During the past decade, a new appro

During the past decade, a new approach called “Cooperative Learning”
seemed to attract a lot of attention and became popular. This conceptual approach is
based on a theoretical framework that provides general principles on how to structure
cooperative learning activities in a teacher’s specific subject area, curriculum,
students and setting. Teachers can use this approach to stimulate students to acquire
the knowledge as well as create interpersonal and team skills. Traditionally, classes
always consist of good students and weak students. The weak students sit in isolation
as they lose confidence in their ability to learn English. Therefore, working in groups
is believed to help solve this problem. Shy students who don’t like to speak in a large
class are more comfortable speaking out in smaller groups. Group members can
complement each other’s strengths and weaknesses in English. Each students has
a different background and ability in English, which he or she can bring to the group.
For example, one student might have a strong vocabulary that can supply to students
with a solid background in grammar. Furthermore, poor students will benefit from
interaction with better ones, and good students will feel proud they play an important
role in helping their weaker classmates.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา วิธีการใหม่เรียกว่า "เรียนรู้สหกรณ์"ดูเหมือนจะ ดึงดูดความสนใจมาก และเป็นที่นิยม วิธีการแนวคิดนี้คือตามกรอบทฤษฎีที่แสดงหลักการทั่วไปเกี่ยวกับวิธีการโครงสร้างสหกรณ์ครูกิจกรรมการเรียนรู้ของเฉพาะวิชา หลักสูตรนักเรียนและการตั้งค่า ครูสามารถใช้วิธีนี้เพื่อกระตุ้นนักเรียนให้ได้รับความรู้ดีเป็นสร้างมนุษยสัมพันธ์ และทักษะของทีม ประเพณี เรียนจะประกอบด้วยนักเรียนดีและนักเรียนอ่อน นักเรียนอ่อนนั่งแยกกันขณะที่พวกเขาสูญเสียความมั่นใจในความสามารถในการเรียนภาษาอังกฤษ ดังนั้น ทำงานในกลุ่มไม่เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหานี้ นักเรียนขี้อายที่ไม่พูดในขนาดใหญ่ชั้นจะสะดวกสบายมากขึ้นพูดออกเป็นกลุ่มย่อย ๆ หลายกลุ่ม สมาชิกของกลุ่มสามารถเติมเต็มจุดแข็งและจุดอ่อนในภาษาอังกฤษของผู้อื่น มีนักเรียนแต่ละพื้นหลังที่แตกต่างกันและความสามารถในภาษาอังกฤษ ซึ่งเขาหรือเธอสามารถนำกลุ่มตัวอย่าง นักศึกษาหนึ่งอาจมีคำศัพท์ที่แข็งแกร่งที่สามารถจัดหาให้กับนักเรียนมีพื้นหลังสีทึบในไวยากรณ์ นอกจากนี้ นักเรียนที่ยากจนจะได้รับประโยชน์จากจะรู้สึกภูมิใจสำคัญเล่นโต้ตอบกับคนดี นักเรียนดีบทบาทในการช่วยเหลือเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาแข็งแกร่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาวิธีการใหม่ที่เรียกว่า "การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม"
ดูเหมือนจะดึงดูดความสนใจมากและกลายเป็นที่นิยม วิธีการแนวความคิดนี้จะ
ขึ้นอยู่กับกรอบทฤษฎีที่ให้หลักการทั่วไปเกี่ยวกับวิธีการจัดโครงสร้าง
กิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในพื้นที่เรื่องที่เฉพาะเจาะจงของครูหลักสูตร
นักศึกษาและการตั้งค่า ครูสามารถใช้วิธีการนี้เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนได้รับ
ความรู้รวมทั้งสร้างทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและทีมงาน ตามเนื้อผ้าเรียน
มักจะประกอบด้วยนักเรียนนักศึกษาที่ดีและอ่อนแอ นักเรียนนั่งที่อ่อนแอในการแยก
ที่พวกเขาสูญเสียความเชื่อมั่นในความสามารถในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ดังนั้นการทำงานในกลุ่ม
เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหานี้ นักเรียนขี้อายที่ไม่ชอบที่จะพูดในที่มีขนาดใหญ่
ระดับมีความสะดวกสบายมากขึ้นพูดออกมาในกลุ่มเล็ก ๆ สมาชิกในกลุ่มสามารถ
เสริมจุดแข็งของกันและกันและจุดอ่อนในภาษาอังกฤษ นักเรียนแต่ละคนมี
พื้นหลังที่แตกต่างกันและความสามารถในภาษาอังกฤษที่เขาหรือเธอสามารถนำมาให้กลุ่ม.
ยกตัวอย่างเช่นนักศึกษาคนหนึ่งอาจจะมีคำศัพท์ที่แข็งแกร่งที่สามารถจัดหาให้กับนักเรียน
ที่มีพื้นหลังที่แข็งแกร่งในไวยากรณ์ นอกจากนี้นักเรียนยากจนจะได้รับประโยชน์จาก
การมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่ดีกว่าและนักเรียนที่ดีจะรู้สึกภาคภูมิใจที่พวกเขาเล่นที่สำคัญ
บทบาทในการช่วยให้เพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาปรับตัวลดลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาวิธีการใหม่ที่เรียกว่า " การเรียนรู้ "
ดูเหมือนจะดึงดูดความสนใจ และกลายเป็นที่นิยม แนวคิดนี้เป็นแนวทาง
ตามกรอบทฤษฎีนั้นมีหลักการทั่วไปเกี่ยวกับวิธีการโครงสร้าง
สหกรณ์ กิจกรรมการเรียนรู้ของครู โดยเฉพาะเรื่องพื้นที่ , หลักสูตร ,
นักเรียนและการตั้งค่าครูสามารถใช้วิธีการนี้เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนที่จะได้รับ
ความรู้ ตลอดจนสร้างทักษะระหว่างบุคคลและทีมงาน . ผ้า เรียน
มักจะประกอบด้วยนักเรียนและนักศึกษาอ่อนแอ นักศึกษาอ่อนแอ นั่งแยก
เมื่อพวกเขาสูญเสียความมั่นใจในความสามารถในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ดังนั้น การทำงานในกลุ่ม
เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ขี้อาย นักเรียนที่ไม่ชอบที่จะพูดในชั้นเรียนขนาดใหญ่
มีความสะดวกสบาย ออกมาพูดในกลุ่มเล็ก ๆ สมาชิกของกลุ่มสามารถ
เสริมจุดแข็งและจุดอ่อนของกันและกัน ในภาษาอังกฤษ แต่ละคนได้
พื้นหลังที่แตกต่างและความสามารถในภาษาอังกฤษ ซึ่งเขาหรือเธอสามารถนำกลุ่ม
ตัวอย่างเช่น นักเรียนคนหนึ่ง อาจจะมีคำศัพท์ที่แข็งแกร่งที่สามารถจัดหานักเรียน
กับพื้นหลังที่เป็นของแข็งในไวยากรณ์ นอกจากนี้ นักเรียนจะได้รับประโยชน์จาก
ปฏิสัมพันธ์กับคนดี และเป็นนักเรียนที่ดีจะรู้สึกภูมิใจ พวกเขามีบทบาทสำคัญในการช่วยเพื่อนที่อ่อนแอของพวกเขา
.