Lapping - Lapping adds the final sm

Lapping - Lapping adds the final smooth finish on end—ground specimens and it serves as an alternative to end grinding in the lathe or the surface grinder. The simplest kind of lapping machine consists of a rotatin iron disc and a steel specimen holder which also moves carrying the specimen along the disc, when the disc starts to rotate. Any kind of oil-carried abrasives should be used and it is suggested that only water—borne abrasives should be used (HAWKES & MELLOR, 1970). To grind the specimen ends on the lapping machine, the specimen is placed in the steel specimen holder which is machined to accept a core (of a desired size) with a clearance of about 0.05 mu. The grinding compound is usually silicon carbide and aluminium oxide carried in water The lapping is normally done in two steps, i.e. , coarse lapping on a flat rotating iron disc using silicon carbide of about grade 100 first and then using silicon carbide of about grade 400 with aluminium oxide carried in water (Fig. 3), and fine lapping on a rotating grooved iron disc (Fig. 4). (4) Checking of Tolerances The specimen dimensions may be checked with a Vernier caliper or a micrometer during preparation. The squareness (perpendicularity of end faces to the specimen axis) may be checked using a steel tee-square. The flatness and smoothness of the specimen ends may be checked using a dial comparator (Figs. 5, 6 and 7). In the comparator shown in Figs. 5 and 6 the specimen is kept with its cylindrical walls touching the four nails protruding in the comparator and its bottom on the other nail coinciding with the center of the bottom end. The pate, which carries the dial gage, slides over the flat guide (Fig . 3) and by this tip of the dial gage is made to scan the whole upright face of the specimen. The maximum dial gage reading gives the deviation of the specimen end from smoothness. When the tip of the dial gage is made to scan the end surface along a diameter, the reading gives a measure of the deviation of end surface from being perpendicular to the specimen axis in the plane containing that diameter and the specimen axis. In the dial comparator shown in Fig. 7, the specimen is kept on a V-block with its axis horizontal and the principle of its operation is similar to the one described above. The allowable tolerances vary for each test. (5) Mounting of Strain Gages on Specimens If the deformational characteristics of a specimen are studied using electrical resistance strain gages, then they have to be bonded on the sunface of the specimen prior to testing to-allow the cementing medium to get hardened. Usually, few strain gages are attached both on axial and circumferential directions. Strain rosetts with two or more strain gages also can be used for this purpose. Specimen should be taken from the prescribed storage for each test and before certain surface requirements should be met in order to ensure a strong bond between the gage and surface. Preparation of the test surface prior to cementing the gage is normally the same for all gages and cements.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ซัด - ซัดเพิ่มเรียบสุดท้ายที่สิ้นสุด — ตัวอย่างดินและเป็นทางเลือกในการสิ้นสุดการบดในการกลึงหรือเครื่องบดพื้นผิว ชนิดที่ง่ายที่สุดของเครื่องซัดประกอบด้วยแผ่นเหล็ก rotatin และยึดชิ้นงานเหล็กที่ยัง ย้ายพกพาชิ้นงานไปตามดิสก์ เมื่อแผ่นดิสก์เริ่มหมุน กัดกร่อนทำน้ำมันชนิดใดก็ควรใช้ และแนะนำที่เฉพาะน้ำ — พัดขัดควรใช้ (HAWKES & MELLOR, 1970) การบดตัวอย่างจบบนเครื่องซัด ตัวอย่างอยู่ในยึดชิ้นงานเหล็กที่กลึงรับหลัก (ของขนาดที่ต้องการ) กับพิธีการของเกี่ยวกับหมู่ 0.05 บดผสมเป็นปกติคาร์ไบด์ และอะลูมิเนียมออกไซด์ดำเนินการในการขัดน้ำปกติทำสองขั้นตอน เช่น หยาบขัดบนแบนหมุนแผ่นเหล็กใช้คาร์ไบด์ของเกี่ยวกับเกรด 100 ครั้งแรก และใช้ซิลิคอนคาร์ไบด์ของเกี่ยวกับเกรด 400 กับอะลูมิเนียมออกไซด์ดำเนินในน้ำ (3 รูป), และซัดดีที่หมุนร่องแผ่นเหล็ก (รูป 4) (4) การตรวจสอบความคลาดเคลื่อนขนาดตัวอย่างอาจตรวจสอบกับเวอร์เนียหรือไมโครมิเตอร์ในระหว่างการเตรียม ทรงเหลี่ยม (perpendicularity ใบหน้าปลายแกนตัวอย่าง) อาจมีการตรวจสอบโดยใช้ทีตารางเหล็ก ความเรียบและลื่นไหลของปลายตัวอาจถูกตรวจสอบโดยใช้การเปรียบเทียบเรียก (มะเดื่อ. 5, 6 และ 7) ในการเปรียบเทียบแสดงในมะเดื่อ. 5 และ 6 ชิ้นงานจะถูกเก็บไว้กับผนังของกระบอกสัมผัสสี่เล็บยื่นออกมาในการเปรียบเทียบและตัวล่างในอื่น ๆ เล็บประจวบกับศูนย์กลางของด้านล่าง กบาล ซึ่งเป็นเกจ สไลด์ผ่านคู่มือแบน (มะเดื่อ. 3) และสิ่งนี้ของหน้าปัดเกจจะทำการสแกนใบหน้าตั้งตรงทั้งหมดของชิ้นงาน เกจสูงสุดที่อ่านให้ความเบี่ยงเบนของการสิ้นสุดของตัวอย่างจากความเรียบ เมื่อปลายเกจที่ทำการสแกนพื้นผิวสุดตามเส้นผ่าศูนย์กลาง การอ่านช่วยให้การวัดการเบี่ยงเบนของปลายไม่ตั้งฉากกับแกนชิ้นงานในเครื่องบินที่ประกอบด้วยเส้นผ่าศูนย์กลางที่เป็นแกนตัวอย่าง ในโทรศัพท์เปรียบเทียบแสดงในรูป 7 ตัวอย่างถูกเก็บไว้บนวีบล็อคมีแกนแนว และหลักการของการเป็นคล้ายกับอธิบายไว้ข้างต้น การยอมแตกต่างกันสำหรับแต่ละการทดสอบ (5) ยึดของต้องใช้งานในตัวอย่างถ้าลักษณะ deformational ของตัวอย่างที่ศึกษาใช้งานความต้านทานไฟฟ้าสายพันธุ์ แล้วพวกเขาจะต้องถูกผูกมัดใน sunface ของชิ้นงานก่อนการทดสอบการได้ปานกลาง cementing รับชุบแข็ง ปกติ ไม่กี่สายพันธุ์งานอยู่ทั้งในทิศทางตามแนวแกน และเส้น สายพันธุ์ rosetts มี สองสายพันธุ์งานยังสามารถใช้สำหรับวัตถุประสงค์นี้ ตัวอย่างควรได้จากการเก็บข้อมูลที่กำหนด สำหรับแต่ละการทดสอบ และ ก่อนควรเป็นไปตามข้อพื้นผิวเพื่อให้ติดแน่นระหว่างเกจและพื้นผิว เตรียมผิวทดสอบก่อนประสานเกจตามปกติจะมีสำหรับทุกงานและซีเมนต์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขัด - ตัดเพิ่มเรียบขั้นสุดท้ายในตัวอย่างท้ายพื้นดินและจะทำหน้าที่เป็นทางเลือกที่จะยุติการบดในเครื่องกลึงหรือเครื่องบดพื้นผิว ชนิดที่ง่ายที่สุดของเครื่องขัดประกอบด้วยแผ่นเหล็ก rotatin และเจ้าของชิ้นงานเหล็กซึ่งยังดำเนินการย้ายชิ้นงานพร้อมแผ่นดิสก์เมื่อดิสก์จะเริ่มหมุน ชนิดของการกัดกร่อนน้ำมันดำเนินการใด ๆ ควรจะนำมาใช้และจะมีการชี้ให้เห็นว่าขัดเพียงน้ำที่มีเชื้อควรใช้ (ฮอว์คและเมลเลอร์, 1970) การบดชิ้นงานจะสิ้นสุดลงในเครื่องขัดที่ชิ้นงานจะอยู่ในฐานะผู้ถือชิ้นงานเหล็กซึ่งเป็นเครื่องที่จะยอมรับหลัก (ของขนาดที่ต้องการ) ด้วยระยะห่างประมาณ 0.05 ม สารประกอบบดมักจะเป็นคาร์ไบด์ซิลิกอนและอลูมิเนียมออกไซด์ดำเนินการในน้ำขัดจะทำตามปกติในขั้นตอนที่สองคือการขัดหยาบบนแผ่นเหล็กหมุนแบนโดยใช้คาร์ไบด์ซิลิกอนประมาณชั้นประถมศึกษาปี 100 ก่อนแล้วจึงใช้คาร์ไบด์ซิลิกอนประมาณชั้นประถมศึกษาปี 400 กับ อลูมิเนียมออกไซด์ดำเนินการในน้ำ (รูปที่. 3) และขัดปรับหมุนแผ่นเหล็กร่อง (รูปที่. 4) (4) การตรวจสอบความคลาดเคลื่อนของขนาดชิ้นงานอาจจะมีการตรวจสอบที่มีความหนา Vernier หรือไมโครเมตรในระหว่างการเตรียมความพร้อม สี่เหลี่ยม (perpendicularity สิ้นใบหน้ากับแกนตัวอย่าง) อาจจะตรวจสอบโดยใช้เหล็กทีสแควร์ ความเรียบและเรียบเนียนของปลายชิ้นงานอาจจะมีการตรวจสอบโดยใช้เปรียบเทียบโทร (มะเดื่อ. 5, 6 และ 7) ในการเปรียบเทียบที่แสดงในมะเดื่อ 5 และ 6 ชิ้นงานจะถูกเก็บไว้กับผนังทรงกระบอกของการสัมผัสสี่เล็บยื่นออกมาในเปรียบเทียบและด้านล่างที่มีต่อเล็บอื่น ๆ ประจวบกับศูนย์กลางของปลายด้านล่าง หัวซึ่งเป็นผู้ประกันหน้าปัดสไลด์คู่มือแบน (รูปที่. 3) และวัดปลายของสายนี้จะทำในการสแกนใบหน้าตรงทั้งหมดของชิ้นงาน หน้าปัดอ่านสูงสุดให้วัดค่าความเบี่ยงเบนของปลายชิ้นงานจากความเรียบเนียน เมื่อปลายของสายวัดที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการสแกนพื้นผิวท้ายพร้อมเส้นผ่าศูนย์กลาง, การอ่านให้เป็นตัวชี้วัดของการเบี่ยงเบนของพื้นผิวที่สิ้นสุดจากการเป็นที่ตั้งฉากกับแกนของชิ้นงานในเครื่องบินที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่แกนของชิ้นงาน เปรียบเทียบในหน้าปัดแสดงในรูป 7 ชิ้นงานจะถูกเก็บไว้ใน V-บล็อกที่มีแกนแนวนอนและหลักการของการดำเนินงานคล้ายกับที่อธิบายไว้ข้างต้น คลาดเคลื่อนที่ยอมให้แตกต่างกันสำหรับการทดสอบแต่ละ (5) การติดตั้งของ Gages สายพันธุ์ในตัวอย่างถ้าลักษณะของ deformational ตัวอย่างมีการศึกษาโดยใช้กาจความเครียดความต้านทานไฟฟ้าแล้วพวกเขาก็จะต้องมีการผูกมัดใน Sunface ของชิ้นงานก่อนที่จะทดสอบการอนุญาตให้มีการประสานสื่อที่จะได้รับการชุบแข็ง โดยปกติไม่กี่สายพันธุ์กาจที่แนบมาทั้งในทิศทางตามแนวแกนและเส้นรอบวง rosetts สายพันธุ์ที่มีสองคนหรือมากกว่ากาจความเครียดนอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้เพื่อการนี​​้ ตัวอย่างที่ควรจะนำมาจากการจัดเก็บที่กำหนดไว้สำหรับการทดสอบแต่ละและก่อนที่ผิวต้องการบางอย่างที่ควรจะพบกันในการสั่งซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าพันธบัตรที่แข็งแกร่งระหว่างวัดและพื้นผิว การเตรียมความพร้อมของพื้นผิวการทดสอบก่อนที่จะมีการประสานประกันเป็นปกติเหมือนกันสำหรับกาจและซีเมนต์