Throughout the estrous cycle the ov

Throughout the estrous cycle the oviduct epithelium undergoes
dramatic morphological and functional changes. To
elucidate cyclic cellular events and associated regulation
mechanisms of 17beta estradiol (E2) and progesterone (P4), we
mimicked estrous cycle stages in vitro using a culture system of
primary porcine oviduct epithelium cells (POEC). Cells were
polarized in an air/liquid interface and then treated with E2 and
P4 for physiological time periods: In experiment 1, high
concentration of P4 with low concentration of E2 for 10 days
resembled diestrus; in experiment 2, following the previous
diestrus, sequential high E2 with low P4 for 2.5 days represented
estrus. Histomorphometry and electron microscopy showed
cyclic changes in cellular height, cell population, and cilia
density under the influence of hormone stimulation. Transepithelial
electrical resistance was high in simulated diestrus but
reduced in estrus. Thus, E2 and P4 affect cellular polarity,
transformation of ciliated and secretory cells, as well as
electrical conductivity of oviduct epithelium. Simulation of
diestrus led to significant decrease in expression of hormone
receptors (PGR and ESR1) and other epithelial markers (MUC16,
OVGP1, and HSP90B1), while sequential simulated estrus
caused an increase in these markers. The hormonal regulation
of some marker genes was clearly time-dependent. Furthermore,
POEC showed increased sperm-binding capacity in simulated
estrus. In this study, we also present a novel approach based on
the AndroVision software, which can be routinely utilized as a
parameter for ciliary activity, and for the first time, we showed
fluid movement patterns along the epithelium lining in vitro.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตลอดวงจร estrous oviduct epithelium ผ่านสัณฐาน และการทำงานเปลี่ยนแปลงฉับพลัน ถึงelucidate วงจรเครือข่ายกิจกรรมและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกลไกของ 17beta estradiol (E2) และฮอร์โมน (P4), เราระยะของรอบการ estrous ในหลอดทดลองโดยใช้ระบบวัฒนธรรมของเลียนแบบเซลล์เยื่อบุผิว oviduct หมูหลัก (POEC) เซลล์ขั้วในอินเทอร์เฟซของเหลวอากาศ และได้รับการรักษาแล้ว กับ E2 และP4 สำหรับรอบระยะเวลาทางสรีรวิทยา: ในการทดสอบ 1 สูงความเข้มข้นของ P4 กับความเข้มข้นต่ำของ E2 10 วันคล้าย diestrus ในการทดลองที่ 2 ต่อก่อนหน้านี้diestrus ลำดับสูง E2 กับ P4 ต่ำ 2.5 วันแทนestrus Histomorphometry และแสดงให้เห็นว่าชาวดัตช์วงจรการเปลี่ยน แปลงความสูงของเซลล์ เซลล์ประชากร ciliaความหนาแน่นภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมนกระตุ้น Transepithelialความต้านทานไฟฟ้าคือ diestrus จำลองสูง แต่ลดลงใน estrus ดังนั้น E2 และ P4 มีผลต่อเซลลูลาร์ขั้วการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ ciliated และ secretory เป็นการนำไฟฟ้าของ oviduct epithelium การจำลองการนำไปสู่การลดลงของฮอร์โมนสำคัญ diestrusรับ (PGR และ ESR1) และเครื่องหมายอื่น ๆ ของเยื่อบุผิว (MUC16OVGP1 และ HSP90B1), ในขณะ estrus จำลองตามลำดับเกิดจากการเพิ่มขึ้นในเครื่องหมายเหล่านี้ การควบคุมของฮอร์โมนของยีนเครื่องหมายบางอย่างได้อย่างชัดเจนเวลาขึ้นอยู่กับ นอกจากนี้POEC แสดงให้เห็นว่าเพิ่มสเปิร์มรวมความสามารถในการจำลองestrus ในการศึกษานี้ เรายังนำเสนอวิธีการนวนิยายอิงซอฟต์แวร์ AndroVision ซึ่งสามารถใช้เป็นประจำเป็นการพารามิเตอร์ สำหรับกิจกรรม ciliary และเป็นครั้งแรก เราพบว่ารูปแบบการเคลื่อนไหวไปตามเยื่อบุผิวเยื่อบุในหลอดทดลอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตลอดวงจรการเป็นสัดเยื่อบุผิวท่อนำไข่ผ่านการ
เปลี่ยนแปลงทางสัณฐานวิทยาและการทำงานอย่างมาก เพื่อ
อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นวงกลมโทรศัพท์มือถือและการเชื่อมโยงการควบคุม
กลไกของ 17beta estradiol (E2) และ progesterone (P4) เรา
เลียนแบบขั้นตอนของวงจรการเป็นสัดในหลอดทดลองโดยใช้ระบบวัฒนธรรมของ
สุกรหลักท่อนำไข่เซลล์เยื่อบุผิว (POEC) เซลล์ที่ถูก
โพลาไรซ์ในการติดต่อทางอากาศ / ของเหลวและรับการรักษาด้วย E2 แล้ว
P4 สำหรับช่วงเวลาที่ทางสรีรวิทยา: การทดลองที่ 1 สูง
ความเข้มข้นของ P4 ที่มีความเข้มข้นต่ำของ E2 เป็นเวลา 10 วัน
คล้าย diestrus; ในการทดลองที่ 2 ต่อไปก่อนหน้านี้
diestrus, E2 สูงต่อเนื่องกับ P4 ต่ำ 2.5 วันเป็นตัวแทนของ
การเป็นสัด Histomorphometry และกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแสดงให้เห็น
การเปลี่ยนแปลงวงจรในระดับความสูงโทรศัพท์มือถือประชากรมือถือและขน
หนาแน่นอยู่ภายใต้อิทธิพลของการกระตุ้นฮอร์โมน Transepithelial
ต้านทานไฟฟ้าอยู่ในระดับสูงใน diestrus จำลอง แต่
ลดลงในสัด ดังนั้น E2 และ P4 ส่งผลกระทบต่อขั้วมือถือ,
การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ ciliated และหลั่งเช่นเดียวกับ
การนำไฟฟ้าของเยื่อบุผิวท่อนำไข่ การจำลองการ
diestrus นำไปสู่การลดลงอย่างมีนัยสำคัญในการแสดงออกของฮอร์โมน
ผู้รับ (PGR และ ESR1) และเครื่องหมายอื่น ๆ เยื่อบุผิว (MUC16,
OVGP1 และ HSP90B1) ในขณะที่ลำดับตกมันจำลอง
ที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของเครื่องหมายเหล่านี้ กฎระเบียบของฮอร์โมน
ของยีนเครื่องหมายบางอย่างเห็นได้ชัดขึ้นกับเวลา นอกจากนี้
กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่า POEC สเปิร์มที่มีผลผูกพันในการจำลอง
การเป็นสัด ในการศึกษานี้เรายังนำเสนอแนวทางใหม่บนพื้นฐานของ
ซอฟต์แวร์ AndroVision ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นประจำเป็น
พารามิเตอร์สำหรับกิจกรรมปรับเลนส์และเป็นครั้งแรกที่เราแสดงให้เห็นว่า
รูปแบบการเคลื่อนไหวของเหลวตามเยื่อบุเยื่อบุผิวในหลอดทดลอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตลอดการเป็นสัดรอบเยื่อบุผิวของท่อนำไข่ลักษณะการทำงานที่น่าทึ่งและการเปลี่ยนแปลง เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องระเบียบและโทรศัพท์มือถือเป็นกลไกของ 17beta ออล ( E2 ) และโปรเจสเตอโรน ( P4 ) , เราวงจรการเป็นสัดในหลอดทดลอง mimicked ขั้นตอนการใช้ระบบของวัฒนธรรมหลักจากท่อนำไข่ เยื่อบุผิวเซลล์ ( poec ) เซลล์คือขั้วในอากาศ / ของเหลวเฟสแล้วถือว่า E2 และP4 สำหรับช่วงเวลาในการทดลองทางสรีรวิทยา : 1 สูงความเข้มข้นของ P4 ที่มีความเข้มข้นต่ำ ทู เป็นเวลา 10 วันมีการศึกษาเฉพาะ ในการทดลองที่ 2 ตามเดิมการศึกษาเฉพาะลำดับสูงต่ำ , E2 กับ P4 2.5 วันแสดงสัด . histomorphometry และจุลทรรศน์อิเล็กตรอนพบว่าวงจรการเปลี่ยนแปลงในประชากรและความสูงของเซลล์เซลล์ซิเลียความหนาแน่นภายใต้อิทธิพลของการกระตุ้นฮอร์โมน transepithelialความต้านทานสูงในการจำลองการศึกษาเฉพาะแต่ลดลงในกลุ่ม . ดังนั้น , E2 และ P4 มีผลต่อเซลล์จและการเปลี่ยนแปลงของ ciliated พบเซลล์ ตลอดจนค่าการนำไฟฟ้าของท่อนำไข่ เยื่อบุผิว . จำลองของการศึกษาเฉพาะนำไปสู่การลดลงอย่างมากในการแสดงออกของฮอร์โมน( pgr ตัวรับ และ esr1 ) และเครื่องหมายอื่น ๆ ( muc16 บุ ,ovgp1 และ hsp90b1 ) ในขณะที่ระบบสัดจำลองทำให้มีการเพิ่มเครื่องหมายเหล่านี้ การควบคุมฮอร์โมนบางยีนเครื่องหมายชัดเจนเวลา . นอกจากนี้มีความสามารถในการเพิ่ม poec อสุจิจำลองสัด . ในการศึกษานี้จึงได้นำเสนอแนวทางใหม่ตามการ androvision ซอฟต์แวร์ซึ่งสามารถตรวจใช้เป็นพารามิเตอร์สำหรับกิจกรรมที่สั่นและเป็นครั้งแรกที่เราพบของเหลวเคลื่อนไหวรูปแบบตามเยื่อบุเยื่อบุหลอด