Wheat Field with Crows, made on a d

Wheat Field with Crows, made on a double-square canvas, depicts a dramatic, cloudy sky filled with crows over a wheat field.[1] A sense of isolation is heightened by a central path leading nowhere and by the uncertain direction of flight of the crows. The wind-swept wheat field fills two thirds of the canvas. Jules Michelet, one of van Gogh's favorite authors, wrote of the crows: "They interest themselves in everything, and observe everything. The ancients, who lived far more completely than ourselves in and with nature, found it no small profit to follow, in a hundred obscure things where human experience as yet affords no light, the directions of so prudent and sage a bird."[4] Kathleen Erickson finds the painting as expressing both sorrow and a sense of his life coming to an end.[5] The crows are used by van Gogh as a symbol of death and rebirth, or of resurrection.[6][7] The road, in contrasting colors of red and green, is said by Erickson to be a metaphor for a sermon he gave based on Bunyan's "Pilgrim's Progress" where the pilgrim is sorrowful that the road is so long, yet rejoices because the Eternal City waits at the journey's end.[8][9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้าวสาลีกับนกกา ทำผ้าใบสี่เหลี่ยมใหญ่ มีภาพท้องฟ้าน่าทึ่ง เมฆมากเต็มไป ด้วยกาผ่านเขตข้าวสาลี [1] ความรู้สึกแยกเป็นทำ โดยเส้นทางที่เซ็นทรัลนำไหน และทิศทางการบินของนกกาไม่แน่นอน ลมกวาดข้าวสาลีเต็มสองในสามของผืนผ้าใบ ชูลส์ Michelet หนึ่งในนักเขียนคนโปรดของแวนโก๊ะ เขียนของกาการ: "พวกเขาสนใจตัวเองในทุกสิ่ง และสังเกตทุกอย่าง สมัย ที่อาศัยอยู่ใน และ มีธรรมชาติสมบูรณ์ที่สุดยิ่งกว่าตัวเอง พบกำไรไม่เล็กไปตาม ในร้อยปิดบังสิ่งที่มนุษย์ยังเป็นประสบการณ์อันไม่มีแสง ทิศทางของ sage และรอบคอบเพื่อให้นก " [4] ฑีฆายุแคทลีนพบว่าภาพวาดเป็นการแสดงความเศร้าโศกและความรู้สึกของชีวิตของเขามาสิ้นสุด [5 ใช้กา] โดยแวนโก๊ะเป็นสัญลักษณ์ ของความตายและการเกิดใหม่ หรือฟื้นคืนชีพ [6] [7 ถนน] ในห้องสีแดงและเขียว กล่าว โดยฑีฆายุจะ อุปมาเทศน์เขาให้ใช้ของ Bunyan "แสวงบุญของความคืบหน้า" อกตรมว่า ถนนเป็นเวลานาน การแสวงบุญยัง rejoices เนื่องจากรอคอยที่สิ้นสุดการเดินทาง [8] [9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทุ่งข้าวสาลีที่มีกาทำบนผืนผ้าใบคู่ตารางแสดงให้เห็นละครท้องฟ้าเต็มไปด้วยกาเหนือทุ่งข้าวสาลี. [1] ความรู้สึกของการแยกเป็นทำเป็นโดยเส้นทางกลางชั้นนำที่ไหนเลยและทิศทางที่ไม่แน่นอนของเที่ยวบินของ กา ทุ่งข้าวสาลีลมพัดเติมสองในสามของผืนผ้าใบ จูลส์มิเชอหนึ่งในนักเขียนที่ชื่นชอบของฟานก็อกฮ์เขียนของกา: "พวกเขาสนใจในตัวเองทุกอย่างและสังเกตทุกอย่างที่คนโบราณที่อาศัยอยู่ห่างไกลมากขึ้นสมบูรณ์กว่าตัวเองและกับธรรมชาติพบว่ามันไม่มีกำไรเล็กที่จะปฏิบัติตามใน. ร้อยสิ่งปิดบังที่ประสบการณ์ของมนุษย์เป็นยังกำบังแสงไม่มีทิศทางของการที่ชาญฉลาดเพื่อให้และ Sage นก. ว่า "[4] แค ธ ลีนเอริกพบภาพวาดเพื่อแสดงทั้งความเศร้าโศกและความรู้สึกของชีวิตของเขามาถึงที่สิ้นสุดได้. [5] กาจะถูกใช้โดยฟานก็อกฮ์เป็นสัญลักษณ์ของความตายและการเกิดใหม่หรือการฟื้นคืนพระชนม์. [6] [7] ถนนในสีตัดกันของสีแดงและสีเขียวมีการกล่าวโดยเอริกจะเป็นอุปมาเทศน์เขาให้ตาม ในบันยัน "ผู้แสวงบุญของความคืบหน้า" ที่ผู้แสวงบุญเป็นทุกข์ว่าถนนเป็นเวลานานจึงยังเปรมปรีดิ์เพราะนิรันดร์ซิตี้รอในตอนท้ายของการเดินทาง. [8] [9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทุ่งข้าวสาลีกับกาาในคู่สี่เหลี่ยมผืนผ้าใบ , แสดงละคร , ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มไปด้วยกาเหนือทุ่งข้าวสาลี [ 1 ] ความรู้สึกของการแยกคือ heightened โดยกลางเส้นทางนำไม่มีที่ไหนเลยและโดยทิศทางที่ไม่แน่นอนของการบินของอีกา ลมกวาดทุ่งข้าวสาลีเติมสองในสามของผืนผ้าใบ จูลส์มิเชลเลท์ หนึ่งในผู้เขียนที่ชื่นชอบของแวนโก๊ะเขียนของกา : " พวกเขาสนใจตัวเองทุกอย่าง และสังเกตทุกอย่าง คนสูงอายุ คนที่อยู่ห่างไกลมากขึ้นสมบูรณ์กว่าตัวเอง และกับธรรมชาติ พบว่ามันไม่เล็ก กำไรตาม ในสิ่งที่มนุษย์ร้อยปิดบังประสบการณ์ยัง affords ไม่มีแสง ทิศทางของสุขุมและปัญญาชนนก " [ 4 ] แคธลีน อิริคสัน พบภาพเขียนที่แสดงทั้งความเศร้า และความรู้สึกของ ชีวิตของเขาจะจบลง [ 5 ] กาใช้โดยแวนโก๊ะ เป็นสัญลักษณ์ของความตายและการเกิดใหม่ หรือ การฟื้นคืนชีพของ [ 6 ] [ 7 ] ถนนในสีตัดกันของสีแดงและสีเขียว เป็นคำพูดของอิริคสันเป็นคำอุปมาสำหรับการ เขาให้ตามบันยัน " " ความคืบหน้าของผู้แสวงบุญที่นักเดินทางจะทุกข์ใจที่ถนนเป็นนาน แต่ชื่นชมยินดีเพราะเมืองนิรันดร์อยู่ในการเดินทางที่สิ้นสุด [ 8 ] [ 9 ]