C.S. Lewis, the famous author and O

C.S. Lewis, the famous author and Oxford academic, once proclaimed "You can't get a cup of tea big enough or a book long enough to suit me." We sip it with toast in the morning, enjoy it with sweets and biscuits in the afternoon, and relax with it at the end of the day. Tea has for generations been an integral infusion worldwide, carrying both epicurean and economic significance. But, does it impart honest-to-goodness health benefits? In other words, is its persistence in the human diet perhaps coincident with enhanced quality (or quantity) of life?

Dr. Chwan-Li (Leslie) Shen, an associate professor and a researcher at the Laura W. Bush Institute for Women's Health at the Texas Tech University Health Sciences Center, is convinced that the answer to this question is a resounding yes -- especially if the tea is of the "green" variety. Green tea, historically consumed in the Orient and now an international mainstay, is chock full of compounds called polyphenols known for their potent antioxidant activity. Dozens of epidemiological (observational) studies have shown that people who consume the highest levels of green tea polyphenols (GTP) tend to have lower risks of several chronic degenerative diseases such as cardiovascular disease and osteoporosis. These findings have been followed up with animal studies, including some conducted by Shen, suggesting that the mechanism behind this correlation may have to do with lowering chronic levels of inflammation.

Originally from Taiwan, Dr. Shen has now spent over 2 decades studying how and why some Eastern lifestyle norms (such as drinking green tea) might be beneficial for Westerners as well. For instance, she has developed an animal model (the ovariectomized, middle-aged female rat). With this model Dr. Shen and her team can effectively study the effects of green tea consumption on protection against breakdown of the bone's microarchitecture. In humans, this can lead to osteoporosis, a condition common to older women. It is Dr Shen's hope that what she learns from her animal models might also be applicable to postmenopausal women.

In Shen's most recent research, she focused on postmenopausal women and investigated the potential for green tea to work synergistically with tai chi -- a traditional Chinese form of moderately intense aerobic fitness activity grounded in mind-body philosophy -- in enhancing bone strength.

Carried out as a double-blind, placebo-controlled, intervention trial (the "holy grail" of scientific studies), this experiment involved 171 postmenopausal women (mean age: ~57 y) who had weak bones but not full-fledged osteoporosis.

Subjects were divided into 4 groups:

Placebo: starch pill (placebo) and no tai chi
GTP: green tea polyphenols (500 mg/day) and no tai chi
Placebo+TC: starch pill and tai chi (3 times/week)
GTP+TC: green tea polyphenols and tai chi
The study lasted for 6 months, during which time blood and urine samples were collected and muscle strength assessed.

The results show that consumption of GTP (at a level equivalent to about 4-6 cups of steeped green tea daily) and participation in tai chi independently enhanced markers of bone health by 3 and 6 months, respectively. A similar effect was found for muscle strength at the 6-month time point. Participants taking tai chi classes also reported significant beneficial effects in quality of life in terms of improving their emotional and mental health. Perhaps most remarkable, however, was the substantial effect that both GTP and tai chi had on biological markers of oxidative stress. Because oxidative stress is a main precursor to inflammation, this finding suggests that green tea and tai chi may help reduce the underlying etiology of not only osteoporosis, but other inflammatory diseases as well.

Dr. Shen and colleagues concluded that there is a "favorable effect of modest green tea consumption on bone remodeling in this pre-osteoporotic population" and hope to soon complete a more long-term study utilizing more technically savvy measures of bone density.

Perhaps C.S. Lewis was correct -- it's tea time!

The results of this work, which was funded by the National Institutes of Health/National Center for Complementary and Alternative Medicine, will be presented as a poster at the Experimental Biology meetings on April 10.

Dr. Chwan-Li Shen (Texas Tech University), Dr. Ming-Chien Chyu (Texas Tech University), Dr. James K. Yeh, Dr. Yan Zhang (Texas Tech University), Dr. Barbara Pence (Texas Tech University), Dr. Carol Felton (Texas Tech University), Dr. Jean-Michel Brismee (Texas Tech University), Mr. Raul Dagda (Texas Tech University), Mrs. Susan Doctolero (Texas Tech University), Mrs. Mary Flores (Texas Tech University), and Dr. Jai-Sheng Wang (University of Georgia) were coauthors on this paper.

Story Source:

The above post is reprinted from materials provided by Federation of American Societies for Experimental Biology. Note: Materials may be edited for content and length.

Cite

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ซีเอสลูอิส ผู้เขียนที่มีชื่อเสียงและ Oxford ศึกษา เมื่อประกาศ "คุณไม่สามารถรับถ้วยชาใหญ่พอหรือหนังสือที่นานเพียงพอเพื่อให้เหมาะกับผม" เราจิบกับขนมปังในตอนเช้า เพลิดเพลินกับขนมหวานและขนมขบเคี้ยวในช่วงบ่าย และคลายในตอนท้ายของวัน ชาสำหรับคนรุ่นที่แล้วการชงหนึ่งที่ทั่วโลก แบกทั้งรู้สึก และเศรษฐกิจสำคัญ แต่ มันไม่บอกประโยชน์ honest-to-goodness ในคำอื่น ๆ คือที่มีอยู่ในอาหารมนุษย์อาจจะตรงกับคุณภาพที่เพิ่มขึ้น (หรือปริมาณ) ของชีวิตดร. Chwan-Li (เลสลี่) เชิน เป็นศาสตราจารย์และนักวิจัยที่ลอร่า W. บุช สถาบันสุขภาพของสตรีที่เท็กซัสเทคมหาวิทยาลัยสุขภาพวิทยาศาสตร์ศูนย์ มีความมั่นใจที่ตอบคำถามนี้คือ ใช่สะท้อนกลับ - โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีชาหลากหลาย "สีเขียว" ชาเขียว ประวัติใช้ในตะวันออก และตอนนี้มีโจทย์นานาชาติ ไข้เต็มของสารประกอบเรียกว่าโพลีที่รู้จักกันสำหรับกิจกรรมอนุมูล ของการศึกษาทางระบาดวิทยา (สังเกต) ได้แสดงว่า คนที่ใช้ระดับสูงสุดของโพลีฟีนชาเขียว (GTP) มักจะ มีความเสี่ยงต่ำของโรคความเสื่อมเรื้อรังต่าง ๆ เช่นโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคกระดูกพรุน ผลการวิจัยเหล่านี้ได้ถูกตามขึ้นกับศึกษาสัตว์ รวมบางโดย Shen แนะนำว่า กลไกเบื้องหลังความสัมพันธ์นี้อาจมีการลดระดับการอักเสบเรื้อรังเดิม จากไต้หวัน ดร. Shen ได้ตอนนี้ใช้เวลากว่า 2 ทศวรรษการศึกษาวิธีการ และเหตุผลบรรทัดฐานบางไลฟ์สไตล์ตะวันออก (เช่นการดื่มชาเขียว) อาจเป็นประโยชน์สำหรับชาวตะวันตกเป็นอย่างดี เช่น เธอได้พัฒนาแบบจำลองสัตว์ (ovariectomized สู่หญิงหนู) รุ่นนี้ ดร. Shen และทีมของเธอสามารถศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพผลของการใช้ชาเขียวในการป้องกันการสลายของ microarchitecture ของกระดูก มนุษย์ นี้สามารถนำไปสู่โรคกระดูกพรุน สภาพทั่วไปของผู้หญิงอายุ ดร. Shen หวังว่า สิ่งที่เธอเรียนรู้จากรูปแบบของสัตว์อาจใช้ได้กับผู้หญิง postmenopausal ได้งานวิจัยล่าสุดของ Shen เธอเน้นผู้หญิง postmenopausal และตรวจสอบศักยภาพสำหรับชาเขียวในการทำงานสัมพันธ์ร่วมกับไท - แบบจีนดั้งเดิมของกิจกรรมออกกำลังกายแอโรบิกระดับปานกลางรุนแรงเหตุผลในปรัชญาจิตใจร่างกาย - เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกดำเนินการตามการทดลองตาบ ควบคุม ด้วยยาหลอก การแทรกแซง ("จอกศักดิ์สิทธิ์" ของการศึกษาวิทยาศาสตร์), การทดลองนี้เกี่ยวข้องกับผู้หญิง postmenopausal 171 (หมายถึง อายุ: ~ 57 y) ที่มีกระดูกอ่อนแต่ไม่สมบูรณ์โรคกระดูกพรุนวัตถุที่ถูกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม:หลอก: แป้งยา (ยาหลอก) และไทไม่GTP: โพลีฟีนชาเขียว (500 มิลลิกรัมต่อวัน) และไม่มีไทยาหลอก + TC: อื่น ๆ แป้งยาและไท (3 ครั้ง / สัปดาห์)GTP + TC: โพลีฟีนชาเขียวและไทชิการศึกษาที่กินเวลา 6 เดือน ซึ่งตัวอย่างเลือดและปัสสาวะของเวลาถูกเก็บรวบรวม และประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้อผลลัพธ์แสดงว่าปริมาณของ GTP (ในระดับเทียบเท่ากับประมาณ 4-6 ถ้วยแพร่หลายชาเขียวทุกวัน) และมีส่วนร่วมในไทเครื่องหมายเพิ่มอิสระสุขภาพกระดูก 3 และ 6 เดือน ตามลำดับ ผลคล้ายพบสำหรับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในจุดเวลา 6 เดือน ผู้เข้าร่วมชั้นเรียนไทยังรายงานผลประโยชน์สำคัญในคุณภาพของชีวิตในแง่ของการปรับปรุงสุขภาพทางอารมณ์ และจิตใจ บางทีอาจจะน่าทึ่ง ก็พบผลที่มีเครื่องหมายทางชีววิทยาของความเครียดออกซิเดชัน GTP และไท เนื่องจากความเครียดออกซิเดชัน สารตั้งต้นหลักการอักเสบ ค้นหานี้แนะนำว่า ชาเขียวและไทอาจช่วยลดสาเหตุพื้นฐานของไม่เพียงแต่โรคกระดูกพรุน แต่โรคอักเสบเช่นดร. Shen และเพื่อนร่วมงานสรุปที่มี "ผลดีของการใช้ชาเขียวเล็กบนกระดูกเปลี่ยนแปลงจำนวนประชากรนี้ osteoporotic ก่อน" และหวังว่าจะเสร็จสมบูรณ์เร็ว ๆ นี้ การศึกษาระยะยาวมากขึ้นใช้เพิ่มเติมเทคนิคเข้าใจหน่วยวัดความหนาแน่นของกระดูกก็ทีซีเอสลูอิสถูกต้อง - ชาเวลาผลลัพธ์ของการทำงานนี้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนชาติสถาบันของสุขภาพ/ศูนย์แห่งชาติและแพทย์ทางเลือก จะนำเสนอเป็นโปสเตอร์ในการประชุมทดลองชีววิทยาวันที่ 10 เมษายนดร. Chwan Li Shen (มหาวิทยาลัยเท็กซัสเทค), ดร.เจียนหมิ Chyu (มหาวิทยาลัยเท็กซัสเทค), Dr. James คุณ Yeh ดร. Yan Zhang (มหาวิทยาลัยเท็กซัสเทค), ดร. Barbara บรจบ (มหาวิทยาลัยเท็กซัสเทค), ดร. Carol เฟลตัล (มหาวิทยาลัยเท็กซัสเทค), ดร.ฌอง Michel Brismee (มหาวิทยาลัยเท็กซัสเทค), นาย Raul Dagda (มหาวิทยาลัยเท็กซัสเทค), นาง Susan Doctolero (มหาวิทยาลัยเท็กซัสเทค), นาง Mary ฟลอเรส (มหาวิทยาลัยเท็กซัสเทค), และดร.ใจ-วัง Sheng (มหาวิทยาลัยจอร์เจีย) มี coauthors บนกระดาษนี้แหล่งที่มาของเรื่อง:โพสต์ข้างบนเป็นพิมพ์จากวัสดุที่ให้บริการสำหรับทดลองชีววิทยา โดยสภาสังคมอเมริกัน หมายเหตุ: วัสดุอาจแก้ไขได้สำหรับเนื้อหาและความยาวอ้างอิง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

CS Lewis, ผู้เขียนที่มีชื่อเสียงและฟอร์ดนักวิชาการประกาศครั้งเดียว "คุณไม่สามารถได้รับถ้วยชาขนาดใหญ่พอหรือหนังสือนานพอเพื่อให้เหมาะกับฉัน." เราจิบกับขนมปังในตอนเช้าจะสนุกกับมันกับขนมบิสกิตและในช่วงบ่ายและผ่อนคลายกับมันในตอนท้ายของวัน ชาได้สำหรับคนรุ่นรับการฉีดหนึ่งทั่วโลกถือทั้งสองอย่างมีนัยสำคัญที่มีรสนิยมสูงและเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้บอกประโยชน์ต่อสุขภาพซื่อสัตย์เพื่อความดี? ในคำอื่น ๆ คือการติดตาในอาหารของมนุษย์อาจจะประจวบกับคุณภาพที่เพิ่มขึ้น (หรือปริมาณ) ของชีวิต? ดร. Chwan-Li (เลสลี่) Shen รองศาสตราจารย์และนักวิจัยที่ลอร่าบุชสถาบันเพื่อสุขภาพของผู้หญิงที่มหาวิทยาลัยเทกซัสเทคศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพมีความมั่นใจว่าคำตอบของคำถามนี้เป็นดังก้องใช่ - โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้า ชามีความหลากหลาย "สีเขียว" ชาเขียวมีการบริโภคในอดีตตะวันออกและตอนนี้แกนนำในต่างประเทศจะหนุนเต็มของสารประกอบที่เรียกว่าโพลีฟีนที่รู้จักกันสำหรับสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพของพวกเขา หลายสิบระบาดวิทยา (สังเกตการณ์) การศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าคนที่บริโภคในระดับสูงสุดของโพลีฟีนชาเขียว (ฉี่) มีแนวโน้มที่จะมีการลดความเสี่ยงของโรคความเสื่อมหลายเรื้อรังเช่นโรคหัวใจและหลอดเลือดและโรคกระดูกพรุน การค้นพบนี้ได้รับตามมาด้วยการศึกษาในสัตว์รวมทั้งบางส่วนดำเนินการโดย Shen บอกว่ากลไกที่อยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์นี้อาจจะต้องทำอย่างไรกับการลดระดับการอักเสบเรื้อรังของ. เดิมจากไต้หวันดร. Shen มีการใช้จ่ายในขณะนี้กว่า 2 ทศวรรษการศึกษาวิธีการและ ทำไมบางบรรทัดฐานไลฟ์สไตล์ตะวันออก (เช่นการดื่มชาเขียว) อาจจะมีประโยชน์สำหรับชาวตะวันตกเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นที่เธอได้มีการพัฒนารูปแบบสัตว์ (คนตัดรังไข่วัยกลางคนหนูหญิง) ด้วยรูปแบบนี้ดร. เฉินและทีมงานของเธอได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถศึกษาผลกระทบของการบริโภคชาเขียวในการป้องกันการสลายของกระดูกสถาปัตยกรรมของ ในมนุษย์นี้สามารถนำไปสู่การเกิดโรคกระดูกพรุน, สภาพทั่วไปให้กับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า มันเป็นความหวังดร Shen ว่าสิ่งที่เธอเรียนรู้จากรูปแบบสัตว์ของเธอนอกจากนี้ยังอาจจะมีผลบังคับใช้กับสตรีวัยหมดประจำเดือน. ในงานวิจัยล่าสุดของ Shen เธอมุ่งเน้นไปที่สตรีวัยหมดประจำเดือนและการตรวจสอบที่มีศักยภาพสำหรับชาเขียวในการทำงานร่วมกับ Tai Chi - แบบดั้งเดิมของจีน รูปแบบของกิจกรรมการออกกำลังกายแอโรบิกที่รุนแรงปานกลางเหตุผลในปรัชญาของจิตใจร่างกาย -. ในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกดำเนินการออกเป็นแบบ double-blind, placebo-controlled ตัวอย่างการแทรกแซง (ที่ "จอกศักดิ์สิทธิ์" ของการศึกษาทางวิทยาศาสตร์) ที่เกี่ยวข้องกับการทดลองนี้ 171 วัยหมดประจำเดือน หญิง (อายุเฉลี่ย: ~ 57 Y) ที่มีกระดูกอ่อนแอ แต่โรคกระดูกพรุนไม่เต็มเปี่ยม. วิชาที่ถูกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม: Placebo: แป้งยา (placebo) และไม่มีการ Tai Chi ฉี่: โพลีฟีนชาเขียว (500 มก. / วัน) และ ไม่มี Tai Chi หลอก + TC: เม็ดแป้งและ Tai Chi (3 ครั้ง / สัปดาห์) ฉี่ + TC: โพลีฟีนชาเขียวและ Tai Chi . การศึกษากินเวลานาน 6 เดือนในระหว่างที่เลือดเวลาและปัสสาวะที่ถูกเก็บรวบรวมและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อการประเมินผลการศึกษาพบว่าการบริโภคฉี่ (ที่เทียบเท่าระดับประมาณ 4-6 ถ้วยแพร่หลายในชีวิตประจำวันชาเขียว) และมีส่วนร่วมใน Tai Chi เพิ่มอิสระเครื่องหมายของสุขภาพของกระดูกโดย 3 และ 6 เดือนตามลำดับ ผลที่คล้ายกันก็พบว่าเพื่อความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่จุดเวลา 6 เดือน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมการเรียน Tai Chi ยังมีรายงานผลประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญในคุณภาพของชีวิตในแง่ของการพัฒนาสุขภาพทางอารมณ์และจิตใจของพวกเขา บางทีอาจจะเป็นที่น่าทึ่งที่สุด แต่เป็นผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญว่าทั้งฉี่และ Tai Chi มีกับตัวบ่งชี้ทางชีวภาพของความเครียดออกซิเดชัน เพราะความเครียด oxidative เป็นสารตั้งต้นหลักในการอักเสบ, การค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่าชาเขียวและ Tai Chi อาจช่วยลดสาเหตุพื้นฐานของโรคกระดูกพรุนไม่เพียง แต่โรคอักเสบอื่น ๆ เช่นกัน. ดร. Shen และเพื่อนร่วมงานได้ข้อสรุปว่าจะมี "ผลที่ดีของเจียมเนื้อเจียมตัวการบริโภคชาเขียวในการเปลี่ยนแปลงของกระดูกในประชากรกลุ่มนี้ก่อนกระดูกพรุน" และหวังว่าจะเร็ว ๆ นี้ดำเนินการศึกษาในระยะยาวมากขึ้นการใช้มาตรการรู้และความเข้าใจในทางเทคนิคความหนาแน่นของกระดูก. บางที CS Lewis เป็น ที่ถูกต้อง - มันถึงเวลาที่ชาผลงานนี้ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสถาบันแห่งชาติ / ศูนย์สุขภาพแห่งชาติสำหรับการผสมผสานและการแพทย์ทางเลือก, จะนำเสนอเป็นโปสเตอร์ที่ประชุมการทดลองทางชีววิทยาเมษายน 10. ดร. Chwan-Li Shen (มหาวิทยาลัยเทกซัสเทค) ดร. หมิงเจียน Chyu (มหาวิทยาลัยเทกซัสเทค) ดร. เจมส์เค Yeh, ดร. แยนเหวย (มหาวิทยาลัยเทกซัสเทค), ดร. บาร์บาร่าเพนนี (มหาวิทยาลัยเทกซัสเทค) ดร . แครอลเฟลตัน (มหาวิทยาลัยเทกซัสเทค) ดร. ฌองมิเชล Brismee (มหาวิทยาลัยเทกซัสเทค) นายราอูล Dagda (มหาวิทยาลัยเทกซัสเทค) นางซูซาน Doctolero (มหาวิทยาลัยเทกซัสเทค) นางแมรี่ฟลอเรส (มหาวิทยาลัยเทกซัสเทค) และดร Jai-Sheng วัง (มหาวิทยาลัยจอร์เจีย) เป็น coauthors บนกระดาษนี้. เรื่องที่มา: โพสต์ข้างต้นจะพิมพ์จากวัสดุที่จัดไว้ให้โดยสหพันธ์สมาคมอเมริกันสำหรับการทดลองทางชีววิทยา หมายเหตุ: วัสดุอาจมีการแก้ไขเนื้อหาและความยาว. Cite