where B is the image size and G is

where B is the image size and G is the object size.
By transforming we obtain the lens formula
1. From the values of b and g measured in Problem 1 we calculate
ƒ, the average value of ƒ and its standard deviation. For
the first lens (100 mm) ƒ1 was 100.2 mm with a standard deviation
sf1
of 0.6 mm; for the second (50 mm), ƒ2 was 53.1 mm
with a standard deviation sf2
of 0.9 mm. (The focal lengths
marked on the lenses have a tolerance of ±5%.)
2. Since gI = bII (the object distance in case I = image distance
in case II) and since bI = gII ,

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ซึ่ง B คือ ขนาดภาพ และ G เป็นขนาดวัตถุโดยเปลี่ยน เราได้สูตรเลนส์1. จากค่าของ b และ g วัดใน 1 ปัญหาที่เราคำนวณƑ ƒค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของ สำหรับƒ1 (100 mm) เลนส์แรกถูก 100.2 มม. มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานsf10.6 มม. สำหรับที่สอง (50 mm), ƒ2 53.1 มิลลิเมตรมี sf2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของ 0.9 mm. (โฟกัสความยาวทำเครื่องหมายบนเลนส์มีความอดทนของ± 5%)2. ตั้งแต่ gI = bII (วัตถุที่ห่างจากกรณีผม =ระยะภาพในกรณีที่สอง) และ ตั้งแต่สอง = gII

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่ B คือขนาดของภาพและ G เป็นขนาดของวัตถุ.
โดยเปลี่ยนเราได้รับสูตรเลนส์
1 จากค่านิยมของขกรัมและวัดในปัญหา 1 เราคำนวณ
ƒ, ค่าเฉลี่ยของƒและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สำหรับ
เลนส์แรก (100 มิลลิเมตร) ƒ1เป็น 100.2 มิลลิเมตรมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
SF1
0.6 มม; เป็นครั้งที่สอง (50 มิลลิเมตร) ƒ2เป็น 53.1 มม
กับ sf2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
0.9 มม (ความยาวโฟกัส
การทำเครื่องหมายบนเลนส์ที่มีความอดทนของ± 5%.)
2 ตั้งแต่ขน = BII (ระยะทางทางวัตถุในกรณีที่ผม = ระยะทางภาพ
ในกรณีที่สอง) และตั้งแต่ BI = GII,

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขนาดภาพที่ B และ G เป็นวัตถุขนาด .
โดยเปลี่ยนเราขอรับสูตรเลนส์
1 จากค่าของ b และ g วัดในปัญหาที่ 1 เราคำนวณ
ƒ ค่าเฉลี่ยของƒและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สำหรับ
เลนส์ก่อน ( 100 มม. ) ƒ 1 100.2 มม. กับส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ของ SFI 0.6 มิลลิเมตร สำหรับที่สอง ( 50 มม. ) , ƒ 2 / mm
กับส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน sf2
0.9 มิลลิเมตร( ความยาวโฟกัส
เครื่องหมายบนเลนส์ มีความอดทนต่อ± 5% )
2 ตั้งแต่กิ = bii ( วัตถุระยะไกลในกรณีที่ฉัน = ภาพระยะไกล
ในกรณี II ) และตั้งแต่บีจีไอไอ = ,