Late and long-term effects of treat

Late and long-term effects of treatment of childhood
leukemia
Because of major advances in treatment, most children treated for leukemia are now
living into adulthood, so their health as they get older has come more into focus in recent
years.
Just as the treatment of childhood leukemia requires a very specialized approach, so does
the care and follow-up after treatment. The earlier problems are recognized, the more
likely it is they can be treated effectively.
Childhood leukemia survivors are at risk, to some degree, for several possible late effects
of their treatment. This risk depends on a number of factors, such as the type of leukemia,
the type and doses of treatments they received, and the age of the child at the time of
treatment. It’s important to discuss what these possible effects might be with your child’s
medical team so you know what to watch for and report to the doctor.
Second cancers: Children who have been treated for leukemia are at higher risk of
developing other cancers later in life. One of the most serious possible side effects of
acute lymphocytic leukemia (ALL) therapy is a small risk of getting acute myelogenous
leukemia (AML) later on. This occurs in about 5% of patients after getting chemotherapy
drugs called epipodophyllotoxins (etoposide, teniposide) or alkylating agents
(cyclophosphamide, chlorambucil). Of course, the risk of getting these second cancers
must be balanced against the obvious benefit of treating a life-threatening disease such as
leukemia.
Heart and lung problems: Certain chemotherapy drugs or radiation therapy to the chest
can sometimes cause heart or lung problems later in life. The risks of heart disease and
stroke are much higher among those treated for ALL as children, so careful follow-up is
very important. ALL survivors are also more likely to be overweight and to have high
blood pressure, which can contribute to these problems.
Learning problems: Treatment that includes radiation therapy to the brain or some types
of chemotherapy may affect learning ability in some children. Because of this, doctors try
to limit treatments that could affect the brain (including radiation) as much as possible.
Growth and development: Some cancer treatments may affect a child’s growth, so they
may end up a bit shorter as adults. This is especially true after stem cell transplants. This
can be helped by treating survivors with growth hormone, if needed.
Fertility issues: Cancer treatment may also affect sexual development and ability to have
children later in life. Talk to your child’s cancer care team about the risks of infertility
with treatment, and ask if there are options for preserving fertility, such as sperm
banking. For more information, see Fertility and Women With Cancer and Fertility and
Men With Cancer.
Bone problems: Bone damage or osteoporosis (thinning of the bones) may result from
the use of prednisone, dexamethasone, or other steroid drugs.
There may be other possible complications from chemotherapy as well. Your child’s
doctor should carefully review any possible problems with you before your child starts
treatment.
Along with physical side effects, some childhood leukemia survivors might have
emotional or psychological issues. They might also have problems with normal
functioning and school work. These can often be addressed with support and
encouragement. If needed, doctors and other members of the health care team can
