In a standard anionic coating, ther

In a standard anionic coating, there is some penetration of the coating into the pore structure of the paper generating a mechanical interlocking of the coating layer and the paper [29]. However, in the layer-by-layer process, the second layer cannot penetrate the underlying coating, and hence, the coating strength relies primarily on the adhesive forces between the two coatings. The adhesion at the layer-layer interface due to electro-attractive forces is weaker compared to a mechanical interlocking mechanism that happens in the pores of paper due to penetration of the coating components. This leads to coating failure at the interface between two coating layers. This result also supports our findings for our one-layer system; the increased strength in all-cationic coat- ing arises from the lack of migration of the cationic SB latex into the paper which, in turn, does not deplete the latex from the middle of the coating layer. The wet-on-wet or wet-on- dry deposition for both first anionic or first cationic coating layer systems did not show any difference in the pick values for the two-layer coatings. This shows the lack of migration between the two coating layers regardless of the nature of the first layer and wet-on-wet or wet-on-dry approach.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการเคลือบประจุลบแบบมาตรฐาน มีการแทรกซึมของสารเคลือบเข้าไปในโครงสร้างรูพรุนของกระดาษ ทำให้เกิดการประสานกันทางกลของชั้นเคลือบและกระดาษ [29] อย่างไรก็ตาม ในกระบวนการทีละชั้น ชั้นที่สองไม่สามารถทะลุผ่านสารเคลือบที่อยู่ด้านล่างได้ ดังนั้น ความแข็งแรงของสารเคลือบจึงขึ้นอยู่กับแรงยึดเกาะระหว่างสารเคลือบทั้งสองเป็นหลัก การยึดเกาะที่ส่วนต่อประสานระหว่างชั้นและชั้นเนื่องจากแรงดึงดูดด้วยไฟฟ้านั้นอ่อนกว่าเมื่อเทียบกับกลไกการประสานทางกลที่เกิดขึ้นในรูพรุนของกระดาษเนื่องจากการแทรกซึมของส่วนประกอบการเคลือบ สิ่งนี้นำไปสู่ความล้มเหลวในการเคลือบที่ส่วนต่อประสานระหว่างชั้นเคลือบสองชั้น ผลลัพธ์นี้ยังสนับสนุนการค้นพบของเราสำหรับระบบชั้นเดียวของเรา ความแข็งแรงที่เพิ่มขึ้นในการเคลือบแบบประจุบวกทั้งหมดเกิดจากการขาดการเคลื่อนตัวของน้ำยาง SB ประจุบวกลงในกระดาษ ซึ่งในทางกลับกันก็ไม่ทำให้น้ำยางจากตรงกลางชั้นเคลือบหมดไป การสะสมแบบเปียกบนเปียกหรือเปียกบนแห้งสำหรับทั้งระบบชั้นเคลือบประจุลบหรือประจุบวกชั้นแรกไม่ได้แสดงความแตกต่างใดๆ ในค่าการเลือกสำหรับการเคลือบสองชั้น สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงการขาดการโยกย้ายระหว่างชั้นเคลือบสองชั้น โดยไม่คำนึงถึงลักษณะของชั้นแรกและแนวทางเปียกบนเปียกหรือเปียกบนแห้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการเคลือบแบบแอนไอออนิกมาตรฐานการเคลือบจะแทรกซึมเข้าไปในโครงสร้างรูพรุนของกระดาษทำให้เกิดการเชื่อมต่อทางกลของการเคลือบและกระดาษ [29] อย่างไรก็ตามในกระบวนการทีละชั้นชั้นที่สองไม่สามารถเจาะชั้นล่างได้ดังนั้นความแข็งแรงของการเคลือบจึงขึ้นอยู่กับการยึดเกาะระหว่างสองชั้นเป็นหลัก เมื่อเทียบกับกลไกการเชื่อมต่อทางกลที่เกิดขึ้นในรูพรุนของกระดาษเนื่องจากการแทรกซึมของส่วนประกอบเคลือบการยึดเกาะที่อ่อนแอในส่วนติดต่อของชั้นเนื่องจากแรงดึงดูดทางไฟฟ้า ซึ่งนำไปสู่ความล้มเหลวในการเคลือบผิวในส่วนติดต่อระหว่างการเคลือบทั้งสอง ผลลัพธ์นี้ยังสนับสนุนการค้นพบระบบชั้นเดียวของเรา ความแข็งแรงที่เพิ่มขึ้นในการเคลือบไอออนบวกทั้งหมดเกิดจากการที่น้ำยาง SB Cationic ไม่ได้อพยพเข้าไปในกระดาษซึ่งในทางกลับกันจะไม่หมดน้ำยางที่อยู่ตรงกลางของสารเคลือบ การฝากเปียกชื้นหรือเปียกแห้งในชั้นแรกและชั้นที่สอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในเคลือบanionicมาตรฐานเคลือบจะแทรกซึมเข้าไปในโครงสร้างรูพรุนของกระดาษทําให้เกิดการเชื่อมต่อทางกลระหว่างเคลือบกับกระดาษ[ 29 ] อย่างไรก็ตามชั้นที่สองไม่สามารถเจาะผิวด้านล่างได้ในขั้นตอนทีละชั้นดังนั้นความแข็งแรงของการเคลือบจะขึ้นอยู่กับแรงยึดเกาะระหว่างสองชั้น เมื่อเทียบกับกลไกการเชื่อมต่อเชิงกลที่เกิดขึ้นในรูพรุนของกระดาษเนื่องจากการแทรกซึมของส่วนประกอบของสารเคลือบความยึดเกาะที่ชั้น-ชั้นจะอ่อนแอลงเนื่องจากแรงดึงดูดไฟฟ้า ซึ่งส่งผลให้การเคลือบผิวที่ส่วนติดต่อระหว่างสองเคลือบจะไม่ทํางาน ผลลัพธ์นี้ยังสนับสนุนการค้นพบของเราเกี่ยวกับระบบชั้นเดียว การเพิ่มขึ้นของความแข็งแรงในการเคลือบด้วยไอออนบวกทั้งหมดเป็นผลมาจากการไม่โยกย้ายน้ํายางcationic SBไปยังกระดาษซึ่งในทางกลับกันไม่ได้ใช้น้ํายางตรงกลางของการเคลือบ การสะสมเปียกชื้นหรือเปียกของระบบเคลือบแอนไอออนแรกหรือแอนไอออนแรกไม่แสดงความแตกต่างระหว่างค่าพิกัดของทั้งสองชั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่มีการโยกย้ายระหว่างสองชั้นโดยไม่คํานึงถึงลักษณะของชั้นแรกและวิธีการชุบเปียกหรือชุบเปียก