Thus, it appears that increased pho

Thus, it appears that increased phoneme awareness had an impact on the
ability to read words on the Woodcock.
The means and standard deviations of the phonetically regular word
list raw scores are shown in Table IV. A Kruskal Wallis analysis of variance
(a one-way analysis of variance applied to the ranked scores) of the phonetically
regular word list scores also indicates significant differences
among the conditions, F (2, 86) = 11.97, p < .0001. Follow-up comparisons
indicate that the children in the treatment group (phoneme segmentation
training) have significantly higher ranks than both control I (language
activities group) and cofitrol group II (no intervention), and there is
no significant difference between the two control groups. These results
reflect the superior ability of the phoneme segmentation group to break
the alphabetic code. To read phonetically regular words, a child must be
aware that words can be broken into phonemes and that each phoneme
corresponds to a symbol(s) in our orthography. These data suggest that
the treatment group (phoneme segmentation training) is more able than
either control group to match the written symbols to the sound-segments
of the word.
The results of this study indicate that the methods used in the segmentation
intervention were successful in teaching kindergarten children
to segment one-, two-, and three-phoneme items as measured by the
phoneme segmentation test. Thus, we were able to demonstrate (as have
others, for example, Bradley and Bryant 1985; Fox and Routh 1984; Olofsson
and Lundberg 1983) that kindergarten children can be taught to segment
words and that this skill has an impact on some important aspects of
early reading. The increased ability in phoneme segmentation skills demonstrated
by the treatment group had a significant impact on aspects of
their early reading skills--specifically, reading phonetically regular
words and words on the Woodcock. The results also indicate that increasing
letter sound knowledge, in and of itself, is not sufficient to improve
phoneme segmentation skills, nor does it have an impact on reading as
measured by the WRMT Word Identification Subtest or the ability to read
a list of phonetically regular words. Furthermore, we were able to validate
a set of procedures that can be used with groups of kindergarten children
during a typical school day.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดังนั้น มันปรากฏว่า รับรู้หน่วยเสียงที่เพิ่มขึ้นมีผลกระทบในการความสามารถในการอ่านคำใน Woodcockวิธีการและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคำตามการออกเสียงปกติคะแนนดิบรายการจะแสดงอยู่ในตาราง IV ผลต่างของการวิเคราะห์ Kruskal วาลลิ(ทางเดียวการวิเคราะห์ของผลต่างของการใช้คะแนนอันดับ) ของตามการออกเสียงคำปกติรายการคะแนนบ่งชี้ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างเงื่อนไข F (2, 86) 11.97, p = < .0001 การติดตามผลการเปรียบเทียบระบุว่า เด็กในการบำบัดรักษากลุ่ม (แบ่งหน่วยเสียงฝึกอบรม) มียศสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าทั้งควบคุมฉัน (ภาษากิจกรรมกลุ่ม) และ cofitrol กลุ่ม II (ไม่แทรกแซง), และมีไม่แตกต่างที่สำคัญระหว่างกลุ่มควบคุม 2 ผลลัพธ์เหล่านี้แสดงความสามารถเหนือกว่าของกลุ่มแบ่งหน่วยเสียงแบ่งรหัสตัวอักษร อ่านคำตามการออกเสียงปกติ เด็กต้องทราบว่า คำที่สามารถแบ่งเป็น phonemes และที่แต่ละหน่วยเสียงสอดคล้องกับ symbol(s) ใน orthography ของเรา แนะนำข้อมูลเหล่านี้ที่กลุ่มบำบัด (ฝึกอบรมแบ่งหน่วยเสียง) จะได้มากกว่าเป็นกลุ่มควบคุมให้ตรงกับสัญลักษณ์เขียนเสียงเซ็กเมนต์ของคำผลการศึกษานี้บ่งชี้ว่า วิธีการที่ใช้ในการแบ่งกลุ่มแทรกแซงไม่ประสบความสำเร็จในการสอนเด็กอนุบาลการแบ่งเซ็กเมนต์ 1, 2 และสินค้าสามหน่วยเสียงเป็นวัดโดยการการทดสอบแบ่งหน่วยเสียง ดังนั้น เราก็สามารถแสดงให้เห็นถึง (เท่าที่มีผู้อื่น เช่น Bradley และไบรอันท์ 1985 สุนัขจิ้งจอกและดอนเราธ์ 1984 Olofssonและ Lundberg 1983) ที่สามารถสอนเด็กอนุบาลเพื่อทำเซ็กเมนต์และคำว่า ทักษะนี้มีผลกระทบในบางแง่มุมที่สำคัญของอ่านก่อน แสดงให้เห็นว่าสามารถเพิ่มทักษะแบ่งหน่วยเสียงโดยการรักษา กลุ่มมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในด้านของก่อนการอ่านทักษะ - เฉพาะ อ่านตามการออกเสียงปกติคำและคำใน Woodcock ผลลัพธ์แสดงที่เพิ่มขึ้นหนังสือความรู้ ใน และ ของตัว เอง ไม่เพียงพอที่จะปรับปรุงหน่วยเสียงแบ่งทักษะ หรือไม่ก็มีผลต่อการอ่านเป็นวัด WRMT คำรหัส Subtest หรือความสามารถในการอ่านรายการของคำตามการออกเสียงปกติ นอกจากนี้ เราสามารถตรวจสอบได้ชุดของขั้นตอนที่สามารถใช้ได้กับกลุ่มเด็กอนุบาลในระหว่างวันโรงเรียนทั่วไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดังนั้นจึงปรากฏว่าการรับรู้ฟอนิมที่เพิ่มขึ้นมีผลกระทบต่อ
ความสามารถในการอ่านคำในจำพวก.
วิธีการและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของคำปกติอัยการ
รายการคะแนนดิบแสดงในตารางที่ IV การวิเคราะห์ Kruskal Wallis ความแปรปรวน
(การวิเคราะห์ทางเดียวแปรปรวนนำไปใช้กับการจัดอันดับคะแนน) ของอัยการ
คะแนนรายการคำปกตินอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
ในเงื่อนไข F (2, 86) = 11.97, p <0.0001 การเปรียบเทียบการติดตาม
พบว่าเด็กในกลุ่มการรักษา (ฟอนิมการแบ่งส่วน
การฝึกอบรม) มีอันดับที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกว่าการควบคุมทั้งผม (ภาษา
กลุ่มกิจกรรม) และกลุ่ม cofitrol II (ไม่มีการแทรกแซง) และมี
ไม่แตกต่างกันระหว่างสองกลุ่มควบคุม . ผลลัพธ์เหล่านี้
สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถที่เหนือกว่าของกลุ่มการแบ่งส่วนฟอนิมที่จะทำลาย
รหัสตัวอักษร การอ่านออกเสียงคำปกติเด็กจะต้อง
ทราบว่าคำสามารถแบ่งออกเป็นหน่วยเสียงและการที่ฟอนิมแต่ละ
สอดคล้องกับสัญลักษณ์ (s) ในการสะกดการันต์ของเรา ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า
กลุ่มการรักษา (ฟอนิมการฝึกอบรมแบ่งส่วน) มีมากขึ้นสามารถกว่า
กลุ่มควบคุมอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้ตรงกับสัญลักษณ์ที่เขียนถึงเสียงส่วน-
ของคำว่า.
ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าวิธีการที่ใช้ในการแบ่งส่วน
การแทรกแซงประสบความสำเร็จใน เด็กอนุบาลเรียนการสอน
ให้กับกลุ่มหนึ่ง, สองและสามรายการฟอนิมเป็นวัดโดย
การทดสอบการแบ่งส่วนฟอนิม ดังนั้นเราจึงมีโอกาสที่จะแสดงให้เห็นถึง (ตามที่มี
คนอื่น ๆ เช่นแบรดลีย์และไบรอันท์ 1985; ฟ็อกซ์และ Routh 1984; โอลอฟ
และ Lundberg 1983) เด็กอนุบาลที่สามารถสอนให้ส่วน
คำพูดและการที่สกิลนี้มีผลกระทบในบางด้านที่สำคัญ ของ
การอ่านในช่วงต้น ความสามารถที่เพิ่มขึ้นในทักษะการแบ่งส่วนฟอนิมแสดงให้เห็น
โดยกลุ่มการรักษามีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในด้านของ
ทักษะการอ่านในช่วงต้นของพวกเขา - โดยเฉพาะการอ่านออกเสียงปกติ
คำพูดและคำในจำพวก ผลยังแสดงให้เห็นว่าการเพิ่ม
ความรู้เสียงตัวอักษรในและของตัวเองไม่เพียงพอที่จะปรับปรุง
ทักษะการแบ่งส่วนฟอนิมหรือไม่ก็มีผลกระทบต่อการอ่านเป็น
วัดโดย WRMT คำระบุ Subtest หรือความสามารถในการอ่าน
รายชื่อของอัยการปกติ คำ นอกจากนี้เรามีความสามารถในการตรวจสอบ
ชุดของวิธีการที่สามารถนำมาใช้กับกลุ่มเด็กอนุบาล
ในช่วงวันที่โรงเรียนทั่วไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดังนั้น จึงปรากฏว่าในการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นมีผลกระทบต่อความสามารถในการอ่านคำ

