การสถาปนาอำนาจนำของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์การเมือง คือ การได้มาซึ่งอำนาจ การแปล - การสถาปนาอำนาจนำของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์การเมือง คือ การได้มาซึ่งอำนาจ ไทย วิธีการพูด

การสถาปนาอำนาจนำของพลเอกเปรม ติณสูล

การสถาปนาอำนาจนำของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์

การเมือง คือ การได้มาซึ่งอำนาจ เพื่อที่จะตัดสินว่าใครจะได้อะไร เมื่อใด และอย่างไร การเมืองไทยปัจจุบันอยู่ในระบอบเผด็จการทหาร ซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติ และพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นผู้ใช้อำนาจบริหารและเป็นนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามการเมืองไทยยังมีการต่อสู้ของกลุ่มการเมืองระหว่างหัวอภิชนสมัยเก่าและหัวสมัยใหม่ ข้าราชการ และนายพล ประเทศไทยเกิดรัฐประหารหลายครั้ง ซึ่งมักเปลี่ยนแปลงให้ประเทศไทยอยู่ภายใต้อำนาจของคณะรัฐประหารในหลายๆครั้ง จนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญและกฏบัตรรวมแล้ว 19 ฉบับ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไร้เสถียรภาพทางการเมืองอย่างสูง
ในอดีตประเทศไทยเคยมีระบบหลายพรรคการเมือง กล่าวคือ มักไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว การจัดตั้งรัฐบาลจึงต้องอาศัยพรรคการเมืองหลายพรรค ในระบบของพรรคการเมือง การปกครองในระบอบประชาธิปไตย เป็นระบบการปกครองที่เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันทางการเมือง โดยพรรคการเมืองต่างๆ สามารถแข่งันกันเพื่อให้ไดเรับชัยชนะในการเลือกตั้ง ดังนั้น เมื่อมองถึงพัฒนาการทางการเมืองไทยในรูปแบบสถาบันทางการเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคการเมืองไทยนั้นจากอดีตจนถึงปัจจุบันส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นไปตามกรอบแนวคิดประชาธิปไตยหรือสถาบันทางการเมืองแบบประชาธิปไตย เช่น พรรคการเมืองไทยเกิดขึ้นมาตามสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดวิกฤติการณ์ทางการเมืองในอดีต และเกิดจากตัวบุคคลหรือผู้นำพรรคการเมืองเป็นนายทุนใหญ่ เป็นผู้มีบารมีทางการเมือง

คำว่า“อำนาจ”ในที่นี้หมายความถึงพลังอะไรบางอย่าง ที่จะสามารถบังคับให้คนหรือกลุ่มบุคคลที่มีพลังน้อยกว่ากระทำตามที่ต้องการ อำนาจมีความเกี่ยวข้องกับส่วนอื่น ไม่ใช่อำนาจทางการเมืองเพียงส่วนเดียว และปัจจุบันส่วนอื่นที่ว่านี้ มีความสำคัญมากขึ้น และบางมิติอาจจะมีมากกว่าอำนาจทางการเมืองด้วยซ้ำไป อำนาจส่วนอื่นๆนี้ จะมีการให้ความสำคัญมากกับสำนักคิดแบบสมัยใหม่ ที่เรียกว่า Post –Modern โดยจะเรียกการสถาปนาของอำนาจส่วนอื่นแบบนี้ว่าเป็น อำนาจที่เป็นจริงและมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิต บุคคลที่แสดงให้เห็นถึง การมีอำนาจทางการเมืองมากที่สุดในตลอดประวัติศาสตร์การเมืองไทย บุคคลสำคัญในช่วง พ.ศ. 2523 - 2531 ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทยยาวนานถึง 8 ปีโดยไม่มีพรรคการเมืองอยู่ในมือ ไม่ได้ขึ้นมาด้วยการรัฐประหาร ไม่ได้ใช้ระบอบเผด็จการ
บุคคลผู้นี้คือพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ที่เข้ารับตำแหน่งนายกฯ ตั้งแต่ปี 2523 ที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายรวมถึงทหารและข้าราชการระดับสูง ซึ่งเป็นสองฝ่ายที่มีอำนาจทางการเมืองสูงในสมัยนั้น
หลังตัดสินใจไม่รับตำแหน่งนายกฯ เมื่อปี 2531 ด้วยคำอธิบายสั้นๆ ว่า “ผมพอแล้ว” บทบาททางการเมืองของพลเอกเปรมกลับไม่ได้ยุติลงไป เพราะถัดไปเพียงหนึ่งเดือน พลเอกเปรมได้รับแต่งตั้งเป็นองคมนตรีในปี 2531 และสิบปีต่อมา เมื่อพ.ศ. 2541 ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานองคมนตรีในที่สุด
ด้วยฐานะองคมนตรีที่ถวายการรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความพยายามคลี่คลายวิกฤตการณ์ทางการเมืองหลายครั้ง จึงมักมีกระแสข่าวถึงชื่อพลเอกเปรมเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการอยู่เสมอ
การปาฐกถาระยะหลังของพลเอกเปรมซึ่งตอกย้ำถึงความซื่อสัตย์สุจริตว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ตลอดเส้นทางการทำงาน พลเอกเปรมเป็นผู้หนึ่งที่สงวนถ้อยคำมากที่สุด ความเงียบและคำตอบสั้นๆ เป็นวิธีรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีที่สุดเสมอ แม้สถานะความเป็นประธานองคมนตรีของ พล.อ.เปรม จะได้รับการยอมรับและถูกวางเอาไว้ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งตามโครงสร้างสังคมไทยก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว พล.อ.เปรม ยังคงถูกมองว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพล มากบารมีต่อคนทุกภาคส่วนในสังคมไทยอย่างแท้จริง ทั้งต่อข้าราชการทหาร พลเรือน และต่อการเมือง ซึ่งทั้งสามส่วนนี้ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญต่อการเคลื่อนไหว จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองมาโดยตลอด
ดังนั้น สิ่งเหล่านี้สามารถเป็นตัวชี้วัด “อำนาจ” และ “บารมี” ของ พล.อ.เปรม ที่มีต่อสังคมไทยได้อย่างโดดเด่นและชัดเจนมากที่สุด

