A model based on a transformer topo

A model based on a transformer topology for a frequency range of
10 Hz–100 kHz is described in [7, 9]. To consider the
frequency-dependent non-linear effects in the transformer,
correction functions are applied to the values for the resistances
and inductances of the model within this frequency range. These
correction functions are applied in the model in the frequency
domain. Thus, the use of the model, which considers the
frequency-dependent non-linear effects, is restricted to the analysis
of faults (frequency response analysis – FRA) and cannot be used
in studies in the time domain. In [10, 11], the least-squares (LS)
method is used to model the frequency response of the impedance
at the transformer input applied to the analysis of faults (FRA). In
the equivalent circuit of the model, only RLC cells are used to
represent the resonances of the frequency responses. Thus, the
frequency-dependent nonlinear effects in the core, which occur
mainly at low frequencies, are contemplated superficially by the
model.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบบจำลองที่อิงจากโทโพโลยีของหม้อแปลงสำหรับช่วงความถี่10 Hz-100 kHz ได้อธิบายไว้ใน [7, 9] การพิจารณาการขึ้นอยู่กับความถี่ผลสมบัติในหม้อแปลงไฟฟ้าฟังก์ชันการแก้ไขจะมีผลกับค่าของความต้านทานการและ inductances ของแบบจำลองภายในช่วงความถี่ เหล่านี้ใช้ฟังก์ชันการแก้ไขในรูปแบบในความถี่โดเมน ดังนั้น การใช้รูปแบบ ที่พิจารณาการความถี่ขึ้นอยู่กับสมบัติผล ถูกจำกัดไปวิเคราะห์ของข้อบกพร่อง (ความถี่ตอบสนองวิเคราะห์ – FRA) และไม่สามารถใช้ในการศึกษาในโดเมนเวลา ใน [10, 11], เหลี่ยมน้อยที่สุด (LS)ใช้วิธีการแบบจำลองการตอบสนองความถี่ของความต้านทานการที่เข้าหม้อแปลงที่ใช้กับการวิเคราะห์ข้อบกพร่อง (FRA) ในวงจรเทียบเท่าของรูปแบบ เฉพาะ RLC เซลล์จะใช้ในการแสดง resonances ของการตอบสนองความถี่ ดังนั้น การขึ้นอยู่กับความถี่เชิงเส้นผลในหลัก ที่เกิดขึ้นที่ความถี่ต่ำ ส่วนใหญ่จะเข้าใจเผิน ๆ โดยการรุ่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปแบบขึ้นอยู่กับโครงสร้างหม้อแปลงสำหรับช่วงความถี่ของ
10 Hz-100 เฮิร์ทซ์อธิบายไว้ใน [7, 9] ที่จะต้องพิจารณา
ผลกระทบที่ไม่ใช่เชิงเส้นขึ้นอยู่กับความถี่ในหม้อแปลง,
ฟังก์ชั่นการแก้ไขจะนำไปใช้ค่าสำหรับความต้านทาน
และความเหนี่ยวนําของรูปแบบที่อยู่ในช่วงความถี่นี้ เหล่านี้
ฟังก์ชั่นการแก้ไขจะนำไปใช้ในแบบจำลองในความถี่
โดเมน ดังนั้นการใช้รูปแบบซึ่งจะพิจารณาจาก
ผลกระทบที่ไม่ใช่เชิงเส้นความถี่ขึ้นอยู่กับจะมีการ จำกัด การวิเคราะห์
ของความผิดพลาด (วิเคราะห์การตอบสนองความถี่ - FRA) และไม่สามารถนำมาใช้
ในการศึกษาในโดเมนเวลา ใน [10, 11] น้อยสี่เหลี่ยม (LS)
วิธีการที่ใช้ในการจำลองการตอบสนองความถี่ของความต้านทาน
ในการป้อนข้อมูลหม้อแปลงนำไปใช้กับการวิเคราะห์ความผิดพลาด (FRA) ใน
วงจรสมมูลของรูปแบบเฉพาะเซลล์ RLC จะใช้ในการ
แทน resonances ของการตอบสนองความถี่ ดังนั้น
ผลกระทบที่ไม่เป็นเชิงเส้นขึ้นอยู่กับความถี่ในหลักที่เกิดขึ้น
ส่วนใหญ่ที่มีความถี่ต่ำจะไตร่ตรองเผิน ๆ โดย
รูปแบบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปแบบตามแบบสำหรับช่วงความถี่ของหม้อแปลง10 Hz - 100 kHz ที่อธิบายไว้ใน [ 7 , 9 ] เพื่อพิจารณาความถี่ขึ้นอยู่กับเส้นผลในหม้อแปลงฟังก์ชันการแก้ไขที่ใช้กับค่าความต้านทานและ ตัวเหนี่ยวนำของแบบจำลองในความถี่ช่วง เหล่านี้ฟังก์ชันการแก้ไขที่ใช้ในแบบจำลองในความถี่โดเมน ดังนั้น การใช้แบบจำลองซึ่งพิจารณาถึงความถี่ขึ้นอยู่กับเส้นผลเฉพาะการวิเคราะห์ของความผิดพลาด ( การตอบสนองความถี่การวิเคราะห์ ( ฟรา ) และไม่สามารถใช้ในการศึกษาในเวลาโดเมน ใน [ 10 , 11 ] , วิธี ( LS )วิธีการคือใช้รูปแบบการตอบสนองความถี่ของอิมพีแดนซ์ที่แปลงสัญญาณใช้กับการวิเคราะห์ข้อบกพร่อง ( ฟรา ) ในเทียบเท่าวงจร RLC แบบเซลล์จะใช้เท่านั้นเป็นตัวแทน resonances ความถี่ของการตอบสนอง ดังนั้นความถี่ขึ้นอยู่กับผลในเส้นหลักซึ่งเกิดขึ้นส่วนใหญ่ที่ความถี่ต่ำจะพิจารณาเผินๆโดยนางแบบ