SPENDING SoMEBODY ELSE's MONEY A Wa

SPENDING SoMEBODY ELSE's MONEY
A Wall Street Journal article provides an interesting example of how spending one else's money distorts the decision-making process. A 70-year-old man suffering from a ruptured abdominal aortic aneurysm was brought to hospital. After several weeks in the intensive care the that goes with it unit with all the modern technology and a three-month stay in the hospital, the bill approached s275,000(none of which would be paid out-of-pocket by the patient).The man's physician determined that his poor eating habits(caused by poorly fitting dentures) were contributing to his slow recovery. He requested that the hospital dentist perform the necessary adjustments. Later, the doctor discovered that the man had not allowed the dentist to adjust the dentures. When asked the reason, the man replied, "$75 is a lot of money It seems that Medicare would not pay for the adjustment, so it would have been an out-of- pocket expenditure for the patient. When you're spending somebody else's money, $275,000 does not seem like a lot of money. But when you are spending your own money, $75 is a lot. Our reliance on a third-party payment system is the major iasti tutional feature that contributes to rising costs and increased spending. Cost-conscious consumers have little or no role in a system dominated by third-party payers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใช้คนอื่นเงิน วอลล์สตรีทเจอร์นัลบทความตัวอย่างที่น่าสนใจของการใช้จ่ายเงินของใครของ distorts การตัดสินใจ ชายอายุ 70 ปีที่ทุกข์ทรมานจาก ruptured โป่งพองเอออร์ตาท้องถูกนำไปยังโรงพยาบาล หลังจากหลายสัปดาห์ในการดูแลมากที่ไปกับหน่วยที่ มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและพัก 3 เดือนในโรงพยาบาล ส่วนประดับราคา s275, 000 (ไม่มีผู้ใดจะเป็นผู้จ่าย out-of-pocket ผู้ป่วย) แพทย์เป็นคนพิจารณาว่า เขายากจนนิสัยการกินจากงานพอดีฟันปลอม) ได้สนับสนุนการกู้คืนของเขาช้า เขาร้องขอว่า ทันตแพทย์โรงพยาบาลดำเนินการปรับปรุงที่จำเป็น ภายหลัง แพทย์ค้นพบว่า ผู้ชายมีไม่อนุญาตให้ทันตแพทย์ปรับฟันปลอม เมื่อถามเหตุผล คนตอบ "$75 ได้เงินเหมือนที่เมดิแคร์จะไม่ชำระค่าปรับ ดังนั้นมันจะถูกใช้จ่ายออกกระเป๋าสำหรับผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก เมื่อคุณใช้เงินคนอื่น $275,000 ไม่เหมือนเงินจำนวนมาก แต่เมื่อคุณจะใช้จ่ายเงินของคุณเอง $75 เป็นจำนวนมาก เราพึ่งพาระบบการชำระเงินอื่น ๆ เป็นหลัก iasti tutional คุณลักษณะที่รวมต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และเพิ่มการใช้จ่าย ผู้บริโภคที่ใส่ใจต้นทุนมีบทบาทน้อย หรือไม่มีในระบบครอบงำ โดยบุคคลที่สามรายงานผู้ชำระ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การใช้จ่ายเงินของคนอื่น
Wall Street Journal บทความมีตัวอย่างที่น่าสนใจของการใช้จ่ายเงินอย่างไร ใครบิดเบือนกระบวนการการตัดสินใจ ชายอายุ 70 ปี ทุกข์จากการฉีกขาด ทำให้มีเลือดคั่งในช่องท้องถูกนำตัวไปโรงพยาบาล หลังจากหลายสัปดาห์ในการดูแลมากที่ไปกับหน่วยกับทุกเทคโนโลยีที่ทันสมัย และ อยู่ สามเดือนในโรงพยาบาลบิลก็ s275000 ( ไม่มีซึ่งจะต้องจ่ายออกจากกระเป๋าโดยผู้ป่วย แพทย์เขาตั้งใจว่าเขาไม่ดี นิสัยการรับประทานอาหาร ( เกิดจากฟันปลอมที่ไม่ดีที่เหมาะสม ) ที่เอื้อต่อการกู้คืนช้าของเขา เขาขอร้องให้โรงพยาบาลทันตแพทย์ทำการปรับเปลี่ยนที่จำเป็น ต่อมา หมอพบว่า ผู้ชายที่ไม่อนุญาตให้หมอฟันปรับฟันปลอมเมื่อถามถึงเหตุผล เขาก็ตอบว่า " $ 75 เป็นจำนวนมาก ดูเหมือนว่า Medicare จะไม่จ่ายปรับ ก็ออกจากกระเป๋าจ่ายให้ผู้ป่วย เมื่อคุณกำลังใช้จ่ายเงินของคนอื่น , $ 275 , 000 ไม่ได้ดูเหมือนมากของเงิน แต่เมื่อคุณมีการใช้จ่ายเงินของคุณเอง , $ 75 เป็นจํานวนมากการพึ่งพาของเราในระบบการชำระเงินของบุคคลที่สามเป็น iasti สาขา tutional คุณลักษณะที่ก่อให้เกิดต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น . ค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ใส่ใจมีบทบาทเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยในระบบการปกครองโดยบุคคลที่สามจ่ายเงิน .