Perhaps surprisingly, that view mig

Perhaps surprisingly, that view might get a sympathetic hearing at the technology firm Atos, which has decided to phase out email as an internal communications tool. "Email has become the easy way to communicate but also the lazy way," says Rob Price, the UK managing partner of Atos.
Anyone who has arrived at their desk to find that they have been copied in on dozens of internal emails of no relevance, will say amen to that. But Atos is not rejecting modern communication techniques, simply recognising that a new generation already thinks email is old hat. Its new recruits arrive from university accustomed to instant messaging and social networks - far more rapid methods of communication.
Another major corporation has recognised that forcing its employees to be "always on" has its limits. Volkswagen's Works Council has decreed that the German firm's Blackberry server should stop sending emails to employees thirty minutes after their shift ends.
But what I really needed was someone who had taken an objective, scientific look at the way we use communications technology - and Dr Monica Bulger of the Oxford Internet Institute fitted the bill.
Far from dumbing down the way we communicate, technology had made us smarter, she told me. In particular, executives like Sir Victor Blank had been made more literate by the arrival of computers and word processing. "Prior to word processors, executives would dictate messages to secretaries and speak on the phone. So the use of technology has improved literacy."
Dr Bulger conceded that face-to-face communication was important, but said it also had its dangers: "I've sat in meetings where people have said things they shouldn't have." Whereas email gave more time for considered reflection: "You can do the count to ten rule and think a bit before you respond."
Overall, the academic's conclusion was that the different technologies now available to us were helping not hindering communication. But she conceded that there was an issue with what she described as "cognitive overload or data deluge."
Tell me about it. As someone who is addicted to these technologies, I still find myself oppressed by the sheer quantity of emails, phone messages and social media activity that need to be dealt with each day. I can't imagine how I would do my job without tools like Twitter. Yet I sometimes wonder whether I communicated better 30 years ago.
In my student days, before the age of the mobile or email, we used to simply drop in on people or bump into them in the street - but still managed to have rich and varied social lives and make enduring friendships.
So I decided to go back to university to give the final word to members of today's Facebook generation. I knocked on the door of my son's student flat in Oxford and asked him to go and get some friends from next door - he immediately reached for his phone to text them, rather than walk a few steps.
But once we'd gathered them together, the students proved to have quite a nuanced view of modern communication. One of them hardly ever used social networks and said he just bumped into people in the street; another mentioned the danger of becoming obsessed with Facebook at the expense of face-to-face communication.
And a third summed it up for me: "You use social networking and modern technology to arrange meeting people face to face, when otherwise you might not see them for a few weeks - you might not bump into them." We agreed that new communication technologies provided an addition, not a replacement, for traditional means.
So what shall I tell Sir Victor? It seems to me that his concerns about the impact of email, social networking and instant messaging on our ability to communicate, are somewhat exaggerated. But maybe we need to meet face to face to talk it through...

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บางทีจู่ ๆ มุมมองอาจได้รับการเห็นอกเห็นใจฟังที่บริษัทเทคโนโลยีร็อท ซึ่งมีการตัดสินใจระยะออกอีเมล์เป็นเครื่องมือการสื่อสารภายใน "อีเมล์เป็น วิธีง่ายในการสื่อสาร แต่แบบขี้เกียจ กล่าวว่า ร็อบราคา สหราชอาณาจักรการจัดการบริษัทในเครือของร็อทใครที่มาถึงที่พักของพวกเขาพบว่า พวกเขาได้ถูกคัดลอกในหลายสิบเมล์ภายในความไม่เกี่ยวข้อง จะพูดว่า อาเมน ที่ แต่ร็อทเป็นปฏิเสธเทคนิคการสื่อสารที่ทันสมัย เพียงตระหนักถึงว่า รุ่นใหม่แล้วคิดว่า อีเมล์ เก่าหาดใหญ่ ของทหารเกณฑ์ใหม่เดินทางมาจากมหาวิทยาลัยที่คุ้นเคยทันทีและเครือข่ายทางสังคม - วิธีการสื่อสารอย่างรวดเร็วมากบริษัทอื่นหลักได้ยังว่า บังคับให้พนักงานต้อง "เสมอกับ" มีขีดจำกัดของ คณะทำงานของโฟล์คสวาเก้นได้ decreed ว่า เซิร์ฟเวอร์ Blackberry ของบริษัทเยอรมันควรหยุดส่งอีเมล์ถึงพนักงาน 30 นาทีหลังจากการสิ้นสุดของกะแต่อะไรฉันจริง ๆ ต้องคนที่มีดำเนินการผิดวัตถุประสงค์ ลักษณะทางวิทยาศาสตร์ที่ทางเราใช้เทคโนโลยีการสื่อสาร - และ Dr Monica Bulger สถาบันอินเทอร์เน็ตในออกซ์ฟอร์ดตกแต่งรายการจาก dumbing ทางเราติดต่อสื่อสาร เทคโนโลยีได้ทำให้เราฉลาด เธอบอกฉัน โดยเฉพาะ ผู้บริหารเช่นเซอร์วิคเตอร์ว่างได้ถูกทำขึ้น literate โดยการมาถึงของคอมพิวเตอร์และประมวลผลคำ "ก่อนที่จะประมวลผลคำ ผู้บริหารจะบอกข้อความเรื่อง และพูดทางโทรศัพท์ ดังนั้น การใช้เทคโนโลยีมีการปรับปรุงสามารถ"ดร. Bulger conceded ที่ แบบพบปะสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ แต่ว่า มันยังมีอันตรายของ: "ฉันได้นั่งประชุมคนมีกล่าวว่า สิ่งที่พวกเขาไม่ควรมี" ในขณะที่อีเมล์ให้มากเวลาพิจารณา: "คุณสามารถทำนับสิบกฎ และคิดว่า บิตก่อนที่คุณตอบ"โดยรวม บทสรุปของวิชาการมีเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่มีให้เราได้ช่วยให้ไม่ขัดขวางการสื่อสาร แต่เธอ conceded ที่ มีปัญหากับสิ่งที่เธออธิบายว่า "รับรู้เกินพิกัดหรือข้อมูลสถานการณ์น้ำท่วม"บอกฉันเกี่ยวกับมัน เป็นคนที่ติดเทคโนโลยีเหล่านี้ ผมยังหาตัวเองถูกรุกราน โดยปริมาณแท้จริงของอีเมล์ ข้อความทางโทรศัพท์ และกิจกรรมสังคมที่ต้องการจะจัดการกับแต่ละวัน ฉันไม่คิดว่าจะทำงาน โดยไม่มีเครื่องมือเช่น Twitter แต่ บางครั้งผมสงสัยว่า ผมสื่อสารดีกว่า 30 ปีที่ผ่านมาในวันที่นักเรียนของฉัน ก่อนอายุของมือถือหรืออีเมล์ เราใช้เพียงแค่ปล่อยในบนคน หรือชนเข้าไปในถนน - แต่ยังคง จัดการเพื่อมีชีวิตทางสังคมที่หลากหลาย และแตกต่างกัน และทำให้มิตรภาพยั่งยืนดังนั้น ฉันตัดสินใจจะกลับไปยังมหาวิทยาลัยให้คำสุดท้ายของสมาชิกรุ่น Facebook วันนี้ ฉันกังวานประตูของนักเรียนของลูกแบนในออกซ์ฟอร์ด และขอให้เขาไป และเพื่อนจากประตูถัดไป - เขาทันทีแล้วในโทรศัพท์ของเขากับข้อความเหล่านั้น แทนที่เดินกี่ก้าวแต่เมื่อเรารวบรวมไว้ด้วยกัน นักเรียนได้มีมุมมองค่อนข้างฉับของการสื่อสารที่ทันสมัย หนึ่งของพวกเขาไม่เคยใช้เครือข่ายทางสังคม และกล่าวว่า เขาเพียงระแทกคนถนน อื่นกล่าวถึงอันตรายของการกลายเป็นเสือหิว Facebook ค่าใช้จ่ายของการสื่อสารแบบพบปะและที่สามรวมสำหรับฉัน: "คุณใช้เครือข่ายสังคมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อผู้เผชิญหน้า เมื่อมิฉะนั้น คุณอาจไม่เห็นในไม่กี่สัปดาห์ - คุณอาจไม่ชนเหล่านั้น" เราตกลงกันว่า เทคโนโลยีสื่อสารใหม่ให้ราคาเพิ่ม ไม่แทน วิธีดั้งเดิมดังนั้น อะไรจะบอกไรวิคเตอร์ที่รัก ผมดูเหมือนว่า เขากังวลเกี่ยวกับผลกระทบของอีเมล เครือข่ายทางสังคม และในความสามารถของเราในการสื่อสาร การส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีจะค่อนข้างปรับสมดุลของแสง แต่บางทีเราจำเป็นต้องพบหน้าพูดคุยนั้นผ่าน...

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บางทีอาจจะแปลกใจที่เห็นว่าอาจได้รับการพิจารณาความเห็นอกเห็นใจที่ บริษัท เทคโนโลยี Atos ซึ่งได้ตัดสินใจที่จะออกมาในช่วงอีเมลเป็นเครื่องมือการสื่อสารภายใน "อีเมล์ได้กลายเป็นวิธีที่ง่ายในการสื่อสาร แต่ยังเป็นวิธีที่ขี้เกียจ" ร็อบราคาสหราชอาณาจักรหุ้นส่วนผู้จัดการของ Atos.
กล่าวว่าทุกคนที่ได้มาถึงที่โต๊ะของพวกเขาที่จะพบว่าพวกเขาได้รับการคัดลอกในหลายสิบของอีเมลภายในของความเกี่ยวข้องจะบอกว่าเอเมน แต่ Atos ไม่ได้ปฏิเสธเทคนิคการสื่อสารที่ทันสมัยก็ตระหนักว่าคนรุ่นใหม่แล้วคิดว่าเป็นอีเมล์หมวกใบเก่า รับสมัครใหม่ของมันมาจากมหาวิทยาลัยที่คุ้นเคยกับการส่งข้อความทันทีและเครือข่ายทางสังคม. -
ไกลวิธีการอย่างรวดเร็วมากขึ้นในการติดต่อสื่อสารอีกบริษัท ที่สำคัญได้รับการยอมรับว่าการบังคับให้พนักงานของ บริษัท ที่จะ "เสมอ" มีข้อ จำกัด โฟล์คสวาเกนธิการสภาได้มีคำสั่งว่าเซิร์ฟเวอร์ บริษัท เยอรมันของ Blackberry ควรจะหยุดการส่งอีเมล์ให้กับพนักงานสามสิบนาทีหลังจากเปลี่ยนแปลงของพวกเขาจบลง.
แต่สิ่งที่ฉันต้องการจริงๆคือคนที่ได้รับวัตถุประสงค์มองทางวิทยาศาสตร์ในวิธีที่เราใช้เทคโนโลยีการสื่อสาร - และดรโมนิกา บัลเกอร์ของฟอร์ดสถาบันอินเทอร์เน็ตติดตั้งบิล.
ห่างไกลจาก dumbing ลงวิธีที่เราสื่อสารเทคโนโลยีทำให้เราได้อย่างชาญฉลาดที่เธอบอกฉัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารเช่นเซอร์วิกเตอร์ที่ว่างเปล่าได้รับการทำความรู้มากขึ้นโดยการมาถึงของเครื่องคอมพิวเตอร์และการประมวลผลคำ "ก่อนที่จะประมวลผลคำผู้บริหารจะกำหนดข้อความไปยังเลขานุการและพูดคุยทางโทรศัพท์ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีที่มีการปรับปรุงความรู้.."
ดรบัลเกอร์ยอมรับว่าใบหน้าเพื่อใบหน้าการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ แต่บอกว่ามันยังมีอันตรายของมัน " ผมเคยนั่งอยู่ในการประชุมที่ผู้คนได้กล่าวว่าสิ่งที่พวกเขาไม่ควรมี. " ในขณะที่อีเมลให้เวลามากขึ้นสำหรับการสะท้อนพิจารณา: ". คุณสามารถทำนับสิบกฎและคิดว่าสักหน่อยก่อนที่คุณจะตอบสนอง"
โดยรวมแล้วสรุปวิชาการคือการที่เทคโนโลยีที่แตกต่างในขณะนี้ที่มีให้เรากำลังให้ความช่วยเหลือไม่ได้ขัดขวางการสื่อสาร แต่เธอก็ยอมรับว่ามีปัญหากับสิ่งที่เธออธิบายว่า "เกินองค์ความรู้หรือข้อมูลน้ำท่วม."
บอกฉันเกี่ยวกับมัน ในฐานะที่เป็นคนที่ติดยาเสพติดเทคโนโลยีเหล่านี้ก็ยังพบว่าตัวเองถูกกดขี่โดยปริมาณที่แท้จริงของอีเมล, ข้อความโทรศัพท์และกิจกรรมสื่อสังคมที่จำเป็นต้องได้รับการจัดการในแต่ละวัน ฉันไม่สามารถนึกว่าฉันจะทำงานของฉันไม่มีเครื่องมือเช่น Twitter แต่บางครั้งผมสงสัยว่าผมมีการสื่อสารที่ดีกว่า 30 ปีที่ผ่านมา.
ในวันนักเรียนของฉันก่อนอายุของมือถือหรืออีเมลที่เราใช้เพียงแค่วางในคนหรือชนพวกเขาในถนน - แต่การจัดการยังคงมีมากมายและหลากหลาย ชีวิตทางสังคมและทำให้มิตรภาพที่ยั่งยืน.
ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะกลับไปยังมหาวิทยาลัยที่จะให้คำสุดท้ายให้กับสมาชิกของรุ่น Facebook วันนี้ ผมเคาะประตูของนักเรียนลูกชายของฉันแบนใน Oxford และขอให้เขาไปและได้รับเพื่อนบางคนจากประตูถัดไป -. เขาไปถึงได้ทันทีสำหรับโทรศัพท์ของเขาให้กับข้อความที่พวกเขามากกว่าที่จะเดินไม่กี่ขั้นตอน
แต่เมื่อเราต้องการรวบรวมพวกเขาร่วมกัน นักเรียนพิสูจน์ให้เห็นว่ามีค่อนข้างเหมาะสมยิ่งมุมมองของการสื่อสารที่ทันสมัย หนึ่งของพวกเขาแทบจะไม่เคยใช้เครือข่ายทางสังคมและบอกว่าเขาก็ชนเข้ากับคนที่อยู่ในสถานที่นั้น อื่นที่กล่าวถึงอันตรายของการเป็นหมกมุ่นกับ Facebook ที่ค่าใช้จ่ายของใบหน้าเพื่อใบหน้าสื่อสาร.
และหนึ่งในสามสรุปมันขึ้นสำหรับฉัน: "คุณสามารถใช้เครือข่ายทางสังคมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่จะจัดให้คนประชุมตัวต่อตัวเมื่อมิฉะนั้นคุณอาจจะไม่ เห็นพวกเขาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา - คุณอาจจะไม่ชนพวกเขา ". เราตกลงกันว่าเทคโนโลยีการสื่อสารใหม่ให้นอกจากนี้ไม่เปลี่ยนสำหรับวิธีการแบบดั้งเดิม.
ดังนั้นสิ่งที่ฉันจะบอกเซอร์วิกเตอร์? มันดูเหมือนว่าฉันที่ความกังวลของเขาเกี่ยวกับผลกระทบของอีเมล, เครือข่ายสังคมและการส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีในความสามารถของเราในการสื่อสารเป็นที่พูดเกินจริงไปบ้าง แต่บางทีเราต้องตอบสนองความตัวต่อตัวที่จะพูดคุยผ่าน ...

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บางที จู่ ๆ มุมมองที่อาจได้รับการได้ยินขี้สงสารที่เทคโนโลยี บริษัท อาโทส ซึ่งได้ตัดสินใจที่จะเฟสออกอีเมลเป็นเครื่องมือสื่อสารภายในองค์กร " อีเมล์ได้กลายเป็นวิธีที่ง่ายในการสื่อสาร แต่ยังมีวิธีที่ขี้เกียจ , กล่าวว่า " ร็อบ ราคา อังกฤษ หุ้นส่วนผู้จัดการของราเมือก .
ใครมาถึงที่โต๊ะของพวกเขาเพื่อค้นหาว่า พวกเขาได้รับการคัดลอกในสิบของอีเมลภายในที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง จะพูดว่า สาธุ แต่โทส ไม่ปฏิเสธ เทคนิคการสื่อสารสมัยใหม่ เพียงแค่ตระหนักว่าคนรุ่นใหม่คิดว่าอีเมล์เป็นหมวกเก่าสมาชิกใหม่มาถึงจากมหาวิทยาลัย คุ้นเคยกับการส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีและเครือข่ายทางสังคม - ไกลมากขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นวิธีของการสื่อสาร .
อีกสาขา บริษัท ได้รับการยอมรับว่าบังคับให้พนักงานเป็น " เสมอ " มีขอบเขตของมัน งานโฟล์คสวาเกน สภาได้กำหนดให้เยอรมัน บริษัท เซิร์ฟเวอร์ Blackberry ควรหยุดการส่งอีเมล์ถึงพนักงาน 30 นาทีหลังจากการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาจบลง
แต่สิ่งที่ฉันต้องการจริงๆคือคนที่เอาวัตถุประสงค์ทางวิทยาศาสตร์ ดูวิธีที่เราใช้เทคโนโลยี - การสื่อสาร และ ดร. โมนิก้า บัลเกอร์ของ Oxford อินเทอร์เน็ตสถาบันติดตั้งบิล .
ไกลจาก dumbing ลงวิธีที่เราสื่อสาร เทคโนโลยีทำให้เราฉลาดขึ้น เธอบอกฉัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารอย่างท่านวิคเตอร์ว่างได้รู้หนังสือมากขึ้น ด้วยการมาถึงของคอมพิวเตอร์และการประมวลผลคำ . ก่อนที่จะประมวลผลคำ ผู้บริหารจะกำหนดข้อความให้เลขานุการและพูดในโทรศัพท์ ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีมีการปรับปรุงการรู้ "
ดร บัลเกอร์ยอมรับว่า ตัวต่อตัว การสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญ แต่บอกว่ามันยังมีอันตรายของมัน :