The data matched the proposition su

The data matched the proposition suggested by Ong et al. (2010) which is rich-get-richer implying that “extraverted individuals benefit more since Facebook simply provides another platform for them to communicate with friends and contacts made off-line” (Moore and McElroy, 2011). Hence, this research suggests that extraversion is positively associated to Facebook use such that extraverted people are likely to spend more time on the site and have more Facebook friends. While there were statistically significant associations between extraversion and Facebook use; number of Facebook friends; and time spent on Facebook; the proportion of variance explained in all instances was low as demonstrated by the coefficient of determination (r 2 ). This indicates that the extent of the relationships being accounted between the measured variables was too small (Table 7). The results were only marginally significant, and hence should be treated with caution. Hypothesis 2 predicted that neuroticism is positively related to Facebook use such that individuals who scored high on this trait spend more time on Facebook and seek

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อมูลตรงกับโจทย์แนะนำโดยออง et al. (2010) ซึ่งเป็นรวยรับยิ่งกล่าวคืออยู่อาจว่า "extraverted ผู้ประโยชน์เพิ่มเติมตั้งแต่ Facebook ก็ให้แพลตฟอร์มอื่นสำหรับการสื่อสารกับเพื่อนและผู้ติดต่อทำออฟไลน์" (มัวร์และ McElroy, 2011) ดังนั้น กล่าวแนะนำ extraversion ที่เป็นเชิงบวกเกี่ยวข้องกับการใช้ Facebook ที่คน extraverted มักจะใช้เวลาบนเว็บไซต์ และมีเพื่อนที่ Facebook ในขณะที่มีทางสถิติ ความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่าง extraversion และ Facebook ใช้ จำนวนเพื่อนใน Facebook และเวลาที่ใช้ใน Facebook สัดส่วนของผลต่างที่อธิบายไว้ในอินสแตนซ์ทั้งหมดได้ต่ำตามที่แสดง โดยค่าสัมประสิทธิ์ของความมุ่งมั่น (r 2) บ่งชี้ว่า ขอบเขตของความสัมพันธ์ถูกลงระหว่างตัวแปรที่วัดได้มีขนาดเล็กเกินไป (ตาราง 7) ผลลัพธ์ได้เพียงเล็กน้อยอย่างมีนัยสำคัญ และดังนั้น จะต้องกระทำ ด้วยความระมัดระวัง สมมติฐานที่ 2 ทำนายว่า neuroticism บวกเกี่ยวข้องกับการใช้ Facebook ซึ่งบุคคลที่ได้คะแนนสูงในลักษณะนี้ใช้เวลาบน Facebook และแสวงหา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อมูลที่ตรงกับเรื่องที่แนะนำโดย Ong, et al (2010) ซึ่งอุดมไปด้วยแถมยิ่งขึ้นหมายความว่า "บุคคล extraverted ได้รับประโยชน์มากขึ้นเนื่องจาก Facebook เพียงแค่ให้แพลตฟอร์มอื่นสำหรับพวกเขาที่จะสื่อสารกับเพื่อนและผู้ติดต่อทำแบบ off-line" (มัวร์และ McElroy 2011) ดังนั้นงานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าบุคลิกภาพมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับ Facebook ใช้งานดังกล่าวว่าคน extraverted มีแนวโน้มที่จะใช้เวลามากขึ้นในเว็บไซต์และมีเพื่อนใน Facebook มากขึ้น ในขณะที่มีการเชื่อมโยงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างบุคลิกภาพและการใช้งาน Facebook; จำนวนเพื่อน Facebook; และเวลาที่ใช้ใน Facebook; สัดส่วนของความแปรปรวนที่อธิบายไว้ในทุกกรณีที่อยู่ในระดับต่ำเป็นแสดงให้เห็นโดยค่าสัมประสิทธิ์การตัดสินใจ (R 2) นี้บ่งชี้ว่าขอบเขตของความสัมพันธ์ที่ถูกคิดระหว่างตัวแปรที่วัดได้มีขนาดเล็กเกินไป (ตารางที่ 7) ผลการวิจัยพบเพียงเล็กน้อยอย่างมีนัยสำคัญและด้วยเหตุนี้ควรได้รับการปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง สมมติฐานที่ 2 คาดการณ์ว่าความมั่นคงในอารมณ์มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับ Facebook ใช้งานดังกล่าวว่าบุคคลที่ได้คะแนนสูงในลักษณะนี้ใช้เวลามากขึ้นใน Facebook และแสวงหา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้อมูลที่ตรงกับข้อเสนอที่เสนอโดยองอาจ et al . ( 2010 ) ซึ่งเป็นคนรวยรวยขึ้นหมายความว่า " บุคคล extraverted ประโยชน์มากขึ้นเนื่องจาก Facebook ก็มีแพลตฟอร์มอื่นสำหรับพวกเขาที่จะสื่อสารกับเพื่อนและผู้ติดต่อทำออฟไลน์ " ( มัวร์และ McElroy 2011 ) ดังนั้นงานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าผลเป็นบวกที่ใช้ Facebook เช่นว่า extraverted ผู้คนมีแนวโน้มที่จะใช้เวลามากขึ้นในเว็บไซต์ และมีเพื่อนของ Facebook เพิ่มเติม ในขณะที่อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่าง 2 สมาคม และใช้ Facebook ; จำนวนเพื่อนในเฟซบุ๊ก และเวลาที่ใช้ใน Facebook ; อัตราส่วนของความแปรปรวน อธิบายไว้ในอินสแตนซ์เป็นต่ำเป็นแสดงให้เห็นโดยค่าสัมประสิทธิ์ตัวกำหนด ( R ( 2 ) นี้บ่งชี้ว่าขอบเขตของความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่เป็นวัดก็เล็กเกินไป ( ตารางที่ 7 ) ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ดังนั้นควรปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง สมมติฐานทางสถิติ 2 คาดการณ์ว่า มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับใช้ Facebook เช่นว่า บุคคลที่ได้คะแนนสูงในลักษณะนี้ใช้เวลาบน Facebook และแสวงหา