่มสำรวจตัวเองอย่างเร่งรีบและแล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น เงินแบงค์ห้าร้อยที่แม่ให้เขามาซื้อน้ำปลานั้นไม่อยู่กับตัวเสียแล้ว มันหายไปไหน เขาสับสน รู้สึกกลัวขึ้นจับใจ กลัวไปเสียทุกอย่างกลัวพ่อจะตีที่ทำเงินหาย กลัวแม่จะด่าที่กลับบ้านดึก กลัวที่ต้องเผชิญหน้ากับพ่อและแม่ กลัวทุกสิ่งทุกอย่าง เขาทำอะไรไม่ถูก คิดได้แต่เพียงว่า อย่ากลับบ้าน อย่ากลับบ้าน!เอ้เดินเรื่อยเปื่อยโดยไร้จุดหมายออกจากโรงหนังจนมาถึงตลาดมันเป็นตลาดที่วายแล้วแม่ค้าต่างก็พากันเก็บข้าวเก็บของผู้คนเริ่มบางตาลงเขาคิดอะไรไม่ออกทรุดตัวลงนั่งชันเข่าข้างๆกับถังขยะแล้วน้ำตาก็เริ่มไหลรินความกลัวความกดดันความเสียใจรวมจนถึงความหิวก็พากันถาโถมพลั่งพลูออกมาจากนัยตาคู่นั้นเอ้สะอื้นเล็ก ๆ เวลาผ่านไปไม่นานเขาก็ผล็อยหลับลงตรงข้างถังขยะนั้นเวลาล่วงเลยมาจนถึงห้าทุ่มเอ้รู้สึกตัวขึ้นมาจากเสียงเรียกที่เขาได้ยินในระยะไม่ไกลจากตัวเขานักเสียงนั้นขานแต่ชื่อเขาอยู่ตลอดเอ้ลุกขึ้นยืนแล้วมองไปรอบ ๆ เขาเห็นแม่และพ่อยืนอยู่ที่ปากซอยตลาดซึ่งกำลังตะโกนร้องเรียกและมองหาเขาอยู่เอ้ไม่รู้จะทำอย่างไรทันใดนั้นนายอ่ำและนางปุ๊ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดเด็กคนนี้ก็หันมาทางเขาพอดีทั้งคู่รีบวิ่งตรงเข้ามาหาลูกชายของตนอามเข้ามากอดลูกหนึ่งทีแล้วพูดเพียงว่า "กลับบ้านได้แล้วดึกแล้ว" จากนั้นก็ละมือจากอ้อมกอดเดินหันหลังกลับทันทีส่วนแก้วผู้เป็นแม่ก็เข้ามาโถมกอดลูกของตนด้วยความดีใจพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาอยู่ตลอดเธอบอกกับลูกว่าให้กลับบ้านในน้ำเสียงที่สั่นเครือแล้วก็อุ้มลูกขึ้นนางแก้วเดินตามสามีออกมาจากตลาดระหว่างระยะทางของตลาดถึงบ้านไม่มีเสียงการสนทนาใดๆทั้งสิ้นนอกจากเสียงสะอื้นของนางแก้วเอ้ผู้เปรียบเสมือนผู้ต้องหาที่เพิ่งพ้นคดีมาได้กลับรู้สึกแย่ยิ่งนักเขารู้สึกเสียใจอย่างมากที่ทำตัวอย่างนี้มันทำให้แม่ต้องร้องห่มร้องไห้ตลอดระยะเวลาที่เขาหายตัวไปและเหตุการณ์นี้ก็ทำให้เขารับรู้ว่าผู้เป็นพ่อนั้นรักเขามากแค่ไหนจากการที่พ่อนั้นไม่ซักไซ้เขาเลยหรือแม้แต่จะดุด่าต่อว่าเขาพ่อก็ไม่ทำพ่อทำเพียงแต่เข้ามากอดเขาแล้วบอกให้กลับบ้านมันทำให้เขารู้สึกเสียใจจนน้ำตาแทบจะไหลออกมาเป็นสายเลือดเลยทีเดียวแต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขามั่นใจเป็นที่สุดว่าจะไม่มีวันทำอย่างนี้อีกตลอดชีวิตคือเขาสังเกตเห็นดวงตาของผู้เป็นพ่อในขณะที่โผเข้ามากอดเขานั้นเต็มไปด้วยน้ำใสๆที่เขาไม่เคยเห็นมันออกมาจากดวงตาคู่นี้เลยและมันก็เปรียบเสมื
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
โลกใบ ณ หนึ่งซึ่งมีหลากหลายเมือง

