• An emboli-busting drug (in the ca

• An emboli-busting drug (in the case of hyaluronic acid, this would be hyaluronidase- possibly delivered intra-arterially by an adventurous interventional radiologist).
To be clear, your filler-blind patient needs to see (no pun intended) an ophthalmologist, preferably in a hospital with interventional radiology, immediately. Although you will be shaken, it could be beneficial for you to attend and explain the theory presented here as to how this might have happened. Don’t tell them about the pun above; they will have heard that one before.
Filler skin necrosis
Still frightening enough to make you think twice about your career choice, less rare than filler blindness and just as hot a topic at aesthetics conferences, is filler skin necrosis. Information on how to treat this condition has been extremely slow to emerge but, thanks to the “Expert Consensus on complications of Botulinum Toxin and Dermal Filler treatment” (March 2014) we at last have some guidelines on how to manage this nightmare scenario. This post is made partly from that publication but also taken from my knowledge and experience from the past year of attending aesthetics conferences funded by Galderma and Merz.
Recognition
This is the easy part. Most people, if they know enough about skin necrosis to fear it, will know the basics. You inject dermal filler, the surrounding skin goes white, you take off your gloves, gulp, call an ambulance and hand in your notice. Thankfully it’s not quite as bad as this. We’ll talk about prevention next, but first, let’s consider the risky areas. From the 32 cases reported worldwide (as of March 2014), most were from injections in the nasolabial region with glabellar frown lines being the second most common area. Blanching surrounding the area injected is the most common initial presentation if arterial occlusion has occurred but an abnormally dark-coloured bruise could be a sign of a venous occlusion- not as catastrophic but still much more spectacular than normal bruising. Following the initial arterial occlusion you might expect your patient to experience pain (immediately); but not always. This blanching would then be expected to give way to mottling and finally grey and black as the skin becomes necrotic.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

•การทำลาย emboli ยา (ในกรณีของกรด hyaluronic นี้จะ hyaluronidase-อาจส่ง โดย radiologist interventional การผจญภัย intra-arterially)พ้น ผู้ป่วยตาบอดเติมเพราะคุณต้องดู (ปั่นไม่ตั้งใจ) ช่วยการ ควรอยู่ในโรงพยาบาลกับ interventional รังสีวิทยา ทันที แม้ว่าจะหวาดวิตก คุณอาจเป็นประโยชน์สำหรับคุณในการเข้าร่วมประชุม และอธิบายทฤษฎีที่นำเสนอเป็นวิธีนี้อาจเกิดขึ้น ไม่บอกพวกเขาเกี่ยวกับเตาปูนข้าง พวกเขาจะได้ยินว่าหนึ่งก่อนการตายเฉพาะส่วนผิวของฟิลเลอร์ยังคงน่ากลัวพอจะทำให้คุณคิดว่า สองครั้งเกี่ยวกับอาชีพทางเลือกของคุณ หายากน้อยกว่าตาบอดฟิลเลอร์และร้อนเป็นเพียงหัวข้อที่ประชุมความสวยงาม ได้การตายเฉพาะส่วนผิวของฟิลเลอร์ วิธีการรักษาเงื่อนไขนี้แล้วช้ามากโผล่ แต่ ขอบคุณ "ผู้เชี่ยวชาญรับฉันทามติในภาวะแทรกซ้อนการรักษาพิษ Botulinum และสารเติมผิวหนัง" (2014 มีนาคม) เรามีแนวทางในการจัดการสถานการณ์นี้ฝันร้ายที่สุด โพสต์นี้เป็นบางส่วนจากสิ่งพิมพ์ แต่ยัง มาจากความรู้และประสบการณ์จากปีผ่านมาของการเข้าร่วมสัมมนาสุนทรียศาสตร์ได้รับการสนับสนุน โดย Galderma และ Merz ของฉันการรับรู้นี้เป็นส่วนง่าย คนส่วนใหญ่ ถ้าพวกเขาทราบเกี่ยวกับการตายเฉพาะส่วนผิวจะกลัวมัน จะทราบพื้นฐาน คุณฉีดฟิลเลอร์ที่ผิวหนัง ผิวหนังรอบ ๆ ไปขาว คุณถอดถุงมือของคุณ gulp พยาบาล และมือในทราบ ขอบคุณไม่ค่อนข้างไม่ดีเช่นนี้ เราจะพูดคุยเกี่ยวกับป้องกัน แรก แต่ลองพิจารณาพื้นที่เสี่ยง จากกรณี 32 รายงานทั่วโลก (ณ 2014 มีนาคม), ส่วนใหญ่ได้จากการฉีดในภูมิภาค nasolabial กับคิ้ว glabellar บรรทัด สองทั่วพื้นที่ Blanching บริเวณที่ฉีดเป็นงานนำเสนอเริ่มต้นมากที่สุดถ้าเกิดต้วไม่ควรมองข้าม แต่อาจความดำไม่ควรมองข้ามไม่เป็นรุนแรง แต่งดงามยังคงมากขึ้นกว่าปกติช้ำระบมเป็นสีมืดอย่างผิดปกติ ต่อไปนี้ไม่ควรมองข้ามต้วแรกที่ คุณอาจคาดว่าผู้ป่วยสัมผัสความเจ็บปวด (ทันที); แต่ไม่ Blanching นี้จะแล้วคาดหวังจะ mottling และสุดท้ายสีเทา และสีดำเป็นผิวเป็น necrotic

