Even though job evaluations represe

Even though job evaluations represent the organization's value system for its jobs, the organization must still consider market rates in order to compete in recruiting, to adjust its pay policy relative to market rates, and to adjust its pay standardization to market averages. This last purpose is also important for adjusting pay levels to reflect inflation in the general economy. Several Department of Labor indexes might be used to determine increases in cost of living, but they are based on selected purchases and subject to statistical artifacts, such as variations in the importance of the purchases as indicators. Better is to use average market rates for benchmark jobs, because these rates reflect both market adjustment to inflation and occupational organizational supply and demand effects.
Optimally, data should be gathered by questionnaires that are followed up with visit or telephone conversations. For every job reported by an employer, the following minimum pay data should be gathered: the number of employees with the job title, their average rate of pay, and the number of hours in their workweek. Compensation should be summarized by job surveyed to show the following (in separate lines for each employer and listed in columns): the date of survey, number of employees in the class or job, number of hours in workweeks, and average pay of employees (converted to the same period for all employees). For each job or class, the surveyor should then compute the totals for employers, employees, and hours in the workweek; the average workweek per employer; and weighted average pay (number of employees times average pay divided by total number of employees).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แม้ว่าการประเมินงานแสดงระบบงานของมูลค่าขององค์กร องค์กรต้องพิจารณาราคาตลาดเพื่อแข่งขันในการสรรหา การปรับนโยบายค่าจ้างเทียบราคาตลาด และ การปรับมาตรฐานของจ่ายตลาดค่าเฉลี่ยให้ยังคง วัตถุประสงค์นี้สุดท้ายก็มีความสำคัญสำหรับการปรับระดับค่าจ้างถึงเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจทั่วไป กรมแรงงานหลายดัชนีอาจใช้เพื่อดูการเพิ่มขึ้นของที่อยู่อาศัย แต่พวกเขาจะขึ้นอยู่กับ การเลือกซื้อ และอาจ มีสิ่ง ประดิษฐ์ทางสถิติ เช่นความแตกต่างในความสำคัญของการซื้อเป็นตัวบ่งชี้ ดีกว่า คือการ ใช้ราคาตลาดเฉลี่ยเกณฑ์มาตรฐานงาน เนื่องจากราคาสะท้อนการปรับปรุงตลาดทั้งเงินเฟ้อและผลกระทบอุปสงค์และอุปทานขององค์กรอาชีพอย่างเหมาะสม ควรรวมข้อมูล โดยแบบสอบถามที่จะตาม ด้วยการสนทนาทางโทรศัพท์หรือเยี่ยมชม สำหรับงานทุกงานรายงาน โดยนายจ้าง ค่าจ้างขั้นต่ำข้อมูลต่อไปนี้ควรรวบรวม: จำนวนพนักงานกับงานชื่อเรื่อง อัตราการเฉลี่ยของค่าจ้าง และจำนวนชั่วโมงในการ workweek ค่าตอบแทนควรสรุปงานสำรวจจะแสดงต่อไปนี้ (ในแต่ละบรรทัดสำหรับนายจ้างแต่ละรายการในคอลัมน์): วันที่ของแบบสำรวจ จำนวนพนักงานในการเรียนหรืองาน จำนวนชั่วโมงใน workweeks และค่าเฉลี่ยค่าจ้างพนักงาน (แปลงเป็นช่วงเวลาเดียวกันสำหรับพนักงานทั้งหมด) สำหรับแต่ละงานหรือคลาส เมเนจเมนท์ที่ควรคำนวณยอดรวมสำหรับนายจ้าง พนักงาน และชั่วโมงใน workweek workweek เฉลี่ยต่อนายจ้าง และค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของค่าจ้าง (จำนวนพนักงานค่าจ้างเฉลี่ยแบ่งตามจำนวนพนักงานทั้งหมด)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้ว่าการประเมินผลงานที่เป็นตัวแทนของระบบคุณค่าขององค์กรสำหรับงานขององค์กรยังคงต้องพิจารณาอัตราดอกเบี้ยในตลาดเพื่อให้สามารถแข่งขันในการสรรหาที่จะปรับนโยบายการจ่ายเทียบกับอัตราดอกเบี้ยในตลาดและการปรับมาตรฐานการจ่ายเงินให้กับค่าเฉลี่ยของตลาด วัตถุประสงค์ที่ผ่านมานี้ยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการปรับระดับการจ่ายเงินเพื่อให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อในเศรษฐกิจทั่วไป กรมหลายดัชนีแรงงานอาจจะมีการใช้ในการกำหนดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของที่อยู่อาศัย แต่พวกเขาจะขึ้นอยู่กับการซื้อสินค้าที่เลือกและอาจมีสิ่งประดิษฐ์ทางสถิติเช่นการเปลี่ยนแปลงในความสำคัญของการซื้อเป็นตัวชี้วัด ดีคือการใช้อัตราดอกเบี้ยในตลาดเฉลี่ยสำหรับงานมาตรฐานเพราะเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงอัตราการปรับตัวของตลาดทั้งอัตราเงินเฟ้อและอุปทานขององค์กรการประกอบอาชีพและผลกระทบความต้องการ.
เหมาะสมที่สุดข้อมูลควรได้รับการรวบรวมโดยแบบสอบถามที่ตามมาด้วยการเยี่ยมชมหรือการสนทนาทางโทรศัพท์ สำหรับทุกงานที่รายงานโดยนายจ้างข้อมูลการจ่ายเงินขั้นต่ำต่อไปนี้ควรถูกรวบรวมจำนวนของพนักงานที่มีตำแหน่งงานอัตราเฉลี่ยของการจ่ายเงินของพวกเขาและจำนวนชั่วโมงในสัปดาห์ของพวกเขา ค่าตอบแทนควรจะสรุปโดยงานสำรวจที่จะแสดงต่อไปนี้ (ในสายแยกต่างหากสำหรับแต่ละนายจ้างและระบุไว้ในคอลัมน์): วันที่ของการสำรวจจำนวนพนักงานในชั้นเรียนหรืองานจำนวนชั่วโมง workweeks และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของพนักงาน ( แปลงเป็นช่วงเวลาเดียวกันสำหรับพนักงานทุกคน) สำหรับแต่ละงานหรือระดับรังวัดแล้วควรคำนวณผลรวมของนายจ้างลูกจ้างและชั่วโมงในสัปดาห์นั้น สัปดาห์เฉลี่ยต่อนายจ้าง และการจ่ายเงินถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (จำนวนพนักงานครั้งเฉลี่ยจ่ายหารด้วยจำนวนรวมของพนักงาน)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แม้ว่าการประเมินผลงานเป็นตัวแทนของระบบคุณค่าขององค์กรสำหรับงานของ องค์กรต้องพิจารณาอัตราดอกเบี้ยในตลาดเพื่อแข่งขันในการสรรหา , การปรับการจ่ายนโยบายสัมพันธ์กับอัตราตลาด และปรับการจ่ายมาตรฐานค่าเฉลี่ยของตลาด วัตถุประสงค์สุดท้ายนี่ก็สำคัญสำหรับการปรับระดับการจ่ายเพื่อสะท้อนถึงอัตราเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจทั่วไปแผนกต่าง ๆของดัชนีแรงงานอาจจะใช้ในการตรวจสอบเพิ่มขึ้นในค่าใช้จ่าย แต่พวกเขาจะขึ้นอยู่กับการเลือกเรื่องและสิ่งประดิษฐ์ทางสถิติ เช่น การเปลี่ยนแปลงในความสำคัญ ของการซื้อ เช่น ตัวชี้วัด ที่ดีกว่าคือ ใช้ราคาเฉลี่ยของตลาดงานสำหรับอ้างอิงเพราะอัตราเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงทั้งตลาดการปรับอัตราเงินเฟ้อและการจัดหาความต้องการขององค์การและผล .
อย่างระวัง ควรรวบรวมข้อมูลโดย ใช้แบบสอบถามที่ติดตามเยี่ยมชม หรือการสนทนาทางโทรศัพท์ สำหรับทุกงานที่รายงานโดยนายจ้าง จ่ายขั้นต่ำควรจะรวบรวมข้อมูลต่อไปนี้ : จำนวนของพนักงานที่มีตำแหน่ง อัตราเฉลี่ยของการจ่ายและจำนวนชั่วโมง Workweek . ค่าตอบแทนควรจะสรุปโดยงานสำรวจเพื่อแสดงต่อไปนี้ ( ในบรรทัดที่แยกต่างหากสำหรับแต่ละนายจ้างและแสดงในคอลัมน์ ) : วันของการสำรวจ จำนวนพนักงานในชั้นเรียนหรืองาน จำนวนชั่วโมงใน workweeks และค่าจ้างเฉลี่ยของลูกจ้าง ( แปลงช่วงเวลาเดียวกันสำหรับพนักงาน ) สำหรับงานแต่ละงาน หรือเรียนเนจแล้วควรคำนวณผลรวมสำหรับนายจ้าง ลูกจ้าง และชั่วโมงใน Workweek ; เฉลี่ย Workweek ต่อนายจ้าง และน้ำหนักเฉลี่ยจ่าย ( จำนวนพนักงานครั้งเฉลี่ยจ่ายหารด้วยจำนวนพนักงาน ) .