TheoriesRussian literary theorist M

Theories
Russian literary theorist Mikhail Bakhtin's doctoral thesis, later published as Rabelais and His World, argued that Carnival is a social institution and developed a theory about the role of humor and popular ritual in Carnival to produce a festive perception of the world constituting a second life of the people beyond and outside of the seriousness of officialdom. He also developed a theory of the carnival grotesque in which the lower bodily strata (eating, sex, defecation) serve as a medium through which to challenge the powerful. He argued that the feast is a primary human cultural form, rejecting as superficial its reduction to the need for rest from work.[10]

A once popular view held that Carnival served as a safety valve, for people to release antisocial impulses that threaten the social order. Therefore Carnival serves to reinforce status quo social norms.[11] Applying Arnold Van Gennep's model of the rites of passage[12] to Carnival, anthropologist Victor Turner initially held this view[13] but later came to see Carnival as producing social transformation[14] Folklorist Roger Abrahams moved beyond generalization about the function of Carnival to show that rather than producing one kind of effect, different social sectors used Carnival to focus attention on conflicts and incongruities by embodying them in "senseless" acts.[15]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีรัสเซียวรรณกรรม theorist Bakhtin มิของเอกวิทยานิพนธ์ เผยแพร่ในภายหลังเป็น Rabelais และโลกของเขา โต้เถียงว่า Carnival เป็นสถาบันทางสังคม และพัฒนาทฤษฎีเกี่ยวกับบทบาทของอารมณ์ขันและพิธีกรรมนิยมในงานฉลองการรับรู้ความรื่นเริงของโลกค่าชีวิตที่สองของคนเหนือ และภาย นอกอย่างจริงจังของ officialdom นอกจากนี้เขายังได้พัฒนาทฤษฎีของ grotesque คาร์นิวัลต่ำกว่าร่างกายชั้น (กิน เพศ defecation) ทำหน้าที่เป็นสื่อที่ท้าทายพลัง เขาโต้เถียงว่า ฉลองหลักมนุษย์วัฒนธรรมแบบ ปฏิเสธเป็นผิวเผินได้ลดความต้องการการพักผ่อนจากการทำงาน[10]ดูครั้งเดียวนิยมจัดว่า Carnival ทำหน้าที่เป็นวาล์วความปลอดภัย สำหรับคนที่จะปล่อยแรงกระตุ้น antisocial ว่าสั่งทางสังคม ดังนั้น งานรื่นเริงทำหน้าที่หนุนสภาพบรรทัดฐานทางสังคม[11] อาร์โนลด์แวน Gennep รูปแบบพิธีกรรมของกาล [12] ใช้กับงานรื่นเริง Victor Turner เริ่มจัดมุมมองนี้ [13] แต่ภายหลังมาดูคาร์นิวัลเป็นการผลิตการเปลี่ยนแปลงทางสังคม [14] Folklorist Roger Abrahams นักมานุษยวิทยาย้ายเกิน generalization เกี่ยวกับฟังก์ชันของคาร์นิวัลที่ มากกว่าหนึ่งชนิดของผลผลิต ภาคสังคมต่าง ๆ ใช้ Carnival เพื่อเน้นความสนใจความขัดแย้งและ incongruities ชงพวกเขาในกิจการ "หมดสติ"[15]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎี
รัสเซียทฤษฎีวรรณกรรมมิคาอิลวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก Bakhtin ตีพิมพ์ภายหลังเป็นไลส์และพระโลกแย้งว่าเทศกาลเป็นสถาบันทางสังคมและการพัฒนาทฤษฎีเกี่ยวกับบทบาทของอารมณ์ขันและพิธีกรรมที่นิยมในเทศกาลการผลิตการรับรู้การเฉลิมฉลองของโลก constituting ชีวิตที่สอง ของคนที่เกินและภายนอกของความร้ายแรงของข้าราชการ นอกจากนี้เขายังได้รับการพัฒนาทฤษฎีของเทศกาลแปลกประหลาดที่ชั้นล่างของร่างกาย (กินเพศถ่ายอุจจาระ) ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการที่จะผ่านความท้าทายที่มีประสิทธิภาพ เขาแย้งว่างานฉลองเป็นรูปแบบทางวัฒนธรรมของมนุษย์หลักปัดเป็นตื้น ๆ ลดลงของความต้องการสำหรับส่วนที่เหลือจากการทำงาน. [10] ครั้งหนึ่งมุมมองที่เป็นที่นิยมถือได้ว่าเป็นเทศกาลทำหน้าที่เป็นวาล์วนิรภัยสำหรับคนที่จะปล่อยแรงกระตุ้นต่อต้านสังคมที่คุกคาม การจัดระเบียบสังคม ดังนั้น Carnival ทำหน้าที่ในการเสริมสร้างสภาพที่เป็นบรรทัดฐานของสังคม. [11] การประยุกต์ใช้แบบจำลองอาร์โนแวน Gennep ของพิธีกรรมทาง [12] เทศกาลมานุษยวิทยาวิกเตอร์เทอร์เนอฉุดรั้งมุมมองนี้ [13] แต่ต่อมามาดู Carnival กับการผลิตการเปลี่ยนแปลงทางสังคม [ 14] Folklorist โรเจอร์อับราฮัมย้ายเกินกว่าทั่วไปเกี่ยวกับการทำงานของเทศกาลที่จะแสดงให้เห็นว่าการผลิตมากกว่าหนึ่งชนิดของผลกระทบภาคสังคมที่แตกต่างกันที่ใช้งานรื่นเริงที่จะมุ่งความสนใจไปที่ความขัดแย้งและ incongruities โดย embodying พวกเขาใน "สติ" การกระทำ. [15]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎีทฤษฎีวรรณกรรมรัสเซีย
ของมิคาอิล บัคตินปริญญาเอกวิทยานิพนธ์ ต่อมาได้รับการตีพิมพ์เป็น Rabelais และทั่วโลก เขาแย้งว่า คาร์นิวัล เป็นสถาบันทางสังคมและพัฒนาทฤษฎีเกี่ยวกับบทบาทของอารมณ์ขันและนิยมพิธีกรรมในเทศกาลเพื่อสร้างการรับรู้ของเทศกาลโลกประกอบชีวิตที่สองของประชาชนเลย และภายนอกของความรุนแรงของข้าราชการนอกจากนี้เขายังได้พัฒนาทฤษฎีของเทศกาลแปลกประหลาดในร่างกายซึ่งต่ำกว่า strata ( กิน , เพศ , ถ่ายอุจจาระ ) ใช้เป็นสื่อผ่านที่ท้าทายที่มีประสิทธิภาพ เขาแย้งว่า เทศกาลวัฒนธรรมของมนุษย์เป็นหลักรูปแบบของการปฏิเสธอย่างผิวเผิน เพื่อต้องการพักผ่อนจากงาน [ 10 ]

เมื่อดูที่นิยมจัดคาร์นิวัล หน้าที่ เป็น ตู้ลิ้นสำหรับคนที่จะปล่อย ต่อต้านสังคม แรงกระตุ้นที่เป็นภัยต่อสังคม . ดังนั้นงานบริการเพื่อเสริมสร้างสถานภาพทางสังคม . [ 11 ] ใช้ของอาร์โนลด์ ฟาน เจนเนพรูปแบบของพิธีกรรมทาง [ 12 ] คาร์นิวัลนักมานุษยวิทยาวิคเตอร์เทอร์เนอร์เริ่มต้นจัดมุมมองนี้ [ 13 ] แต่ต่อมาเห็นงานรื่นเริงเช่นการผลิตการเปลี่ยนแปลงทางสังคม [ 14 ] folklorist โรเจอร์ Abrahams ย้ายเกินกว่าการประมาณฟังก์ชันของงานรื่นเริงแสดงให้เห็นว่ามากกว่าหนึ่งชนิดของผลผลิตภาคสังคมที่แตกต่างกันใช้งานรื่นเริงเพื่อเน้นความสนใจของพวกเขาในที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและ incongruities " ไม่มีสาระ " การกระทำ .[ 15 ]