เมืองแห่งหนึ่งซึ่งมีหลากหลายครอบครัวและณ ครอบครัวหนึ่งซึ่งมีเพียง โดยมีพ่อผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวมีแม่ผู้เป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวนั้นมีบุคลิกที่เงียบขรึมน่าเกรงขาม แต่อามก็เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี ว่าเธอทำอาหารได้อร่อยแค่ไหนเธอเป็นคนที่รักสามีและลูกมาก "เอ้" เด็กชายวัย 12 ขวบผู้เป็นผู้ช่วยของทั้งสองเอ้เป็นเด็กหัวดีเรียนเก่ง แต่ก็เรียนได้แค่ชั้นป. 4 เอ้เป็นเด็กที่ขยันขันแข็งช่วยงานครอบครัวอยู่เสมอทั้งงานบ้านและงานทางร้านเขาเป็นเด็กที่กลัวผู้เป็นพ่อมาก รักการวาดเขียนเป็นชีวิตจิตใจ อ่ำนั้นเป็นคนที่ไม่ชอบงานศิลปะเสียเลยไม่ชอบถึงขั้นเกลียดเลยทีเดียวโดยเขาให้เหตุผลกับตัวเองและลูกว่าคนทำงานศิลปะหรือพวกศิลปินเป็นคนไม่ดีเหมือนเป็นคนบ้า น่าเกลียดไม่น่าคบเขาจึงสั่งลูกชายอย่างเด็ดขาดว่าห้ามวาดห้ามเขียนห้ามไปยุ่งกับพวกศิลปิน แอบเขียนรูปในบ้านทำให้เขาโกรธจัดถึงขั้นจับลูกชายมาลงโทษ พร้อมกับบอกลูกชายว่าห้ามทำแบบนี้อีกเด็ดขาด และงานที่ร้านแล้วคือการไปดูคนวาดโปรแกรมหนัง เอ้ชอบดูงานพวกนี้มาก ช่วยผสมสีบ้างช่วยทาตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้างมันทำให้เขามีความสุข แต่เนื่องด้วยเอ้ไม่ค่อยมีเวลา จนบางครั้งนานเป็น 2-3 ชั่วโมงทำให้แม่ด่าว่าเป็นประจำ และเอ้ก็เต็มใจอย่างยิ่งแม่ให้เงินแบงค์ห้าร้อยแก่เขาหนึ่งใบมันเป็นเงินที่มากโขสำหรับเด็กอายุ 12 ขวบอย่างเขาแล้วสั่งให้ไปซื้อน้ำปลามาหนึ่งขวดตามด้วยการกำชับว่า "อย่าทำเงินหายละ" เอ้ทำงานกับคนพวกนั้นจนเพลินลืมเวลาไปเสียสนิทเมื่อพระอาทิตย์ตกดินฟ้าเริ่มมืดเขาก็นึกขึ้นได้ว่าแม่สั่งให้เขามาซื้อน้ำปลานี่นา มันหายไปไหนเขาสับสนรู้สึกกลัวขึ้นจับใจ กลัวแม่จะด่าที่กลับบ้านดึกกลัวที่ต้องเผชิญหน้ากับพ่อและแม่กลัวทุกสิ่งทุกอย่างเขาทำอะไรไม่ถูกคิดได้ แต่เพียงว่าอย่ากลับบ้าน มันเป็นตลาดที่วายแล้วแม่ค้าต่างก็พากันเก็บข้าวเก็บของผู้คนเริ่มบางตาลงเขาคิดอะไรไม่ออก แล้วน้ำตาก็เริ่มไหลรินความกลัวความกดดันความเสียใจรวมจนถึงความหิวก็พากันถาโถมพลั่งพลูออกมาจากนัยตาคู่นั้นเอ้สะอื้นเล็ก ๆ เสียงนั้นขาน แต่ชื่อเขาอยู่ตลอดเอ้ลุกขึ้นยืนแล้วมองไปรอบ ๆ เอ้ไม่รู้จะทำอย่างไรทันใดนั้น "กลับบ้านได้แล้วดึกแล้ว" แล้วก็อุ้มลูกขึ้นนางแก้วเดินตามสามีออกมาจากตลาด แย่ยิ่งนักเขารู้สึกเสียใจอย่างมากที่ทำตัวอย่างนี้ ผู้เป็นพ่อนั้นรักเขามากแค่ไหน และมันก็เปรียบเสมื

























การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ณโลกใบหนึ่งซึ่งมีหลากหลายเมือง
ณเมืองแห่งหนึ่งซึ่งมีหลากหลายครอบครัว
และณครอบครัวหนึ่งซึ่งมีเพียงพ่อแม่ลูก

ครอบครัวนี้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายภายในหมู่บ้านที่ไม่ใหญ่โตนักในแถบชานเมืองโดยมีพ่อผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวมีแม่ผู้เป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวและมีลูกผู้เป็นผู้ช่วยของทั้งสอง

" อาม " ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวนั้นมีบุคลิกที่เงียบขรึมน่าเกรงขามด้วยวัยที่เริ่มชราแล้วจึงไม่ได้มีอาชีพอะไรทำแต่อามก็เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีและเป็นที่เคารพของภรรยาและลูก

" แก้ว " ผู้หาเลี้ยงครอบครัวด้วยอาชีพขายอาหารให้คนในหมู่บ้านซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้คนต่างก็รู้สรรพคุณของเธอดีว่าเธอทำอาหารได้อร่อยแค่ไหนเธอเป็นคนที่รักสามีและลูกมาก
ส่วน " เอ้ " เด็กชายวัย 12 ขวบผู้เป็นผู้ช่วยของทั้งสองเอ้เป็นเด็กหัวดีเรียนเก่งแต่ก็เรียนได้แค่ชั้นป .4 เนื่องจากทางบ้านไม่มีเงินส่งให้เรียนเขาจึงต้องออกจากโรงเรียนมาอยู่บ้านเอ้เป็นเด็กที่ขยันขันแข็งช่วยงานครอบครัวอยู่เสมอทั้งงานบ้านและงานทางร้านเขาเป็นเด็กที่กลัวผู้เป็นพ่อมาก
นิสัยส่วนตัวของแบงค์นั้นเป็นคนที่ชอบศิลปะรักการวาดเขียนเป็นชีวิตจิตใจซึ่งตรงกันข้ามกับผู้เป็นพ่ออย่างยิ่งยวดอ่ำนั้นเป็นคนที่ไม่ชอบงานศิลปะเสียเลยไม่ชอบถึงขั้นเกลียดเลยทีเดียวคนทำงานศิลปะหรือพวกศิลปินเป็นคนไม่ดีเหมือนเป็นคนบ้าแต่งตัวก็ไม่เรียบร้อยสกปรกรกรุงรังน่าเกลียดไม่น่าคบเขาจึงสั่งลูกชายอย่างเด็ดขาดว่าห้ามวาดห้ามเขียนห้ามไปยุ่งกับพวกศิลปิน
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่อามผู้เป็นพ่อจับได้ว่าลูกชายของตนนั้นแอบเขียนรูปในบ้านทำให้เขาโกรธจัดถึงขั้นจับลูกชายมาลงโทษโดยการจับมัดมือแขวนไว้กับคานบ้านแล้วกระหน่ำตีอย่างไม่ยั้งพร้อมกับบอกลูกชายว่าเอ้ถึงกับร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลออกมามันทั้งเจ็บทั้งเสียใจปุ๊ผู้เป็นแม่ก็เข้ามาห้ามสามีด้วยความสงสารลูกอย่างยิ่งจากเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เอ้รู้สึกกลัวผู้เป็นพ่อขึ้นมาอย่างจับใจ
เอ้มีงานอดิเรกที่นอกเหนือจากการทำงานบ้านและงานที่ร้านแล้วคือการไปดูคนวาดโปรแกรมหนังซึ่งเวลามีหนังใหม่เข้ามาฉายในหมู่บ้านทางโรงหนังก็จะมีการขับรถประกาศโฆษณาว่าหนังเรื่องนี้เข้าฉายแล้วเอ้ชอบดูงานพวกนี้มากเขาสามารถอยู่กับคนพวกนี้ได้เป็นวันๆช่วยผสมสีบ้างช่วยทาตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้างมันทำให้เขามีความสุขคนพวกนี้ก็รู้จักเอ้กันแทบทุกคนและให้ความเอ็นดูเขาเป็นอย่างมาก
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: