3.1 Individual Factors. Many readin

3.1 Individual Factors. Many reading problems stem from
individual factors. For example, Searls, Mead and Ward (1985) examined
the relationship of students’ reading skills to television watching, leisuretime
reading and homework. They reported on data including those
gathered by NAEP during its 1979-80 evaluation assessment of reading
skills of nine-, thirteen-, and seventeen-year-olds across the United States.
In this survey, more than 75,000 students answered questions about their
backgrounds. The findings showed that students did not appear to benefit
much from television watching. Spare-time was associated with higher
reading-achievement scores. Interestingly, the highest achievement levels
occurred among students who combined one to two hours per day of
spare-time reading with what appeared to be the optimal amount of
television viewing for their age group.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3.1 แต่ละปัจจัย อ่านหลายปัญหาเกิดจากแต่ละปัจจัย ตัวอย่าง Searls ทุ่งหญ้า และ Ward (1985) ตรวจสอบความสัมพันธ์ของทักษะการอ่านของนักเรียนเข้าชม leisuretime โทรทัศน์อ่านหนังสือและการบ้าน พวกเขารายงานข้อมูลรวมทั้งรวบรวม โดย NAEP ระหว่างการประเมินประเมิน 1979-80 อ่านทักษะ ของเก้า- 13- seventeen ปีทั่วสหรัฐอเมริกาในแบบสำรวจนี้ มากกว่า 75000 นักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับการพื้นหลัง ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนไม่ปรากฏเพื่อ ประโยชน์มากจากการดูโทรทัศน์ เวลาอะไหล่เกี่ยวข้องกับสูงคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการอ่าน เป็นเรื่องน่าสนใจ ระดับที่สำเร็จสูงสุดเกิดขึ้นระหว่างนักเรียนที่รวมหนึ่งถึงสองชั่วโมงต่อวันอะไหล่เวลาอ่าน มีอะไรปรากฏเป็น ยอดสูงสุดของโทรทัศน์ดูสำหรับกลุ่มอายุของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.1 ปัจจัยส่วนบุคคล ปัญหาการอ่านหลายคนมาจาก
ปัจจัยส่วนบุคคล ตัวอย่างเช่น Searls มธุรสและวอร์ด (1985) การตรวจสอบ
ความสัมพันธ์ของทักษะการอ่านของนักเรียนในการดูโทรทัศน์ Leisuretime
การอ่านและการบ้าน พวกเขาได้รายงานข้อมูลรวมถึงผู้ที่
รวบรวมโดย NAEP ในระหว่างการประเมิน 1979-1980 การประเมินผลของการอ่าน
ทักษะของเก้า, thirteen- และสิบเจ็ดปี olds ทั่วสหรัฐอเมริกา
ในการสำรวจนี้มากกว่า 75,000 นักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับของพวกเขา
มีภูมิหลัง . ผลการวิจัยพบว่านักเรียนที่ไม่ปรากฏว่าได้รับประโยชน์
มากจากการดูโทรทัศน์ สำรองเวลาได้เกี่ยวข้องกับการที่สูงกว่า
คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการอ่าน ที่น่าสนใจระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงที่สุด
ที่เกิดขึ้นในหมู่นักศึกษาที่รวมกัน 1-2 ชั่วโมงต่อวันใน
เวลาว่างในการอ่านกับสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นจำนวนเงินที่ดีที่สุดของ
การชมโทรทัศน์สำหรับกลุ่มอายุของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3.1 ปัจจัยด้านบุคคล ปัญหาในการอ่านมากเกิดจาก
ปัจจัยของแต่ละบุคคล ตัวอย่างเช่น เซียลส์ , ทุ่งหญ้าและแผนก ( 1985 ) ตรวจสอบ
ความสัมพันธ์ของทักษะการอ่านของนักเรียนเพื่อดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ leisuretime
และการบ้าน พวกเขารายงานข้อมูลรวมทั้งรวบรวมโดย naep
ในระหว่าง 1979-80 การประเมินผลการประเมินทักษะการอ่าน
9 - 13 - ,17 ปี olds และทั่วสหรัฐอเมริกา .
ในการสำรวจนี้ มากกว่า 75 , 000 นักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องของพื้นหลัง

ผลการวิจัยพบว่านักเรียนที่ไม่ได้ปรากฏประโยชน์
มากจากโทรทัศน์ดู เวลามีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงกว่า
อ่าน . น่าสนใจ มากที่สุด
ระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเกิดขึ้นในหมู่นักเรียนรวม 1-2 ชั่วโมงต่อวัน
เวลาว่างอ่านกับสิ่งที่ปรากฏจะเหมาะสมที่สุดยอด
ดูโทรทัศน์สำหรับกลุ่มอายุของพวกเขา