recommend special support programs and services to help children after cancer treatment.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปลาย และระยะยาวผลของการรักษาของวัยเด็กมะเร็งเม็ดเลือดขาวเนื่องจากความก้าวหน้าสำคัญในการรักษา เด็กส่วนใหญ่ที่รับการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวอยู่ในขณะนี้ใช้ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ เพื่อสุขภาพโตขึ้นมามากขึ้นโฟกัสล่าสุดปีเช่นเดียวกับการรักษาโรคมะเร็งในวัยเด็กจำเป็นต้องมากเฉพาะ จึงไม่การดูแลและติดตามผลหลังการรักษา มีการรับรู้ปัญหาก่อนหน้านี้ เพิ่มเติมมันเป็นพวกเขาสามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพผู้รอดชีวิตมะเร็งเม็ดเลือดขาวในวัยเด็กมีความเสี่ยง ระดับหนึ่ง สำหรับผลปลายเป็นไปได้หลายการรักษาของพวกเขา ความเสี่ยงนี้ขึ้นกับปัจจัย เช่นชนิดของมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด และปริมาณของพวกเขาได้รับการรักษา และอายุของเด็กในขณะการรักษา สิ่งสำคัญคือการหารือผลกระทบเหล่านี้ได้อาจจะ มีของเด็กทีมแพทย์เพื่อให้คุณทราบว่าเพื่อดูและรายงานแพทย์มะเร็งชนิดที่สอง: เด็กที่ได้รับการรักษาสำหรับมะเร็งเม็ดเลือดขาวมีความเสี่ยงสูงของมะเร็งอื่น ๆ ในชีวิต ผลข้างเคียงร้ายแรงที่สุดเป็นไปได้ของอย่างใดอย่างหนึ่งบำบัดรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวและเฉียบพลัน lymphocytic (ALL) เป็นความเสี่ยงของการได้รับเฉียบพลัน myelogenousมะเร็งเม็ดเลือดขาว (AML) ในภายหลัง ปัญหานี้เกิดขึ้นประมาณ 5% ของผู้ป่วยหลังได้รับยาเคมีบำบัดยาเสพติดที่เรียกว่า epipodophyllotoxins (etoposide, teniposide) หรือตัวแทน alkylating(cyclophosphamide, chlorambucil) แน่นอน ความเสี่ยงของโรคมะเร็งเหล่านี้สองต้องสมดุลกับประโยชน์ชัดเจนของการรักษาโรคที่คุกคามชีวิตเช่นมะเร็งเม็ดเลือดขาวปัญหาหัวใจและปอด: ยาเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัดอกบางบางครั้งอาจทำให้ปัญหาหัวใจหรือปอดในชีวิต ความเสี่ยงของโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองมีมากขึ้นผู้ถือว่าทั้งหมดเป็นเด็ก จึงติดตามระมัดระวังสำคัญมาก ผู้รอดชีวิตทั้งหมดมีแนวโน้ม ที่จะน้ำหนักเกิน และมีสูงความดันโลหิต ซึ่งสามารถทำให้ปัญหาเหล่านี้ปัญหาการเรียนรู้: การรักษาที่มีรังสีสมองหรือบางชนิดของยาเคมีบำบัดอาจมีผลต่อความสามารถในการเรียนรู้ในเด็กบางคน ด้วยเหตุนี้ ลองของแพทย์การจำกัดการรักษาที่ได้ผลมากที่สุดสมอง (รวมถึงรังสี)เจริญเติบโตและพัฒนา: บางรักษามะเร็งอาจมีผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก เพื่อให้พวกเขาอาจสิ้นสุดขึ้นเป็นบิตสั้นเป็นผู้ใหญ่ นี้เป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากชุดปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด นี้สามารถช่วย โดยการรักษาผู้รอดชีวิตกับฮอร์โมนเจริญเติบโต ถ้าจำเป็นปัญหาความอุดมสมบูรณ์: การรักษามะเร็งอาจส่งผลต่อพัฒนาการทางเพศและความสามารถในการมีเด็กในช่วง พูดคุยกับทีมงานดูแลมะเร็งของเด็กเกี่ยวกับความเสี่ยงของภาวะมีบุตรยากด้วยการรักษา และถามว่า มีตัวเลือกสำหรับการรักษาความอุดมสมบูรณ์ เช่นสเปิร์มทางการธนาคาร ดูข้อมูลเพิ่มเติม ความอุดมสมบูรณ์ และผู้หญิงกับโรคมะเร็ง และความอุดมสมบูรณ์ และผู้ชายกับมะเร็งปัญหากระดูก: ความเสียหายของกระดูกหรือโรคกระดูกพรุน (ผอมบางของกระดูก) อาจเกิดจากการใช้ prednisone, dexamethasone หรือยาอื่น ๆ เตียรอยด์อาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้จากเคมีบำบัดด้วย ของเด็กแพทย์ควรตรวจสอบปัญหาใด ๆ กับคุณก่อนที่ลูกของคุณเริ่มต้นการรักษาพร้อมกับผลข้างเคียงทางกายภาพ ผู้รอดชีวิตมะเร็งเม็ดเลือดขาวบางวัยอาจปัญหาทางอารมณ์ หรือจิตใจ อาจมีปัญหากับปกติโรงเรียนและการทำงานทำงาน เหล่านี้มักจะได้รับ ด้วยการสนับสนุน และกำลังใจ ถ้าจำเป็น แพทย์และสมาชิกคนอื่น ๆ ของทีมสุขภาพสามารถแนะนำโปรแกรมสนับสนุนพิเศษและบริการที่ช่วยเด็กหลังจากการรักษามะเร็ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ช่วงปลายปีและระยะยาวผลกระทบของการรักษาในวัยเด็ก
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
เพราะความก้าวหน้าที่สำคัญในการรักษาเด็กส่วนใหญ่ได้รับการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวอยู่ในขณะนี้
อาศัยอยู่ในวัยเพื่อสุขภาพของพวกเขาขณะที่พวกเขาได้รับเก่าที่มีมามากยิ่งขึ้นในการมุ่งเน้นในเร็ว ๆ
ปี.
เช่นเดียวกับการรักษา โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในวัยเด็กต้องใช้วิธีการพิเศษมากจึงไม่
ดูแลและติดตามหลังการรักษา ปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้รับการยอมรับมากขึ้น
มีโอกาสที่พวกเขาสามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
ผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในวัยเด็กที่มีความเสี่ยงในระดับหนึ่งสำหรับผลกระทบที่ปลายหลายที่เป็นไปได้
ของการรักษาของพวกเขา ความเสี่ยงนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการเช่นชนิดของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
ชนิดและปริมาณของการรักษาพวกเขาได้รับและอายุของเด็กในช่วงเวลาของ
การรักษา มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะหารือเกี่ยวกับผลกระทบสิ่งที่เป็นไปได้เหล่านี้อาจจะมาพร้อมบุตรหลานของคุณ
ทีมแพทย์เพื่อให้คุณทราบว่าจะดูและรายงานไปพบแพทย์.
มะเร็งที่สอง: เด็กที่ได้รับการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นของ
การพัฒนามะเร็งอื่น ๆ ต่อไปในชีวิต หนึ่งในผลข้างเคียงที่ร้ายแรงที่สุดที่เป็นไปได้ของ
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน lymphocytic (ทั้งหมด) การบำบัดเป็นความเสี่ยงที่มีขนาดเล็กในการได้รับเฉียบพลัน myelogenous
มะเร็งเม็ดเลือดขาว (AML) ในภายหลัง นี้เกิดขึ้นในเวลาประมาณ 5% ของผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัดหลังจากที่
ยาเสพติดที่เรียกว่า epipodophyllotoxins (etoposide, teniposide) หรือ alkylating ตัวแทน
(cyclophosphamide, chlorambucil) แน่นอนความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งที่สองเหล่านี้
จะต้องสมดุลกับผลประโยชน์ที่ชัดเจนของการรักษาโรคที่คุกคามชีวิตเช่น
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว.
หัวใจและปอดปัญหา: ยาเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัดที่หน้าอก
บางครั้งอาจทำให้เกิดปัญหาหัวใจหรือปอดในภายหลัง ในชีวิต. ความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและ
โรคหลอดเลือดสมองมีมากขึ้นในหมู่ผู้ที่ได้รับการรักษาทั้งหมดเป็นเด็กดังนั้นระวังติดตามเป็น
สิ่งที่สำคัญมาก รอดชีวิตนอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักเกินและจะมีสูง
ความดันโลหิตซึ่งสามารถนำไปสู่ปัญหาเหล่านี้.
ปัญหาการเรียนรู้: การรักษาที่มีการรักษาด้วยรังสีที่สมองหรือบางชนิด
ของยาเคมีบำบัดอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการเรียนรู้ในเด็กบางคน ด้วยเหตุนี้แพทย์พยายาม
ที่จะ จำกัด การรักษาที่อาจมีผลต่อสมอง (รวมถึงรังสี) มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้.
การเจริญเติบโตและการพัฒนา: การรักษาโรคมะเร็งบางคนอาจมีผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กเพื่อให้พวกเขา
อาจจะจบลงเล็กน้อยสั้นเป็นผู้ใหญ่ นี่คือความจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด นี้
สามารถช่วยผู้รอดชีวิตโดยการรักษาด้วยฮอร์โมนการเจริญเติบโตถ้าจำเป็น.
ปัญหาการเจริญพันธุ์การรักษาโรคมะเร็งนอกจากนี้ยังอาจมีผลต่อการพัฒนาทางเพศและความสามารถที่จะมี
เด็กต่อไปในชีวิต พูดคุยกับทีมงานการดูแลโรคมะเร็งของบุตรของท่านเกี่ยวกับความเสี่ยงของภาวะมีบุตรยาก
กับการรักษาและถามว่ามีตัวเลือกในการรักษาความอุดมสมบูรณ์เช่นอสุจิ
ธนาคาร สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่ความอุดมสมบูรณ์และสตรีที่เป็นมะเร็งและความอุดมสมบูรณ์และ
ผู้ชายด้วยโรคมะเร็ง.
ปัญหากระดูก: ความเสียหายต่อกระดูกหรือกระดูกพรุน (ผอมบางของกระดูก) อาจเกิดจาก
การใช้งานของ prednisone, dexamethasone หรือยาเสพติดเตียรอยด์อื่น ๆ .
อาจจะมีคนอื่น ๆ ที่เป็นไปได้ ภาวะแทรกซ้อนจากการรักษาด้วยเคมีบำบัดเป็นอย่างดี บุตรหลานของคุณ
หมอควรตรวจสอบปัญหาใด ๆ ที่เป็นไปได้กับคุณก่อนที่เด็กของคุณเริ่มต้น
การรักษา.
พร้อมกับผลข้างเคียงทางกายภาพบางรอดชีวิตวัยเด็กโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวอาจมี
ปัญหาทางอารมณ์หรือจิตใจ พวกเขายังอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการตามปกติ
การทำงานและการทำงานของโรงเรียน เหล่านี้มักจะสามารถอยู่กับการสนับสนุนและ
ให้กำลังใจ ถ้ามีความจำเป็นแพทย์และสมาชิกคนอื่น ๆ ของทีมงานดูแลสุขภาพสามารถ
แนะนำโปรแกรมการสนับสนุนพิเศษและบริการที่จะช่วยให้เด็กหลังการรักษาโรคมะเร็ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลกระทบระยะยาวของการรักษาในวัยเด็กของสายมะเร็งเม็ดเลือดขาวเนื่องจากความก้าวหน้าที่สำคัญในการรักษา เด็กส่วนใหญ่ได้รับการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวตอนนี้ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ ดังนั้น สุขภาพของพวกเขาขณะที่พวกเขาได้รับเก่าที่มีมาเพิ่มเติมลงในโฟกัสในล่าสุดปีเช่นเดียวกับการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาววัยเด็กต้องเชี่ยวชาญมากวิธีการ ดังนั้นไม่การดูแลและการติดตามหลังการรักษา ปัญหาก่อนหน้านี้ได้รับการยอมรับมากขึ้นมากก็สามารถปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพวัยเด็กโรคมะเร็งรอดชีวิตมีความเสี่ยง ไปบางส่วน สำหรับผลกระทบที่เป็นไปได้หลายสายของการรักษาของพวกเขา ความเสี่ยงนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนของปัจจัยเช่นชนิดของมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดและปริมาณของการรักษาที่ได้รับ และอายุของเด็กที่เวลาของการรักษา มันสำคัญที่จะกล่าวว่าผลกระทบเหล่านี้อาจจะเป็นเด็กของคุณทีมแพทย์เพื่อให้คุณทราบว่าเพื่อดู และ รายงานหมอที่ 2 : เด็กโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาสำหรับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวมีความเสี่ยงสูงของการพัฒนามะเร็งอื่น ๆในชีวิตในภายหลัง หนึ่งของร้ายแรงที่สุดผลข้างเคียงของเฉียบพลันมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดลิมโฟบลาสติก ( ทั้งหมด ) การรักษาความเสี่ยงเล็กน้อยของการเฉียบพลันชนิด myelogenousลูคีเมีย ( AML ) ในภายหลัง นี้เกิดขึ้นประมาณ 5% ของผู้ป่วยหลังได้รับยาเคมีบำบัดยาเสพติดที่เรียกว่า epipodophyllotoxins ( การนำเทนิโพไซด์ , ) หรือนกบั้งรอกปากแดง( ด้วยการใช้คลอแรมบูซิล , ) แน่นอน ความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งที่สองเหล่านี้ต้องมีความสมดุลกับประโยชน์ที่ชัดเจนของการรักษาโรคร้ายแรง เช่นลูคีเมียปัญหาเรื่องหัวใจและปอด : ยาเคมีบำบัดหรือรังสีรักษาบางอย่างที่หน้าอกก็เพราะ หัวใจ ปอด หรือปัญหาในชีวิตในภายหลัง ความเสี่ยงของโรคหัวใจและจังหวะจะสูงมากในหมู่ผู้ปฏิบัติทั้งหมด เป็นเด็ก ดังนั้นระวังติดตามที่สำคัญมาก ผู้รอดชีวิตทั้งหมดนอกจากนี้มีแนวโน้มที่จะอ้วน และมีสูงความดันโลหิต ซึ่งจะส่งผลให้ปัญหาเหล่านี้ปัญหาการเรียนรู้ : การรักษาที่มีการฉายรังสีที่สมอง หรือบางชนิดยาเคมีบำบัด อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการเรียนรู้ในเด็กบาง ด้วยเหตุนี้ แพทย์พยายามเพื่อ จำกัด การรักษาที่อาจส่งผลกระทบต่อสมอง รวมทั้งรังสี ) มากที่สุดการเจริญเติบโตและการพัฒนาในการรักษามะเร็งอาจมีผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก เพื่อให้พวกเขาอาจเป็นบิตสั้น เป็นผู้ใหญ่ นี้เป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ นี้สามารถช่วยได้โดยการรักษาด้วยฮอร์โมนการเจริญเติบโตผู้รอดชีวิต , ถ้าจำเป็นความอุดมสมบูรณ์ของปัญหา : การรักษามะเร็งอาจจะมีผลต่อพัฒนาการทางเพศและความสามารถที่จะมีเด็กในชีวิตในภายหลัง พูดคุยกับเด็กของคุณการดูแลโรคมะเร็งทีมเกี่ยวกับความเสี่ยงของภาวะมีบุตรยากกับการรักษา และถามว่ามีตัวเลือกสำหรับการรักษาความอุดมสมบูรณ์ เช่น อสุจิธนาคาร ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของผู้หญิงกับโรคมะเร็งและความอุดมสมบูรณ์ และมนุษย์กับมะเร็งปัญหากระดูกกระดูกเกิดความเสียหายหรือโรคกระดูกพรุน ( ผอมบางของกระดูก ) อาจเป็นผลจากการใช้ยาต้านภูมิแพ้ชนิดหนึ่งเดกซาเมทาโซน หรืออื่น ๆ , การใช้ยาอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนจากยาเคมีบำบัดที่เป็นไปได้อื่น ๆเช่นกัน ของเด็กแพทย์ควรตรวจสอบปัญหาที่เป็นไปได้ใด ๆ กับคุณ ก่อนที่เด็กของคุณเริ่มต้นการรักษาพร้อมกับผลกระทบด้านกายภาพ มีผู้รอดชีวิตอาจจะวัยเด็ก .ปัญหาทางอารมณ์หรือจิตใจ พวกเขายังอาจจะมีปัญหากับปกติหน้าที่และการทำงานของโรงเรียน เหล่านี้มักจะสามารถ addressed กับสนับสนุนให้กําลังใจ ถ้าต้องการแพทย์และสมาชิกคนอื่น ๆของทีมการดูแลสุขภาพสามารถแนะนำโปรแกรมสนับสนุนพิเศษและการบริการต่างๆ เพื่อช่วยให้เด็กหลังการรักษามะเร็ง