0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
การสถาปนาอำนาจนำของพลเอกเปรมติณสูลานนท์การเมืองคือการได้มาซึ่งอำนาจเพื่อที่จะตัดสินว่าใครจะได้อะไรเมื่อใดและอย่างไรการเมืองไทยปัจจุบันอยู่ในระบอบเผด็จการทหารซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติและพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นผู้ใช้อำนาจบริหารและเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างไรก็ตามการเมืองไทยยังมีการต่อสู้ของกลุ่มการเมืองระหว่างหัวอภิชนสมัยเก่าและหัวสมัยใหม่ข้าราชการและนายพลประเทศไทยเกิดรัฐประหารหลายครั้งซึ่งมักเปลี่ยนแปลงให้ประเทศไทยอยู่ภายใต้อำนาจของคณะรัฐประหารในหลายๆครั้งจนถึงปัจจุบันประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญและกฏบัตรรวมแล้ว 19 ฉบับซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไร้เสถียรภาพทางการเมืองอย่างสูงในอดีตประเทศไทยเคยมีระบบหลายพรรคการเมืองกล่าวคือมักไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวการจัดตั้งรัฐบาลจึงต้องอาศัยพรรคการเมืองหลายพรรคในระบบของพรรคการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเป็นระบบการปกครองที่เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันทางการเมืองโดยพรรคการเมืองต่าง ๆ สามารถแข่งันกันเพื่อให้ไดเรับชัยชนะในการเลือกตั้งดังนั้นเมื่อมองถึงพัฒนาการทางการเมืองไทยในรูปแบบสถาบันทางการเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองไทยนั้นจากอดีตจนถึงปัจจุบันส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นไปตามกรอบแนวคิดประชาธิปไตยหรือสถาบันทางการเมืองแบบประชาธิปไตยเช่นพรรคการเมืองไทยเกิดขึ้นมาตามสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดวิกฤติการณ์ทางการเมืองในอดีตและเกิดจากตัวบุคคลหรือผู้นำพรรคการเมืองเป็นนายทุนใหญ่เป็นผู้มีบารมีทางการเมืองคำว่า“อำนาจ”ในที่นี้หมายความถึงพลังอะไรบางอย่าง ที่จะสามารถบังคับให้คนหรือกลุ่มบุคคลที่มีพลังน้อยกว่ากระทำตามที่ต้องการ อำนาจมีความเกี่ยวข้องกับส่วนอื่น ไม่ใช่อำนาจทางการเมืองเพียงส่วนเดียว และปัจจุบันส่วนอื่นที่ว่านี้ มีความสำคัญมากขึ้น และบางมิติอาจจะมีมากกว่าอำนาจทางการเมืองด้วยซ้ำไป อำนาจส่วนอื่นๆนี้ จะมีการให้ความสำคัญมากกับสำนักคิดแบบสมัยใหม่ ที่เรียกว่า Post –Modern โดยจะเรียกการสถาปนาของอำนาจส่วนอื่นแบบนี้ว่าเป็น อำนาจที่เป็นจริงและมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิต บุคคลที่แสดงให้เห็นถึง การมีอำนาจทางการเมืองมากที่สุดในตลอดประวัติศาสตร์การเมืองไทย บุคคลสำคัญในช่วง พ.ศ. 2523 - 2531 ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทยยาวนานถึง 8 ปีโดยไม่มีพรรคการเมืองอยู่ในมือ ไม่ได้ขึ้นมาด้วยการรัฐประหาร ไม่ได้ใช้ระบอบเผด็จการบุคคลผู้นี้คือพลเอกเปรมติณสูลานนท์ที่เข้ารับตำแหน่งนายกฯ ซึ่งเป็นสองฝ่ายที่มีอำนาจทางการเมืองสูงในสมัยนั้นที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายรวมถึงทหารและข้าราชการระดับสูงตั้งแต่ปี 2523หลังตัดสินใจไม่รับตำแหน่งนายกฯ เมื่อปี 2531 ด้วยคำอธิบายสั้น ๆ ว่า "ผมพอแล้ว" บทบาททางการเมืองของพลเอกเปรมกลับไม่ได้ยุติลงไปเพราะถัดไปเพียงหนึ่งเดือนพลเอกเปรมได้รับแต่งตั้งเป็นองคมนตรีในปี 2531 และสิบปีต่อมาเมื่อพ.