The elastic buckling and static ben

The elastic buckling and static bending of FG porous beams with various boundary conditions and two different porosity distributions have been investigated. Theoretical formulations are within the framework of Timoshenko beam theory. Ritz method is employed to obtain the critical buckling load, transverse bending deflection, and normal bending stress. The effects of porosity coefficient and slenderness ratio on the critical buckling load, maximum deflection and associated stress distribution are discussed. Numerical results show that:

(1)
An increase in the porosity coefficient and slenderness ratio leads to lower critical buckling loads of functionally graded porous beams.
(2)
The maximum deflections for the porous beams increase with an increase in the porosity coefficient and slenderness ratio.
(3)
The through-thickness normal stress distribution changes from linear to nonlinear with the increasing porosity coefficient, and varied more dramatically with the increasing slenderness ratio.
(4)
The porosity distribution has a significant influence on the buckling and static bending behavior of the beam. Compared with the unsymmetric distribution pattern, the symmetric distribution offers better buckling capacity and improved bending resistance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โก่งยืดหยุ่นและคงดัดของคานที่มีรูพรุน FG กับเงื่อนไขขอบเขตต่างๆและการกระจายความพรุนทั้งสองแตกต่างกันได้รับการตรวจสอบ สูตรทฤษฎีอยู่ภายในกรอบของทฤษฎีคานทิโม วิธี Ritz เป็นลูกจ้างที่จะได้รับโหลดที่สำคัญโก่งโก่งดัดขวางและความเครียดดัดปกติ ผลกระทบของค่าสัมประสิทธิ์ความพรุนและอัตราเรียวภาระโก่งสำคัญโก่งสูงสุดและการกระจายความเครียดที่เกี่ยวข้องที่จะกล่าวถึง ผลตัวเลขแสดงให้เห็นว่า:

(1)
การเพิ่มขึ้นของค่าสัมประสิทธิ์ความพรุนและอัตราเรียวนำไปสู่การลดโหลดโก่งสำคัญของคานที่มีรูพรุนอย่างช้า ๆ ตามหน้าที่.
(2)
โก่งตัวสูงสุดสำหรับการคานที่มีรูพรุนเพิ่มขึ้นด้วยการเพิ่มขึ้นของค่าสัมประสิทธิ์ความพรุนและอัตราเรียว .
(3)
ผ่านความหนาการเปลี่ยนแปลงการกระจายความเครียดตามปกติจากการเชิงเส้นที่จะไม่เชิงเส้นที่มีค่าสัมประสิทธิ์ความพรุนเพิ่มขึ้นและหลากหลายมากขึ้นอย่างมากที่มีอัตราส่วนเรียวเพิ่มขึ้น.
(4)
การกระจายความพรุนมีอิทธิพลอย่างมากต่อการโก่งงอและดัดคงพฤติกรรมของ คาน เมื่อเทียบกับรูปแบบการกระจาย unsymmetric การกระจายสมมาตรมีกำลังการผลิตที่ดีกว่าคาดและการปรับปรุงความต้านทานต่อการดัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยืดหยุ่นและการดัดของคานการโก่งงอแบบ FG พรุนกับเงื่อนไขขอบเขตต่าง ๆและสองการแจกแจงความพรุนที่แตกต่างกันได้รับการสอบสวน สูตรทฤษฎีอยู่ภายในกรอบของทฤษฎีคานไว้ Timoshenko . วิธีการคือใช้ Ritz ได้รับวิกฤตแรงโก่งเดาะ ขวางการดัดและปกติความเค้นดัด ผลของความพรุนสัมประสิทธิ์และอัตราส่วนความชะลูดในวิกฤตแรงโก่งเดาะ เบนความสนใจสูงสุดและการกระจายความเครียดที่ได้ถูก จากผลการวิเคราะห์พบว่า( 1 )เพิ่มความพรุนสัมประสิทธิ์และอัตราส่วนความชะลูดนักเพื่อลดการโก่งงอของคานที่มีรูพรุนระดับประ .( 2 )การโก่งตัวสูงสุดสำหรับคานพรุนเพิ่มขึ้นกับการเพิ่มขึ้นของค่าความพรุนและอัตราส่วนความชะลูด .( 3 )ผ่านความหนาปกติการกระจายความเค้นจากการเปลี่ยนแปลงเชิงเส้นเชิงเส้นกับการเพิ่มค่าความพรุน และหลากหลายมากขึ้นอย่างมากกับการเพิ่มอัตราส่วนความชะลูด .( 4 )รูพรุนกระจายที่มีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดและคงพฤติกรรมการดัดของคาน เมื่อเทียบกับรูปแบบการ unsymmetric การแจกแจงสมมาตรมีความจุที่ดีและปรับปรุงความต้านทานการโก่งงอ