สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระราชสมภพเมื่อวันศุกร์ที่ 1 มกราคม 2406 เป็นพระราชธิดา อันดับที่ 66 ในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฏพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระราชธิดาพระองค์ที่ 4 ของท่านเจ้าจอมมารดาเปี่ยม พระสนมเอก (สมเด็จพระปิยะมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา) ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประดิษฐานพระองค์ไว้ในตำแหน่งพระมเหสี มีพระอิสริยยศเป็นลำดับต่อมา คือ เป็นพระนางเธอเสาวภาผ่องศรี แล้วเป็นพระนางเจ้าฯ พระวรราชเทวี ต่อมาเป็นสมเด็จพระนางเจ้าพระอัครราชเทวี ครั้งถึง พ.ศ. 2440 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จประพาสยุโรป ได้ทรงสถาปนาพระองค์เป็นสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ผู้สำเร็จราชการต่างพระองค์ โดยฐานะที่ทรงเป็นพระราชมารดาของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ในรัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาพระองค์เป็นสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี และทรงมอบการปกครองภายในพระบรมมหาราชวังถวายเป็นสิทธิ์ขาดแก่พระองค์ ต่อมายังถวายพระเกียรติในทางทหาร คือทรงเป็นพันโทผู้บังคับการพิเศษกองพันที่ 2 กรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพันเอกพิเศษแห่งกรมทหารม้าที่ 5 นครราชสีมา
โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2440 สมเด็จรีเจนต์ ต้องทำหน้าที่ในการราชการแผ่นดินแทนพระองค์ทั้งหมดเป็นเวลา 8 เดือนเศษ และเป็นที่ทราบกันดีว่าในปี พ.ศ. 2440 งานทุกด้านนั้นขึ้นอยู่กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสิ้น ทั้งในเรื่องงานในพระนคร งานด้านสังคม การประชุมเสนาบดี เสด็จออกให้ผู้มีราชการเฝ้า เสด็จเป็นประธานในพิธีต่าง ๆ งานราชการที่ต้องทรงวินิจฉัยและออกคำสั่งก็มีอีกมาก เพราะนอกจากต้องทรงพระอักษรจนดึกเพราะมีหนังสือราชการที่พระองค์ต้องทรงวินิจฉัย ยังต้องถวายรายงานผ่านลายพระราชหัตถ์ไปทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเพื่อทราบความเป็นไปของบ้านเมืองอยู่ทุกวัน และในฐานะที่พระองค์ยังคงต้องดูแลงานฝ่ายในพระบรมมหาราชวังมิให้ขาดตกบกพร่องสมเด็จรีเจนต์ยังทรงต้องลงสวนศิวาลัย อันเป็นสวนที่เหล่าสนมกำนัลและพระภรรยาเจ้าพระองค์อื่น ๆ จะลงมาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อดูแลบุคคลที่อยู่ภายในพระบรมมหาราชวังให้มีความสุขและเป็นระเบียบ ดังที่ได้ทรงจัดกิจกรรมให้มีการถ่ายภาพฝ่ายในโดยช่างสตรี เพื่อสร้างความบันเทิงและยังเป็นการถวายรายงานไปยังสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแสดงให้พระองค์ประจักษ์ว่าทุกอย่างทั้งงานราชการ และงานในบรมมหาราชวังมีความเรียบร้อยดี เพื่อพระองค์จะได้คลายกังวลกับทั้งงานราชการและงานในพระบรมมหาราชวังทางสยาม และทรงงานทางยุโรปได้อย่างมิเป็นกังวล
ทั้งนี้เป็นการนำทางที่ดีของสตรีเพศ ซึ่งในสมัยนั้นยังอยู่ในระบอบเก่าอย่างเคร่งครัด พระองค์ถือเป็นพระราชินีพระองค์แรกที่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กษัติย์ไทยในราชวงศ์จักรี ริเริ่มการศึกษาในสตรี การพยาบาลและการผดุงครรภ์แบบใหม่ มีการสนับสนุนเด็กหญิงไทยไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษในปี พ.ศ.2426 ก่อตั้งโรงพยาบาลศิริราช โดยมีทั้งหลักสูตรแพทย์แผนโบราณ และแพทย์แผนตะวันตก จัดตั้งสภาอุณาโลมแดง (สภากาชาดไทยในปัจจุบัน) เพื่อช่วยรักษาพยาบาลทหารและประชาชนพลเมืองที่ต้องบาดเจ็บ เนื่องจากกรณีพิพาทระหว่างสยามและประเทศฝรั่งเศสในปี ร.ศ. 122 ( พ.ศ. 2436) พระองค์ทรงตั้งโรงเรียนสตรีไว้มากมายทั่วประเทศ เริ่มด้วยโรงเรียนเสาวภา เมื่อปี พ.ศ. 2440 โรงเรียนจอมสุรางค์อุปถัมภ์ จังหวัดอยุธยา โรงเรียนราชินีบูรณะ จังหวัดนครปฐม โรงเรียนราชินี กรุงเทพฯพี่เมหาชื่ออื่น ๆ กับพ.ศ. มาเติมให้หน่อยนะค้า ^^ เป้นต้น