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

•ยาเสพติด emboli-busting (ในกรณีของกรดไฮยาลูโรนี้จะถูกส่ง hyaluronidase- อาจจะเป็นภายใน arterially โดยรังสีแพทย์ interventional ผจญภัย).
ต้องมีความชัดเจนของผู้ป่วยตาบอดฟิลเลอร์ของคุณต้องการที่จะเห็น (ไม่มีเล่นสำนวนเจตนา) จักษุแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงพยาบาลที่มีรังสีวิทยาทันที แม้ว่าคุณจะได้รับการเขย่ามันอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณที่จะเข้าร่วมและอธิบายทฤษฎีที่นำเสนอนี้เป็นวิธีการนี้อาจจะเกิดขึ้น อย่าบอกพวกเขาเกี่ยวกับปุข้างต้นนั้น พวกเขาจะเคยได้ยินว่าหนึ่งก่อน.
เนื้อร้ายผิวฟิลเลอร์
ยังคงน่ากลัวพอที่จะทำให้คุณคิดรอบคอบเกี่ยวกับการเลือกอาชีพของคุณหายากน้อยกว่าตาบอดฟิลเลอร์และเพียงแค่เป็นร้อนหัวข้อในการประชุมความสวยงามเป็นเนื้อร้ายผิวฟิลเลอร์ ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการรักษาสภาพนี้ได้ช้ามากที่จะโผล่ออกมา แต่ต้องขอบคุณ "ฉันทามติจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนของ botulinum พิษและการรักษาผิวหนังฟิลเลอร์" (มีนาคม 2014) ที่สุดท้ายที่เรามีแนวทางบางประการเกี่ยวกับวิธีการจัดการสถานการณ์ฝันร้ายนี้ โพสต์นี้จะทำส่วนหนึ่งมาจากสิ่งพิมพ์ที่ แต่ยังนำมาจากความรู้และประสบการณ์ของฉันจากปีที่ผ่านมาของการเข้าร่วมการประชุมความสวยงามได้รับทุนจาก Galderma และ Merz.
การรับรู้
นี้เป็นส่วนที่ง่าย คนส่วนใหญ่ถ้าพวกเขารู้เพียงพอเกี่ยวกับการตายของเนื้อเยื่อผิวที่จะต้องกลัวมันจะรู้พื้นฐาน คุณฉีดฟิลเลอร์, ผิวรอบไปสีขาว, คุณถอดถุงมือของคุณอึกเรียกรถพยาบาลและแจ้งให้ทราบล่วงหน้าในมือของคุณ โชคดีที่มันไม่ได้ค่อนข้างเป็นที่เลวร้ายเช่นนี้ เราจะพูดคุยเกี่ยวกับการป้องกันต่อไป แต่แรกให้พิจารณาพื้นที่ที่มีความเสี่ยง จาก 32 รายงานกรณีทั่วโลก (ณ มีนาคม 2014) ส่วนใหญ่มาจากการฉีดในภูมิภาค nasolabial มีเส้นขมวด glabellar เป็นพื้นที่ที่พบมากที่สุดที่สอง ลวกบริเวณโดยรอบการฉีดจะนำเสนอครั้งแรกที่พบมากที่สุดถ้าอุดตันของหลอดเลือดได้เกิดขึ้น แต่รอยช้ำอย่างผิดปกติสีเข้มอาจเป็นสัญญาณของ occlusion- ดำไม่เป็นภัยพิบัติ แต่ยังคงงดงามมากขึ้นกว่าปกติช้ำ หลังจากที่อุดตันเส้นเลือดเริ่มต้นคุณอาจคาดหวังผู้ป่วยของคุณจะได้สัมผัสกับความเจ็บปวด (ทันที); แต่ก็ไม่เสมอ ลวกนี้แล้วจะได้รับการคาดหวังว่าจะให้วิธีการและในที่สุดก็เป็นด่างดำสีเทาและสีดำเป็นผิวจะกลายเป็นเนื้อตาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

- การ emboli busting ยา ( ในกรณีของกรดไฮยาลูโรนิก นี้จะเป็นไฮอะลูโรนิเดส - จะส่งภายใน arterially โดย interventional รังสีแพทย์หวาดเสียว )
ให้ชัดเจน , ฟิลเลอร์ตาบอด คนไข้ต้องดู ( ไม่มีเล่นสำนวนเจตนา ) จักษุแพทย์ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลที่มีแผนกรังสีวิทยา interventional , ทันที ถึงแม้ว่าคุณจะถูกเขย่ามันอาจเป็นประโยชน์สำหรับคุณที่จะเข้าร่วมประชุมและอธิบายทฤษฎีที่นำเสนอที่นี่เป็นวิธีการที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ได้บอกพวกเขาเกี่ยวกับปูนด้านบน พวกเขาจะเคยได้ยินมาก่อน เพราะผิวยังขาด

น่ากลัวพอที่จะทำให้คุณคิดว่าสองครั้งเกี่ยวกับการเลือกอาชีพของคุณ น้อยกว่าตัวตาบอดและเป็นร้อนหัวข้อในการประชุม คือ เติมผิวทาง , ตรงข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการรักษาภาวะนี้ได้ช้ามาก โผล่แต่ขอบคุณ " ผู้เชี่ยวชาญฉันทามติในภาวะแทรกซ้อนของการรักษาผิวหนัง และสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน " ( มีนาคม 2014 ) เราที่ล่าสุดมีแนวทางเกี่ยวกับวิธีการจัดการสถานการณ์ฝันร้าย .โพสต์นี้เป็นส่วนหนึ่งจากที่ตีพิมพ์ แต่ยังได้รับความรู้และประสบการณ์จากปีที่ผ่านมาของการเข้าร่วมประชุมและสุนทรียศาสตร์ซึ่งสนับสนุนโดยเมิร์ซ .

ยอมรับนี้เป็นส่วนที่ง่าย คนส่วนใหญ่ , ถ้าพวกเขารู้เพียงพอเกี่ยวกับผิวของความกลัว จะทราบข้อมูลพื้นฐาน คุณฉีด dermal filler ผิวโดยรอบไปสีขาว เธอถอดถุงมือของคุณกรึ๊บเรียกรถพยาบาล และมือในการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าของคุณ Thankfully มันไม่ได้เลวร้ายอย่างนี้ เราจะพูดเกี่ยวกับการป้องกันต่อไป แต่ก่อนอื่นลองพิจารณาพื้นที่ที่มีความเสี่ยง จาก 32 รายทั่วโลก ( เดือนมีนาคม 2014 ) ส่วนใหญ่มาจากการฉีดในภูมิภาค nasolabial กับ glabellar เส้นขมวดเป็น พื้นที่ที่พบมากที่สุดที่สองลวกรอบบริเวณที่ฉีดส่วนใหญ่จะเริ่มต้นการนำเสนอถ้ากรมการเกิดขึ้นแต่รอยช้ำสีเข้มผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการอุดตันหลอดเลือดดำ - ไม่รุนแรง แต่ยังมากน่าตื่นเต้นมากขึ้นกว่าปกติฟกช้ำ ต่อไปนี้เริ่มต้นกรมการที่คุณอาจคาดหวังว่าผู้ป่วยของคุณจะได้สัมผัสกับความเจ็บปวด ( ทันที ) ; แต่ไม่เสมอไปนี้จะถูกคาดว่าจะลวกให้ mottling และสุดท้าย สีเทา และสีดำ กลายเป็นผิวที่เปื่อย