ศ 2541 ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานองคมนตรีในที่สุดด้วยฐานะองคมนตรีที่ถวายการรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวความพยายามคลี่คลายวิกฤตการณ์ทางการเมืองหลายครั้งจึงมักมีกระแสข่าวถึงชื่อพลเอกเปรมเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการอยู่เสมอการปาฐกถาระยะหลังของพลเอกเปรมซึ่งตอกย้ำถึงความซื่อสัตย์สุจริตว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดตลอดเส้นทางการทำงานพลเอกเปรมเป็นผู้หนึ่งที่สงวนถ้อยคำมากที่สุดความเงียบและคำตอบสั้น ๆ เป็นวิธีรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีที่สุดเสมอแม้สถานะความเป็นประธานองคมนตรีของพล.อ.เปรมจะได้รับการยอมรับและถูกวางเอาไว้ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งตามโครงสร้างสังคมไทยก็ตามแต่ในความเป็นจริงแล้วพล.อ.เปรมยังคงถูกมองว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลมากบารมีต่อคนทุกภาคส่วนในสังคมไทยอย่างแท้จริงทั้งต่อข้าราชการทหารพลเรือนและต่อการเมืองซึ่งทั้งสามส่วนนี้ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองมาโดยตลอดดังนั้นสิ่งเหล่านี้สามารถเป็นตัวชี้วัด "อำนาจ" และ "บารมี" นั้น ๆ พล.อ.เปรมที่มีต่อสังคมไทยได้อย่างโดดเด่นและชัดเจนมากที่สุด
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
สถาปนาอำนาจหัวเรื่อง: การนำของคุณเอกพลตั้งเปรมติณสูลานนท์การเมืองคือหัวเรื่อง: การได้มาซึ่งอำนาจเพื่อที่จะตัดสินว่าได้ใครจะได้อะไรเมื่อใดและอย่างไร และพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาหัวหน้าคณะ รักษาความสงบแห่งชาติ ข้าราชการและนายพลประเทศไทยเกิดรัฐประหารหลาย ครั้ง จนถึงปัจจุบัน 19 ฉบับ กล่าวคือ ในระบบของพรรคการเมืองการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตย โดยพรรคการเมืองต่างๆ ดังนั้น เช่น อำนาจมีความเกี่ยวข้องกับส่วนอื่น และปัจจุบันส่วนอื่นที่ว่านี้มี ความสำคัญมากขึ้น อำนาจส่วนอื่น ๆ นี้ ที่เรียกว่าโพสต์ -Modern บุคคลที่แสดงให้เห็นถึง บุคคลสำคัญในช่วง พ.ศ. 2523 - 2531 8 ปีโดยไม่มีพรรคการเมืองอยู่ในมือไม่ ได้ขึ้นมาด้วยการรัฐประหาร ติณสูลานนท์ที่เข้ารับตำแหน่ง นายกฯ ตั้งแต่ปี 2523 เมื่อปี 2531 ด้วยคำอธิบายสั้น ๆ ว่า "ผมพอแล้ว" เพราะถัดไปเพียงหนึ่งเดือน 2531 และสิบปีต่อมาเมื่อพ. ศ 2541 ความเงียบและคำตอบสั้น ๆ เป็น วิธีรับมือกับสถานการณ์ต่างๆได้ดีที่สุดเสมอแม้สถานะความเป็นประธานองคมนตรีของพล . อ. เปรม แต่ในความเป็นจริงแล้วพล. อ. เปรมยังคงถูกมองว่าเป็นผู้ทรง อิทธิพล ทั้งต่อข้าราชการทหารพลเรือนและต่อการเมือง สิ่งเหล่านี้สามารถเป็นตัวชี้วัด "อำนาจ" และ "บารมี" ของพล. อ. เปรม












การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: