Bhumibol has been involved in many

Bhumibol has been involved in many social and economic development projects. The nature of his involvement has varied by political regime.[101]
The government of Plaek Pibulsonggram (1951–1957) limited Bhumibol to a ceremonial role. During that period Bhumibol produced some films and operated a radio station from Chitlada Palace using his own personal funds.
In the military governments of Sarit Dhanarajata and his successors (1958–1980), Bhumibol was re-portrayed as the "Development King" and the inspiration of the economic and political goals of the regime. Royally-ordered projects were implemented under the financial and political support of the government, including projects in rural areas and communities under the influence of the Communist Party of Thailand. Bhumibol's visits to these projects were heavily promoted by the Sarit government and broadcast on the state-controlled media.
During the governments of General Prem Tinsulanond (1981–1987), the relationship between the Thai state and the monarch was at its closest. Prem, later to become President of Bhumibol's Privy Council, officially allocated government budgets and manpower to support royal projects. Most activities in this period involved the development of large scale irrigation projects in rural areas.
During the modern period (post-1988), the structured development of the Royal Projects reached its apex. Bhumibol's Chaipattana Foundation was established, promoting his "sufficiency economy" theory, an alternative to the export-oriented policies adopted by the period's elected governments. Following the 2006 coup, establishment of a "sufficiency economy" was enshrined in the constitution as being a primary goal of the government, and government financial support for royal projects boomed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภูมิพลได้มีส่วนเกี่ยวข้องในหลาย ๆ ทางสังคมและเศรษฐกิจโครงการพัฒนา ธรรมชาติของการมีส่วนร่วมของเขาได้แตกต่างกันโดยระบอบการปกครองทางการเมือง. [101]
รัฐบาลของแปลกพิบูลสงคราม (1951-1957) จำกัด ภูมิพลถึงบทบาทพระราชพิธี ในช่วงเวลานั้นภูมิพลผลิตภาพยนตร์บางและดำเนินการสถานีวิทยุจากจิตรลดาพระราชวังใช้เงินส่วนตัวของเขาเอง.
ในรัฐบาลทหารของสฤษดิ์ ธ นะรัชต์และสืบทอด (1958-1980), ภูมิพลเป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นว่า "กษัตริย์" การพัฒนาและแรงบันดาลใจจากเป้าหมายทางเศรษฐกิจและการเมืองของระบอบการปกครอง โครงการพระราชทานสั่งถูกนำมาใช้ภายใต้การสนับสนุนทางการเงินและทางการเมืองของรัฐบาลโครงการรวมทั้งในพื้นที่ชนบทและชุมชนภายใต้อิทธิพลของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย การเข้าชมภูมิพลเพื่อโครงการเหล่านี้ได้รับการเลื่อนอย่างหนักจากรัฐบาลสฤษดิ์และออกอากาศทางสื่อของรัฐที่ควบคุม.
ในช่วงรัฐบาลของพลเอกเปรมติณสูลานนท์ (1981-1987) ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐไทยและพระมหากษัตริย์อยู่ในที่รุนแรงที่ใกล้เคียงที่สุด เปรมต่อมากลายเป็นประธานาธิบดีของภูมิพลองคมนตรีจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลอย่างเป็นทางการและกำลังคนเพื่อสนับสนุนโครงการหลวง กิจกรรมมากที่สุดในช่วงนี้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาของโครงการชลประทานขนาดใหญ่ในพื้นที่ชนบท.
ในช่วงระยะเวลาที่ทันสมัย​​ (Post-1988), การพัฒนาโครงสร้างของโครงการหลวงมาถึงปลาย ภูมิพลของมูลนิธิชัยพัฒนาเป็นที่ยอมรับการส่งเสริมการขาย "แนวเศรษฐกิจพอเพียง" ทฤษฎีของเขาเลือกที่จะส่งออกนโยบายที่มุ่งเน้นนำไปใช้โดยรัฐบาลได้รับการเลือกตั้งในช่วงเวลาของ ดังต่อไปนี้ 2006 รัฐประหารจัดตั้ง "เศรษฐกิจพอเพียง" ได้ประดิษฐานอยู่ในรัฐธรรมนูญในฐานะที่เป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาลและรัฐบาลสนับสนุนทางการเงินสำหรับโครงการดังพระราช

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภูมิพลมีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการพัฒนาสังคม และเศรษฐกิจมาก ลักษณะของการมีส่วนร่วมของเขาได้แตกต่างกันตามระบอบการเมือง[101]
รัฐบาลปรีดี Pibulsonggram (1951–1957) จำกัดภูมิบทบาทพิธีการ ช่วงนั้น ภูมิพลผลิตฟิล์มบาง และดำเนินการสถานีวิทยุจากพระราชวังจิตรลดาใช้เงินส่วนตัวของเขาเอง
ในรัฐบาลทหาร Dhanarajata สฤษดิ์และผู้สืบทอดของเขา (1958–1980), ภูมิพลได้สื่อถึง "กษัตริย์พัฒนา" และแรงบันดาลใจเป้าหมายทางเศรษฐกิจ และการเมืองของระบอบการปกครองอีกครั้ง โครงการ royally สั่งดำเนินการภายใต้การสนับสนุนทางการเงิน และการเมืองของรัฐบาล รวมโครงการทั้งในชนบทและชุมชนภายใต้อิทธิพลของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ชมของภูมิพลโครงการเหล่านี้มากโดยรัฐบาลสฤษดิ์ และเผยแพร่บนการควบคุมรัฐสื่อ
ระหว่างรัฐบาลทั่วไปเปรมติณสูลานนท์ (1981–1987), ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐไทยและพระมหากษัตริย์ถูกที่สุดของการ เปรม ภายหลังการเป็น ประธานของภูมิขององคมนตรี อย่างเป็นทางการปันส่วนงบประมาณแผ่นดินและกำลังคนเพื่อสนับสนุนโครงการหลวง กิจกรรมส่วนใหญ่ในระยะนี้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงการชลประทานขนาดใหญ่ในพื้นที่ชนบท
ช่วงสมัย (ไปรษณีย์-1988), การพัฒนาโครงสร้างของโครงการรอยัลถึงครอบของ ของภูมิพลดำเนินงานมูลนิธิก่อตั้ง ส่งเสริมทฤษฎี "เศรษฐกิจพอเพียง" ของเขา ทางเลือกนโยบายการส่งออกนำของรอบระยะเวลาเลือกรัฐบาล ต่อการทำรัฐประหารในปี 2006 ที่ประดิษฐานของ "ระบบเศรษฐกิจพอเพียง" ที่ก่อตั้งในรัฐธรรมนูญเป็น เป้าหมายหลักของรัฐบาล และรัฐบาลสนับสนุนทางการเงินสำหรับโครงการรอยัล boomed

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปรมินทรมหา ภูมิ พลมีส่วนร่วมในโครงการการพัฒนาทางสังคมและเศรษฐกิจจำนวนมาก ธรรมชาติของการมีส่วนร่วมของเขามีความหลากหลายโดยระบอบการปกครอง.[ 101 ]
รัฐบาลของแปลกนิตย์พิบูลสงคราม( 1951-1957 )จำกัด(มหาชน)ปรมินทรมหา ภูมิ พลเป็นพิธีที่ ในระหว่างช่วงเวลาที่ปรมินทรมหา ภูมิ พลผลิต ภาพยนตร์ และดำเนินการสถานีวิทยุจากจิตรลดาพระราชวังโดยใช้เงินส่วนตัวของเขา.
ในรัฐบาลทหารของสฤษดิ์ธนะรัชต์ต่อการสงวนวัตถุเช่นว่านั้นแล้วและสำหรับผู้สืบทอดของเขา( 1958-1980 )ปรมินทรมหา ภูมิ พลครั้งกล่าวหาว่าเป็น"การพัฒนากษัตริย์"และแรงบันดาลใจมาจากเป้าหมายทางเศรษฐกิจและการเมืองของการปกครองระบอบที่ โครงการขนาดใหญ่ - สั่งซื้อได้ถูกนำมาใช้ในการสนับสนุนทางการเมืองและการเงินของรัฐบาลที่มีอยู่รวมถึงโครงการในชุมชนและพื้นที่ในชนบทตามอิทธิพลของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย การเที่ยวชมของปรมินทรมหา ภูมิ พลในการดำเนินโครงการเหล่านี้เป็นอย่างมากได้รับการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลสฤษดิ์ธนะรัชต์และการถ่ายทอดในสื่อของรัฐการควบคุม.
ในระหว่างรัฐบาลของพลเอกเปรมติณสูลา tinsulanond ( 1981-1987 )ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐไทยและสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่อยู่ใกล้ที่สุดของพื้นที่ เปรมติณสูลานนท์ต่อมากลายเป็นประธานาธิบดีของคณะองคมนตรีอย่างเป็นทางการของปรมินทรมหา ภูมิ พลจัดสรรกำลังคนและงบประมาณของรัฐบาลในการสนับสนุนโครงการพระราชดำริ กิจกรรมต่างๆในช่วงเวลานี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาของโครงการชลประทานขนาดใหญ่ในพื้นที่ชนบท.
ในระหว่างช่วงเวลาที่ทันสมัย( Post -1988 )การพัฒนาโครงสร้างของโครงการหลวงที่มาถึงจุดนี้ ทางมูลนิธิชัยพัฒนาของปรมินทรมหา ภูมิ พลได้ถูกสร้างขึ้นการส่งเสริมให้"ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง"ทฤษฎี,ทางเลือกในการผลิตเพื่อการส่งออกนโยบายโดยทางช่วงเวลาของรัฐบาลได้รับเลือกตั้ง. ต่อไปนี้: 2006 การรัฐประหารที่การจัดตั้งของ"เศรษฐกิจพอเพียง"มาประดิษฐานในรัฐธรรมนูญที่เป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาลและการสนับสนุนทางการเงินของรัฐบาลในโครงการพระราชดำริจึงมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว