commercial rainfed sugarcane cultiv

commercial rainfed sugarcane cultivation in Papua new guinea was begun in the early 1980s by Ramu Sugar ltd. Over the last 15 years, annual cane yields have ranged from 298 to 88 tonnes/hectare, this wide variation being largely explained by sudden and catastrophic infestation by month stem borers, cicadas, white grub and Ramu stunt virus. To a lesser extent under continuous cultivation included decreases in pH, available phosphorus and exchangeable potassium, and some preliminary data suggest soil compaction. Leaf nutrient concentrations of nitrogen, phosphorus and potassium also declined slightly. It is concluded that yields were largely influenced by insect pests and diseases, but that the management of soil fertility is likely to become increasingly important once those problems have been solved.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพาะปลูกอ้อย rainfed ค้าในปาปัวนิวกินีมีเริ่มในต้นทศวรรษ 1980 โดย Ramu น้ำตาล จำกัด ปี 15 เท้าประจำปีผลผลิตได้อยู่ในช่วงจาก 298 การตัน 88/hectare ความผันแปรนี้กว้างใหญ่ถูกอธิบาย โดยฉับพลัน และรุนแรงรบกวนโดยเดือนก้าน borers, cicadas ด้วงขาว และ Ramu บ้าไวรัส ขอบเขตน้อยภายใต้การเพาะปลูกอย่างต่อเนื่องรวมลดลงในค่า pH มีฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนเป็น และบางข้อมูลเบื้องต้นแนะนำที่กระชับข้อมูลดิน ใบความเข้มข้นธาตุอาหารไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมนอกจากนี้ยังลดลงเล็กน้อย มันจะสรุปได้ว่า ผลผลิตส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากแมลงศัตรูพืชและโรค แต่ว่า การจัดการความอุดมสมบูรณ์ของดินจะกลายเป็นสำคัญมากขึ้นเมื่อมีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปลูกอ้อยน้ำฝนในเชิงพาณิชย์ในปาปัวนิวกินีเริ่มในต้นทศวรรษ 1980 โดย Ramu น้ำตาล จำกัด ในช่วง 15 ปีอัตราผลตอบแทนอ้อยประจำปีมีตั้งแต่ 298-88 ตัน / เฮกตาร์นี้หลากหลายถูกอธิบายโดยส่วนใหญ่รบกวนฉับพลันและภัยพิบัติจากหนอนกอเดือนจักจั่นด้วงสีขาวและไวรัส Ramu การแสดงความสามารถ ในระดับที่น้อยกว่าการเพาะปลูกอย่างต่อเนื่องภายใต้การรวมลดลงของค่าความเป็นกรดฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนและข้อมูลเบื้องต้นบางคนแนะนำการบดอัดดิน ความเข้มข้นของสารอาหารที่ใบไนโตรเจนฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมยังลดลงเล็กน้อย มันเป็นข้อสรุปว่าอัตราผลตอบแทนที่ได้รับอิทธิพลส่วนใหญ่โดยแมลงศัตรูพืชและโรค แต่ที่การจัดการความอุดมสมบูรณ์ของดินที่มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นหนึ่งครั้งปัญหาเหล​​่านั้นได้รับการแก้ไข