WATS AND MONKSThe word "wat" means

WATS AND MONKS
The word "wat" means monastery and temple combined. It is the residence of monks and novices. There are about 21,000 wats in the whole of Thailand. In Bangkok alone there are nearly two hundred wats. Some big wats in Bangkok have as many as 600 resident monks and novices. Wats are centers of Thai art and architecture. Thai culture, to a considerable extent, flows from wats. Wat-lands and constructions thereon are donated by royalty, wealthy people and the public in general. The wat is the most important institution in Thai rural life. The social life of the rural community revolves around the wat. Besides carrying out the obvious religious activities, a wat serves the community as a recreation center, dispensary, school, community center, home for the aged and destitute, social work and welfare agency, village clock, rest-house, news agency, and information center. A wat is headed by a Chao Avas (the abbot) who is responsible for the maintenance of the wat discipline, the proper performance of religious services and rituals, and the general welfare of the inmates. Besides monks and novices, there are also the "temple boys" in wats, who assist monks and novices in various ways, such as bringing and arranging food, cleaning dormitories, washing yellow robes, etc. Usually these boys are related to resident monks in one way or another, and their stay is free of charge. Most of them are students whose homes are far away and who would, otherwise, find it impracticable to get education. This is especially so in Bangkok where accommodation is difficult to get and where all higher seats of learning of the country are situated. The census taken in 1954 reveals that there are as many as 119,044 temple boys in Thailand, which indeed is not a small figure. The institution of the wat, in itself a gift of Buddhism, therefore contributes in no small measure to the social welfare and progress of the Thai Buddhists. The benefits in this respect, of course, are more apparent among the lower strata of society than in the case of the fortunate few on the top.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัดและพระสงฆ์The word "wat" means monastery and temple combined. It is the residence of monks and novices. There are about 21,000 wats in the whole of Thailand. In Bangkok alone there are nearly two hundred wats. Some big wats in Bangkok have as many as 600 resident monks and novices. Wats are centers of Thai art and architecture. Thai culture, to a considerable extent, flows from wats. Wat-lands and constructions thereon are donated by royalty, wealthy people and the public in general. The wat is the most important institution in Thai rural life. The social life of the rural community revolves around the wat. Besides carrying out the obvious religious activities, a wat serves the community as a recreation center, dispensary, school, community center, home for the aged and destitute, social work and welfare agency, village clock, rest-house, news agency, and information center. A wat is headed by a Chao Avas (the abbot) who is responsible for the maintenance of the wat discipline, the proper performance of religious services and rituals, and the general welfare of the inmates. Besides monks and novices, there are also the "temple boys" in wats, who assist monks and novices in various ways, such as bringing and arranging food, cleaning dormitories, washing yellow robes, etc. Usually these boys are related to resident monks in one way or another, and their stay is free of charge. Most of them are students whose homes are far away and who would, otherwise, find it impracticable to get education. This is especially so in Bangkok where accommodation is difficult to get and where all higher seats of learning of the country are situated. The census taken in 1954 reveals that there are as many as 119,044 temple boys in Thailand, which indeed is not a small figure. The institution of the wat, in itself a gift of Buddhism, therefore contributes in no small measure to the social welfare and progress of the Thai Buddhists. The benefits in this respect, of course, are more apparent among the lower strata of society than in the case of the fortunate few on the top.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัดเบญจมบพิตรและพระสงฆ์
คำว่า "วัด" หมายถึงวัดและวัดรวม มันเป็นที่พำนักของพระสงฆ์และสามเณร มีประมาณ 21,000 วัดเบญจมบพิตรในภาพรวมของประเทศไทยที่มี ในกรุงเทพฯเพียงอย่างเดียวมีเกือบสองร้อยวัดเบญจมบพิตร บางวัดเบญจมบพิตรใหญ่ในกทม. มีมากถึง 600 พระสงฆ์และสามเณรที่อาศัยอยู่ วัดเบญจมบพิตรเป็นศูนย์ของไทยศิลปะและสถาปัตยกรรม วัฒนธรรมไทยในระดับมากไหลจากวัดเบญจมบพิตร วัดที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างได้รับการบริจาคมาจากเจ้านายคนที่ร่ำรวยและประชาชนโดยทั่วไป วัดเป็นสถาบันที่สำคัญที่สุดในชีวิตชนบทไทย ชีวิตทางสังคมของชุมชนชนบทหมุนรอบวัด นอกจากนี้การดำเนินกิจกรรมทางศาสนาที่เห็นได้ชัด, วัดให้บริการชุมชนเป็นศูนย์นันทนาการ, ร้านขายยา, โรงเรียน, ศูนย์ชุมชนบ้านสำหรับผู้สูงอายุและยากจน, การทำงานสังคมและหน่วยงานสวัสดิการ, นาฬิกาหมู่บ้านส่วนที่เหลือบ้านหน่วยงานข่าวและข้อมูล ศูนย์ วัดเป็นหัวหน้าโดยเจ้า Avas (เจ้าอาวาส) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการบำรุงรักษาวินัยวัดประสิทธิภาพการทำงานที่เหมาะสมของการบริการทางศาสนาและพิธีกรรมและสวัสดิการของผู้ต้องขัง นอกจากนี้พระสงฆ์และสามเณรนอกจากนี้ยังมี "ชายวัด" ในวัดเบญจมบพิตร, ที่ให้ความช่วยเหลือพระภิกษุสามเณรในรูปแบบต่างๆเช่นการนำและการจัดอาหาร, ทำความสะอาดหอพักซักเสื้อคลุมสีเหลือง ฯลฯ โดยปกติแล้วเด็กผู้ชายเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับพระสงฆ์อาศัยอยู่ใน หรืออีกวิธีหนึ่งและเข้าพักของพวกเขาเป็นค่าใช้จ่าย ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนที่มีบ้านอยู่ห่างไกลและผู้ที่จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้พบว่ามันจะได้รับการศึกษา นี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตกรุงเทพมหานครที่ที่พักเป็นเรื่องยากที่จะได้รับและที่ทุกที่นั่งที่สูงขึ้นของการเรียนรู้ของประเทศตั้งอยู่ การสำรวจสำมะโนประชากรดำเนินการในปี 1954 พบว่ามีมากที่สุดเท่าที่ 119,044 ชายวัดในประเทศไทยซึ่งแน่นอนไม่ได้เป็นร่างเล็ก สถาบันการศึกษาของวัดในตัวเองของที่ระลึกของพระพุทธศาสนาจึงมีส่วนช่วยในไม่มีวัดเล็ก ๆ เพื่อสวัสดิการสังคมและความก้าวหน้าของชาวไทยพุทธ ผลประโยชน์ในส่วนนี้ของหลักสูตรมีความชัดเจนมากขึ้นในหมู่ผู้ที่ชั้นล่างของสังคมกว่าในกรณีของโชคดีไม่กี่คนที่อยู่ด้านบน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัดและพระสงฆ์
คำว่า วัด หมายถึง วัด และวัดรวม มันเป็นที่อยู่อาศัยของพระภิกษุ สามเณร มีประมาณ 21 , 000 แห่งทั่วไทย ในกรุงเทพคนเดียวมีเกือบสองร้อยหน้า . บางใหญ่ วัดในกรุงเทพฯ มีพระภิกษุอาศัยอยู่มากที่สุดเท่าที่ 600 และสามเณร . แห่งมีศูนย์ศิลปะและสถาปัตยกรรมไทย วัฒนธรรมไทย ในขอบเขตมากที่ไหลจากหน้า .ที่ดินวัด และการก่อสร้างนั้นจะบริจาคตามศรัทธา คนร่ำรวย และประชาชนทั่วไป วัดเป็นสถาบันที่สำคัญที่สุดในชีวิตชนบทไทย . ชีวิตทางสังคมของชุมชนชนบท revolves รอบวัด . นอกจากนี้การดำเนินการออกชัดเจน กิจกรรมทางศาสนา มีวัดให้บริการชุมชนเป็นศูนย์นันทนาการที่จ่ายยา , โรงเรียน , ศูนย์ชุมชนบ้านเพื่อผู้สูงอายุและยากจน , สังคมสงเคราะห์และสวัสดิการ สำนักงาน หมู่บ้าน นาฬิกา เหลือบ้าน สำนักข่าว และศูนย์สารสนเทศ เป็นวัดที่เป็นหัวหน้าโดยเจ้า AVAs ( เจ้าอาวาส ) ผู้ที่ดูแลวัดวินัย การปฏิบัติที่เหมาะสมของการบริการทางศาสนาและพิธีกรรม และสวัสดิการทั่วไปของนักโทษ นอกจากพระภิกษุและสามเณรนอกจากนี้ยังมี " เด็กวัด " ในวัด ใครจะช่วยพระภิกษุและสามเณรในรูปแบบต่างๆ เช่น การนำและการจัดอาหาร ทำความสะอาดหอพัก ซักจีวร ฯลฯ โดยปกติเด็กเหล่านี้เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์ที่อาศัยอยู่ในหรืออีกวิธีหนึ่ง , และที่พักฟรี ที่สุดของพวกเขาเป็นนักเรียนที่มีบ้านอยู่ไกล และ ใคร ไม่งั้น เจอมันเหลือวิสัยที่จะได้รับการศึกษานี้โดยเฉพาะดังนั้น ในเขตที่พัก ยากที่จะได้รับและที่ทั้งหมดสูงกว่าที่นั่งของการเรียนรู้ของประเทศตั้งอยู่ การสำรวจสำมะโนประชากรที่ถ่ายในปี 1954 พบว่ามีมากที่สุดเท่าที่ 119044 เด็กวัดในประเทศไทย ซึ่งแน่นอนไม่ใช่รูปขนาดเล็ก สถาบันวัด มันเป็นของขวัญของพระพุทธศาสนาจึงมีส่วนช่วยในเล็กไม่มีวัดเพื่อสวัสดิการสังคมและความคืบหน้าของคนไทยพุทธ ประโยชน์ในส่วนนี้ แน่นอนชัดเจนมากขึ้นในชั้นล่างของสังคมสูงกว่าในกรณีของโชคดีไม่กี่ด้านบน
.