The examination of academic progres

The examination of academic progression has become an essential tool for measuring the effectiveness of educational systems. Research concerning the relationship between student learning and how they progress in their studies, however remains scarce. The aim of this study is two-fold: Firstly, the study aims to analyse first-year bioscience students’ perceptions of their teaching–learning environment and their approaches to learning as well as the relationship of these to academic achievement as measured by students’ progression in studies and how they succeed. Secondly, the present study explores factors students feel either enhance or impede their studying as well as the relationship of those factors with their approaches to learning and academic achievement. The data consist of responses from 188 first-year students who began their studies in the fall 2007 and 2008. The data were collected in a Finnish context with a modified and shortened version of the Experiences in Teaching and Learning Questionnaire (ETLQ). The analyses were carried out using factor analysis, one-way ANOVA and structural equation modeling. According to the results, organised studying was related to both academic progression and study success. In addition, academic progression was positively related to peer support. Furthermore, most of the students found that problems in time management impeded their studies and that pre-set schedules enhanced them. Results indicate that social support and self-regulation skills are important for academic achievement.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การตรวจสอบความก้าวหน้าทางวิชาการได้กลายเป็น เครื่องมือสำคัญสำหรับการวัดประสิทธิภาพของระบบการศึกษา วิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนเรียนรู้และวิธีที่จะดำเนินการในการศึกษาของพวกเขา อย่างไรก็ตามยังคงขาดแคลน จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้เป็นสองเท่า: การศึกษามีจุดมุ่งหมายประการแรก วิเคราะห์ปีแรกถามความเข้าใจสภาพแวดล้อมการเรียนการสอน – การเรียนรู้และวิธีการเรียนรู้ตลอดจนความสัมพันธ์ของการศึกษาสำเร็จวัดโดยความก้าวหน้าของนักเรียนในการศึกษาและว่าพวกเขาประสบความสำเร็จเหล่านี้ ประการที่สอง การศึกษาสำรวจปัจจัยที่นักเรียนรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่งที่ช่วยเสริม หรือเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาเช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของปัจจัยเหล่านั้นมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ และศึกษาวิธีของพวกเขา ข้อมูลประกอบด้วยการตอบสนองจาก 188 ปีแรกนักเรียนเริ่มศึกษาในฤดูใบไม้ร่วง 2007 และ 2008 ข้อมูลถูกรวบรวมในบริบทฟินแลนด์ด้วยประสบการณ์ในการสอนและการเรียนรู้แบบสอบถาม (ETLQ) รุ่นแก้ไข และย่อ การวิเคราะห์ที่ได้ดำเนินการโดยใช้การวิเคราะห์ปัจจัย ทางเดียว ANOVA และโมเดลสมการโครงสร้าง ตามผล ศึกษาระเบียบเกี่ยวข้องกับความสำเร็จความก้าวหน้าและศึกษาทั้งด้านวิชาการ นอกจากนี้ ความก้าวหน้าทางวิชาการเชิงบวกเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนเพียร์ นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ของนักเรียนพบว่า ปัญหาในการบริหารเวลาขัดขวางการศึกษาของพวกเขา และการที่กำหนดการตั้งค่าล่วงหน้าได้ ผลระบุว่า การสนับสนุนและควบคุมตนเองทักษะทางสังคมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จทางวิชาการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การตรวจสอบของความก้าวหน้าทางวิชาการได้กลายเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการวัดประสิทธิภาพของระบบการศึกษา งานวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการเรียนรู้ของนักเรียนและวิธีที่พวกเขามีความคืบหน้าในการศึกษาของพวกเขา แต่ยังคงขาดแคลน จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้เป็นสองเท่า: ประการแรกการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ครั้งแรกในปีนักเรียนชีววิทยาศาสตร์การรับรู้ของสภาพแวดล้อมการเรียนการสอนของพวกเขาและวิธีการของพวกเขาเพื่อการเรียนรู้เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของเหล่านี้เพื่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่วัดจากนักเรียน ความก้าวหน้าในการศึกษาและวิธีการที่พวกเขาประสบความสำเร็จ ประการที่สองการศึกษาปัจจุบันสำรวจนักเรียนปัจจัยรู้สึกทั้งเสริมสร้างหรือเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาของพวกเขาเช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของปัจจัยเหล่านั้นด้วยวิธีการของพวกเขาเพื่อการเรียนรู้และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ข้อมูลประกอบด้วยการตอบสนองจาก 188 นักศึกษาปีแรกที่เริ่มการศึกษาของพวกเขาในฤดูใบไม้ร่วงปี 2007 และปี 2008 เก็บรวบรวมข้อมูลในบริบทฟินแลนด์กับรุ่นแก้ไขและสั้นลงของประสบการณ์ในการเรียนการสอนและการเรียนรู้ตามความเป็นจริง (ETLQ) การวิเคราะห์ได้ดำเนินการโดยใช้การวิเคราะห์ปัจจัยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวและการสร้างแบบจำลองสมการโครงสร้าง ตามผลการจัดการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับทั้งความก้าวหน้าทางวิชาการและการศึกษาที่ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ความก้าวหน้าทางวิชาการสัมพันธ์ทางบวกกับการสนับสนุนเพื่อน นอกจากนี้ส่วนใหญ่ของนักเรียนพบว่าปัญหาในการบริหารจัดการเวลาที่ขัดขวางการศึกษาของพวกเขาและตารางเวลาที่ตั้งไว้ล่วงหน้าที่เพิ่มขึ้นพวกเขา ผลการวิจัยพบว่าการสนับสนุนทางสังคมและการควบคุมตนเองทักษะมีความสำคัญต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สอบความก้าวหน้าทางวิชาการได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการวัดประสิทธิภาพของระบบการศึกษา งานวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการเรียนรู้ของนักเรียนและวิธีการที่พวกเขาความคืบหน้าในการศึกษาของพวกเขา แต่ยังคงขาดแคลน จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้เป็นสองเท่า : ประการแรก การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ด้านการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และวิธีการของพวกเขา และการเรียนรู้ ตลอดจนความสัมพันธ์ของเหล่านี้กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนตามระดับความก้าวหน้าในการศึกษาและวิธีที่พวกเขาประสบความสำเร็จ ประการที่สอง ปัจจุบันการศึกษาสำรวจปัจจัยที่นักเรียนรู้สึกทั้งส่งเสริมหรือขัดขวางพวกเขาเรียน ตลอดจนความสัมพันธ์ของปัจจัยเหล่านั้น ด้วยวิธีการของพวกเขาเพื่อการเรียนรู้และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ข้อมูลที่ประกอบด้วยการตอบสนองจาก 188 1 นักเรียนที่เริ่มเรียนในฤดูใบไม้ร่วงปี 2007 และ 2008 เก็บรวบรวมข้อมูลในบริบทของภาษาไทยกับการแก้ไขและสั้นรุ่นของประสบการณ์ในการสอน และการเรียนรู้ จำนวน etlq ) และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และโมเดลสมการโครงสร้าง . จากผลการศึกษา มีความสัมพันธ์กับการจัดทั้งความก้าวหน้าทางวิชาการและการศึกษาความสำเร็จ นอกจากนี้ ความก้าวหน้าทางวิชาการมีความสัมพันธ์กับเพื่อนที่สนับสนุน นอกจากนี้ส่วนใหญ่ของนักศึกษาพบว่า ปัญหาในการจัดการเวลาระหว่างการศึกษาและตารางที่ตั้งไว้เพิ่มพวกเขา ผลการวิจัย พบว่า การสนับสนุนทางสังคมและทักษะการควบคุมตนเองสําคัญ คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน