On the eve of Songkran Day, i.e. on

On the eve of Songkran Day, i.e. on the 12th April, the people clean their house and burn all the refuse. This is a Spring Cleaning Day done as a duty in the belief that anything bad belonging to the old year will be unlucky to the owner if left and carried on to the coming New Year. It is something like a Public Health Cleaning Day but backed by traditional belief has proved more effective to emotional people than prosaic reason.
Early on the first day of Songkran, the 13th April, the people both young and old in their new clothing go to the Wat or monastery belonging to their village or district to offer food to the monks there. A long table is erected in the compound of the wat where monk's alms bowls stand in a row on either side of the table. Into the alms bowls the gathering people put boiled rice and into the covers of the alms bowls, food, fruits and sweetmeats. Such a performance can be seen at wats outside Bangkok on Songkran Day. While the monks partake of their feast, music sometimes is played to celebrate the occasion.
In the afternoon of the same day there is bathing ceremony of the Buddha images and also of the abbot of the wat. After this begins the well-known "water throwing feast". The bathing of images is done as ritualistic ceremony, but it is no other than a New Year's purification. Younger people will also on this day or the succeeding days go to pay their respect to and ask blessings from their elders and respected persons. They will pour scented water into the palms of the old people and present them with a towel and other bathing requisites. In the old days it was an actual bathing where the young people helped the old people to take a bath and to change their old clothing and put on the new clothes which the young people presented them as an act of respect to the aged on the occasion of the New Year.
Another duty to be done during the Songkran Festival is a religious service called Bangsakun performed in sacred memory to the dead. When a person died and was cremated, the ashes and charred bones of common people were buried at the root of a sacred fig-tree in a wat.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในวันของวันสงกรานต์คือวันที่ 12 เมษายนคนทำความสะอาดบ้านของพวกเขาและการเผาไหม้ขยะทั้งหมด วันนี้เป็นวันทำความสะอาดฤดูใบไม้ผลิทำตามหน้าที่ในความเชื่อว่าอะไรที่ไม่ดีที่อยู่ในปีเก่าจะโชคร้ายไปยังเจ้าของหากปล่อยทิ้งไว้และดำเนินการเกี่ยวกับปีใหม่ที่ผ่านมา มันเป็นสิ่งที่ต้องการวันทำความสะอาดสาธารณสุข แต่ได้รับการสนับสนุนจากความเชื่อแบบดั้งเดิมได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากขึ้นกับคนอารมณ์มากกว่าเหตุผลธรรมดา.
ต้นวันแรกของสงกรานต์วันที่ 13 เมษายนคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ในเสื้อผ้าใหม่ของพวกเขาไป วัดหรือวัดที่อยู่ในหมู่บ้านหรืออำเภอของพวกเขาที่จะนำเสนออาหารที่มีพระสงฆ์ ตารางยาวสร้างขึ้นในสารประกอบของวัดที่พระภิกษุสงฆ์บิณฑบาตชามยืนในแถวที่ด้านข้างของตารางอย่างใดอย่างหนึ่งที่ ลงไปในชามทานคนรวบรวมใส่ต้มข้าวและเข้าไปในผ้าห่มของชามทานอาหารผลไม้และขนมหวาน ผลการดำเนินงานดังกล่าวสามารถมองเห็นที่วัดเบญจมบพิตรนอกเขตกรุงเทพฯในวันสงกรานต์ ในขณะที่พระสงฆ์เข้าร่วมงานเลี้ยงของพวกเขาเพลงบางครั้งมีการเล่นเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาส.
ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันมีพิธีอาบน้ำของพระพุทธรูปและยังเจ้าอาวาสวัดที่ หลังจากนี้จะเริ่มต้นที่รู้จักกันดี "น้ำขว้างปาฉลอง" การอาบน้ำของภาพที่จะกระทำเป็นพิธีพิธีกรรม แต่มันจะไม่นอกเหนือจากการทำให้บริสุทธิ์ปีใหม่ คนหนุ่มสาวจะยังอยู่ในวันนี้หรือวันที่ประสบความสำเร็จไปเคารพของพวกเขาไปและขอพรจากผู้สูงอายุและผู้ที่เคารพนับถือของพวกเขา พวกเขาจะเทน้ำมีกลิ่นหอมลงในฝ่ามือของคนเก่าและปัจจุบันพวกเขาด้วยผ้าขนหนูอาบน้ำและปัจจัยอื่น ๆ ในสมัยก่อนมันเป็นอาบน้ำที่เกิดขึ้นจริงที่คนหนุ่มสาวช่วยคนเก่าที่จะใช้เวลาอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเก่าของพวกเขาและใส่เสื้อผ้าใหม่ที่คนหนุ่มสาวที่นำเสนอพวกเขาเป็นการกระทำของความเคารพต่อผู้สูงอายุในโอกาสที่ ของปีใหม่.
ปฏิบัติหน้าที่อีกประการหนึ่งที่จะต้องทำในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นพิธีทางศาสนาที่เรียกว่า Bangsakun ดำเนินการในหน่วยความจำมงคลแก่ความตาย เมื่อมีคนตายและถูกเผาเป็นเถ้าถ่านและกระดูกไหม้เกรียมของคนทั่วไปที่ถูกฝังอยู่ที่รากของต้นมะเดื่อศักดิ์สิทธิ์ในวัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เนื่องในวันสงกรานต์ คือวันที่ 12 เมษายน คนทำความสะอาดบ้าน และเผาทั้งหมดปฏิเสธ นี่มันฤดูใบไม้ผลิสะอาดทำตามหน้าที่ในความเชื่อที่ว่าอะไรไม่ดีของปีเก่าจะซวยเจ้าของถ้าซ้ายและดําเนินการเกี่ยวกับกับปีใหม่ที่กำลังจะมามันเป็นบางอย่าง เช่น สาธารณสุข สะอาด แต่การสนับสนุนจากความเชื่อดั้งเดิมได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ คนอารมณ์มากกว่าเหตุผลธรรมดาๆ
แต่เช้าในวันแรกของเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 13 เมษายน คนทั้งหนุ่มและแก่ในเสื้อผ้าใหม่ของพวกเขาไปที่วัด หรือวัดของหมู่บ้านหรือตำบลของตน เพื่อเสนออาหาร พระสงฆ์มีโต๊ะยาวถูกสร้างขึ้นในบริเวณวัดที่พระทานชามยืนแถวบนด้านใดด้านหนึ่งของโต๊ะ เข้าไปทานชามรวบรวมคนใส่ข้าวต้มในชามและครอบคลุม อาหารบิณฑบาต และขนมผลไม้ การแสดงแบบนี้สามารถเห็นหน้านอกกรุงเทพฯในวันสงกรานต์ ในขณะที่พระสงฆ์เข้าร่วมงานเลี้ยงของพวกเขาเพลง บางครั้งเล่น เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาส .
ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน มีพิธีสรงน้ำพระพุทธรูปและของเจ้าอาวาสวัด . หลังนี้เริ่มต้นที่รู้จักกันดี " น้ำโยนงานเลี้ยง " แสงสีทองของภาพเป็นพิธีกรรมพิธีการ แต่ก็ไม่มีใครนอกจากวันปีใหม่บริสุทธิ์คนน้องก็จะประสบความสำเร็จในวันนี้ หรือวันไปไหว้ของตนและขอให้พรจากผู้ใหญ่ และเคารพท่าน พวกเขาจะเทน้ำกลิ่นหอมเข้าไปในฝ่ามือของคนสมัยก่อน และปัจจุบัน ด้วยผ้าเช็ดตัวอาบน้ำ และปัจจัยอื่น ๆเมื่อก่อนมันเป็นจริงอาบน้ำที่คนหนุ่มสาวช่วยคนแก่เพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเก่าของพวกเขาและสวมเสื้อผ้าใหม่ ซึ่งประชาชนยังเสนอเป็นพระราชบัญญัติเกี่ยวกับผู้สูงอายุเนื่องในโอกาสปีใหม่ .
อีกหน้าที่ที่ต้องทำในช่วงเทศกาล สงกรานต์ คือ ศาสนา บริการเรียก bangsakun แสดงหน่วยความจำที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ตายเมื่อคนๆ หนึ่งตายและถูกเผาไปแล้ว เถ้าถ่าน และเถ้ากระดูกของประชาชนถูกฝังอยู่ในรากของต้นมะเดื่อที่ศักดิ์สิทธิ์ในวัด