Bacillus sp. strain ISTS2 was appli

Bacillus sp. strain ISTS2 was applied for the evaluation of biosurfactant production in the presence of various parameters. Initially, various carbon sources were tested in which strain ISTS2 produced biosurfactant in presence of n-hexane (30.16%) followed by CO2 (22.8%) and sodium bicarbonate (18.6%), respectively. These results elucidate that apart from conventional organic carbon sources (n-Hexadecane), inorganic carbon sources like sodium bicarbonate and 5% gaseous CO2 also contribute in biosurfactant production. Utilization of gaseous CO2 in production of value added product make the bacterium more suitable for CO2 sequestration and mitigation of problem of global warming.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ต้องใช้ sp.คัด ISTS2 ถูกใช้สำหรับการประเมินผลการผลิต biosurfactant ในต่อหน้าของพารามิเตอร์ต่าง ๆ ตอนแรก ทดสอบแหล่งคาร์บอนต่าง ๆ ในการที่ต้องใช้การ ISTS2 ผลิต biosurfactant ในของเอ็นเฮกเซน (30.16%) ตาม ด้วย CO2 (22.8%) และโซเดียมไบคาร์บอเนต (18.6%), ตามลำดับ ผลลัพธ์เหล่านี้ elucidate ว่า จากแหล่งอินทรีย์คาร์บอนธรรมดา (n-Hexadecane), แหล่งคาร์บอนอนินทรีย์เช่นโซเดียมไบคาร์บอเนต 5% CO2 เป็นต้นยังมีส่วนร่วมในการผลิต biosurfactant ใช้ CO2 เป็นต้นในการผลิตมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์แบคทีเรียเหมาะสำหรับ CO2 sequestration และลดปัญหาภาวะโลกร้อน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เชื้อ Bacillus sp สายพันธุ์ ISTS2 ถูกนำมาใช้สำหรับการประเมินผลของการทำการเพาะเลี้ยงเชื้อในการปรากฏตัวของพารามิเตอร์ต่างๆ ในขั้นต้นแหล่งคาร์บอนต่างๆได้มีการทดสอบสายพันธุ์ที่ผลิต ISTS2 แหล่งคาร์บอนในการปรากฏตัวของเฮกเซน (30.16%) ตามด้วย CO2 (22.8%) และโซเดียมไบคาร์บอเนต (18.6%) ตามลำดับ ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่านอกเหนือจากแหล่งอินทรีย์คาร์บอนทั่วไป (n-Hexadecane) แหล่งคาร์บอนนินทรีย์เช่นโซเดียมไบคาร์บอเนตและ 5% CO2 ก๊าซยังมีส่วนร่วมในการทำการเพาะเลี้ยงเชื้อ การใช้ประโยชน์จากก๊าซ CO2 ในการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มให้แบคทีเรียมากขึ้นเหมาะสำหรับการอายัด CO2 และบรรเทาผลกระทบของปัญหาของภาวะโลกร้อน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

bacillus sp. strain ists2 was applied for the evaluation ปฏิเสธ biosurfactant in the เท่านั้น parameters ย่าง . โดยแหล่งคาร์บอนต่างๆทดสอบซึ่งสายพันธุ์ ists2 ผลิตสารลดแรงตึงผิวในการบีบ ( 30.16 % ) รองลงมา คือ คาร์บอนไดออกไซด์ ( 22.8 % ) และโซเดียมไบคาร์บอเนต ( 18.6 % ) ตามลำดับผลลัพธ์เหล่านี้อธิบายว่า นอกจากแบบอินทรีย์ แหล่งคาร์บอน ( n-hexadecane ) แหล่งคาร์บอนอนินทรีย์ เช่น โซเดียมไบคาร์บอเนต 5% และยังสนับสนุนในการผลิตก๊าซ CO2 ) . การใช้ CO2 ก๊าซในการผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่มให้แบคทีเรียมากขึ้นเหมาะสำหรับสะสม CO2 และการลดปัญหาโลกร้อน