Using renewable energy for domestic

Using renewable energy for domestic consumption has been identified as a key strategy by the Intergovernmental Panel on Climate Change to reduce greenhouse gas emissions. Critical to the success of this strategy is to know whether consumers are willing to pay to increase the proportion of electricity generated from renewable energy in their electricity portfolio. There are a number of studies in the literature that report a wide range of willingness to pay estimates. In this study, we used a meta-regression analysis to determine how much of the variation in willingness to pay reflects true differences across the population and how much is due to study design, such as survey design and administration, and model specification. The results showed that factors that influence willingness to pay, such as renewable energy type, consumers’ socio-economic profile and consumers’ energy consumption patterns, explain less variation in willingness to pay estimates than the characteristics of the study design itself. Because of this effect, we recommend that policy makers exercise caution when interpreting and using willingness to pay results from primary studies. Our meta-regression analysis further shows that consumers have significantly higher willingness to pay for electricity generated from solar, wind or generic renewable energy source (i.e. not a specific source) than hydro power or biomass.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใช้พลังงานทดแทนสำหรับการบริโภคภายในประเทศมีการระบุเป็นกลยุทธ์สำคัญว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สำคัญสู่ความสำเร็จของกลยุทธ์นี้คือรู้ว่า ผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายเพื่อเพิ่มสัดส่วนของกระแสไฟฟ้าขึ้นจากพลังงานหมุนเวียนในผลงานของไฟฟ้า มีจำนวนของการศึกษาวรรณคดีที่ประเมินรายงานหลากหลายยินดีที่จะจ่าย ในการศึกษานี้ เราใช้การวิเคราะห์การถดถอยเมตาสะท้อนถึงจำนวนของความผันแปรในยินดีที่จะจ่ายจริงความแตกต่างระหว่างประชากร และจำนวนคือเนื่องจากการศึกษาการออกแบบ สำรวจออกแบบและการจัดการ และข้อมูลจำเพาะของโมเดล ผลพบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจจ่าย พลังงานทดแทนชนิด ประวัติสังคมเศรษฐกิจของผู้บริโภค และรูป แบบการใช้พลังงานของผู้บริโภค อธิบายการเปลี่ยนแปลงน้อยในยินดีที่จะจ่ายประมาณกว่าลักษณะของการออกแบบการศึกษาเอง เนื่องจากลักษณะพิเศษนี้ เราขอแนะนำว่า ผู้กำหนดนโยบายระมัดระวังการตีความ และใช้ความตั้งใจจ่ายผลจากการศึกษาหลัก เราวิเคราะห์การถดถอยเมตาเพิ่มเติมแสดงว่า ผู้บริโภคมีความตั้งใจสูงมากเพื่อจ่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ลมหรือแหล่งพลังงานหมุนเวียนทั่วไป (เช่นไม่ระบุแหล่ง) กว่าพลังชีวมวล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การใช้พลังงานทดแทนเพื่อการบริโภคภายในประเทศที่ได้รับการระบุว่าเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญโดยคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สำคัญต่อความสำเร็จของกลยุทธ์นี้คือการทราบว่าผู้บริโภคมีความเต็มใจที่จะจ่ายเพื่อเพิ่มสัดส่วนของกระแสไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานทดแทนในผลงานไฟฟ้าของพวกเขา มีจำนวนของการศึกษาในวรรณคดีที่รายงานที่หลากหลายของความเต็มใจที่จะจ่ายประมาณการ ในการศึกษานี้เราใช้การวิเคราะห์อภิถดถอยในการกำหนดวิธีการมากของการเปลี่ยนแปลงในความตั้งใจที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างที่จ่ายจริงทั่วประชากรและวิธีการมากเกิดจากการศึกษาการออกแบบเช่นการออกแบบการสำรวจและการบริหารงานและข้อกำหนดรูปแบบ ผลการศึกษาพบว่าปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความเต็มใจที่จะจ่ายเช่นประเภทพลังงานทดแทนของผู้บริโภครายละเอียดทางเศรษฐกิจและสังคมของผู้บริโภครูปแบบการบริโภคพลังงานอธิบายความผันแปรน้อยเต็มใจที่จะจ่ายประมาณการกว่าลักษณะของการออกแบบการศึกษาของตัวเอง เพราะผลกระทบนี้เราขอแนะนำให้ผู้กำหนดนโยบายใช้ความระมัดระวังเมื่อการตีความและการใช้เต็มใจที่จะจ่ายผลจากการศึกษาประถมศึกษา การวิเคราะห์อภิถดถอยต่อไปของเราแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความตั้งใจที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่จะจ่ายสำหรับการผลิตไฟฟ้าที่เกิดจากแสงอาทิตย์ลมหรือแหล่งพลังงานหมุนเวียนทั่วไป (คือไม่เป็นแหล่งที่เฉพาะเจาะจง) กว่าไฟฟ้าพลังน้ำหรือชีวมวล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การใช้พลังงานทดแทนเพื่อการบริโภคภายในประเทศได้ถูกระบุว่าเป็นคีย์กลยุทธ์โดยคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่สำคัญเพื่อความสำเร็จของกลยุทธ์นี้คือว่าผู้บริโภคเต็มใจที่จะจ่ายเพื่อเพิ่มสัดส่วนของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในงานไฟฟ้าของพวกเขามีจำนวนของการศึกษาในวรรณคดีรายงานหลากหลายของความเต็มใจที่จะจ่าย ประมาณนั้น ในการศึกษาครั้งนี้ได้ใช้สมการถดถอย Meta กำหนดเท่าใดของการเปลี่ยนแปลงในความเต็มใจที่จะจ่ายจริงสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างในประชากรและวิธีการมาก เนื่องจากเรียนออกแบบ เช่น สำรวจออกแบบ และการบริหาร และกำหนดรูปแบบผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความเต็มใจที่จะจ่าย เช่น ประเภทของพลังงานทดแทน ผู้บริโภค ' ข้อมูลด้านเศรษฐกิจ สังคม และผู้บริโภคพลังงานรูปแบบการอธิบายรูปแบบน้อยกว่าในความเต็มใจที่จะประมาณการจ่ายมากกว่าลักษณะของการออกแบบการศึกษานั่นเอง เพราะผลนี้เราขอแนะนำว่า ผู้กำหนดนโยบายใช้ความระมัดระวังเมื่อตีความและค่าเฉลี่ยของความเต็มใจที่จะจ่าย ผลจากการศึกษาหลัก ของเรา meta การวิเคราะห์การถดถอยเพิ่มเติม พบว่าผู้บริโภคมีความเต็มใจที่จะจ่ายสูงกว่าการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมหรือพลังงานทั่วไป ( เช่นไม่ได้เป็นแหล่งเฉพาะ ) กว่าพลังน้ำหรือชีวมวล