ในวู้ดค็อค ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของอัยการประจำคำ
รายการ คะแนนดิบจะแสดงในตารางที่ 4 เป็น Kruskal Wallis การวิเคราะห์ความแปรปรวน
( การวิเคราะห์ความแปรปรวนใช้กับอันดับคะแนนของอัยการ
คะแนนรายการคำปกตินอกจากนี้ยังพบว่า ความแตกต่างระหว่างเงื่อนไข
, F ( 2 , 86 ) = บาท , p < . 001 . ติดตามการเปรียบเทียบ
บ่งชี้ว่า เด็กในกลุ่มทดลอง ( ฝึกการแบ่งส่วน
ติดตาม ) ได้สูงกว่าอันดับสูงกว่าการควบคุม ( กิจกรรมกลุ่มภาษา
) และ cofitrol 2 กลุ่ม ( ไม่มีการแทรกแซงและมี
)ไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มควบคุม ผลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถที่เหนือกว่าของ

การแบ่งส่วนแบ่งในกลุ่มรหัสตัวอักษร . อ่านอัยการพูดปกติ เด็กต้องรู้ว่าคำ
สามารถแบ่งเป็นหน่วยเสียงและหน่วยเสียงแต่ละ
สอดคล้องกับสัญลักษณ์ ( s ) ในเนื้อหาของเรา
ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มฝึกอบรมในการเป็นมากขึ้นสามารถกว่า
ให้กลุ่มควบคุมให้ตรงกับที่เขียนสัญลักษณ์เสียง

ส่วนของคำ ผลการศึกษาพบว่า วิธีการที่ใช้ในการประสบความสำเร็จในการสอนโดย
เด็กอนุบาล
ไปส่วนหนึ่ง สองและสามในรายการเป็นวัดโดย
ในการทดสอบ ดังนั้นเราสามารถที่จะแสดง ( มี
ผู้อื่น ตัวอย่างเช่น แบรดไบรอันท์และ 1985 ; สุนัขจิ้งจอกและเราท์ olofsson Lundberg 1983 และ 1984 ;
) ที่สามารถสอนให้เด็กอนุบาลกลุ่ม
คำและทักษะนี้ได้มีผลกระทบในบางแง่มุมที่สำคัญของ
อ่านแต่เช้า เพิ่มความสามารถในทักษะในการแสดงให้เห็น
โดยกลุ่มทดลองมี สำคัญในด้านของ
ทักษะการอ่านของพวกเขาก่อน -- โดยเฉพาะการอ่านอัยการปกติ
คำและคำบนวู้ดค็อค ผลการวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า การเพิ่ม
ตัวอักษรความรู้เสียงในตัวเองอยู่แล้ว คือไม่เพียงพอที่จะปรับปรุงทักษะในการ
มันไม่ส่งผลกระทบต่อการอ่าน เช่น วัดจากการ wrmt
คำสอบหรือความสามารถในการอ่าน
รายชื่อของอัยการประจำคำนอกจากนี้ เราสามารถที่จะตรวจสอบ
ชุดของขั้นตอนที่คุณสามารถใช้กับกลุ่มเด็กอนุบาลระหว่างวัน

โรงเรียนทั่วไป