Sound waste management and optimisa

Sound waste management and optimisation of resource recovery require reliable data on solid waste generation and composition. In the absence of standardised and commonly accepted waste characterisation methodologies, various approaches have been reported in literature. This limits both comparability and applicability of the results. In this study, a waste sampling and sorting methodology for efficient and
statistically robust characterisation of solid waste was introduced. The methodology was applied to residual waste collected from 1442 households distributed among 10 individual sub-areas in three Danish municipalities (both single and multi-family house areas). In total 17 tonnes of waste were sorted into 10–50 waste fractions, organised according to a three-level (tiered approach) facilitating comparison
of the waste data between individual sub-areas with different fractionation (waste from one municipality was sorted at ‘‘Level III’’, e.g. detailed, while the two others were sorted only at ‘‘Level I’’). The results showed that residual household waste mainly contained food waste (42 ± 5%, mass per wet basis) and miscellaneous combustibles (18 ± 3%, mass per wet basis).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จัดการของเสียเสียงและคุณภาพของการฟื้นตัวของทรัพยากรต้องข้อมูลที่เชื่อถือได้สร้างขยะของแข็งและส่วนประกอบ ในกรณีวิธีการตรวจลักษณะเฉพาะของของเสียแบบ และยอมรับโดยทั่วไป วิธีการต่าง ๆ มีการรายงานในเอกสารประกอบการ นี้จำกัดความและความเกี่ยวข้องของผล ในการศึกษานี้ สุ่มตัวอย่างขยะ และวิธีการเรียงลำดับมีประสิทธิภาพ และตรวจลักษณะเฉพาะของประสิทธิภาพทางสถิติของขยะถูกนำมาใช้ วิธีการใช้ขยะที่เหลือจากครัวเรือน 1442 ถูกกระจาย 10 แต่ละพื้นที่ย่อยในสามแห่งเดนมาร์ก (ทั้งบ้านเดี่ยว และหลายครอบครัวพื้นที่) รวม 17 ตันของเสียได้ถูกจัดเรียงเป็น 10 – 50 เศษขยะ จัดตามแบบสามระดับ (ด้านวิธี) อำนวยความสะดวกในการเปรียบเทียบข้อมูลเสียระหว่างพื้นที่ย่อยแต่ละตัวด้วยคุณสมบัติของสารต่าง ๆ (ขยะจากเทศบาลหนึ่งถูกเรียงลำดับใน ''ระดับ III'' เช่น รายละเอียด ในขณะที่ทั้งสองคนเรียงเท่าที่ ''ระดับฉัน '') ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า ขยะเหลือใช้ในครัวเรือนส่วนใหญ่ประกอบด้วยอาหารขยะ (42 ± 5% พื้นฐานโดยรวมต่อเปียก) และสารติดไฟเบ็ดเตล็ด (18 ± 3% พื้นฐานโดยรวมต่อเปียก)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การจัดการของเสียเสียงและการเพิ่มประสิทธิภาพของการกู้คืนทรัพยากรที่จำเป็นต้องมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ในการสร้างขยะมูลฝอยและองค์ประกอบ ในกรณีที่ไม่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปวิธีการลักษณะของเสีย, วิธีการต่างๆที่ได้รับรายงานในวรรณคดี นี้จะช่วย จำกัด ทั้งการเปรียบเทียบและการบังคับใช้ของผล ในการศึกษานี้เป็นตัวอย่างของเสียและวิธีการคัดแยกที่มีประสิทธิภาพและสำหรับ
ตัวละครที่แข็งแกร่งทางสถิติของเสียที่เป็นของแข็งได้รับการแนะนำ วิธีการที่ถูกนำไปใช้กับของเสียที่เหลือเก็บรวบรวมจาก 1,442 ครัวเรือนกระจายในหมู่ 10 แต่ละพื้นที่ย่อยในเขตเทศบาลสามเดนมาร์ก (ทั้งประเภทเดี่ยวและพื้นที่บ้านหลายครอบครัว) ในทั้งหมด 17 ตันของเสียที่ถูกจัดเรียงเป็น 10-50 เศษขยะจัดตามสามระดับ (วิธีฉัตร) อำนวยความสะดวกในการเปรียบเทียบ
ข้อมูลของเสียระหว่างพื้นที่ย่อยแยกบุคคลที่มีความแตกต่างกัน (ของเสียออกจากหนึ่งในเขตเทศบาลได้รับการจัดเรียงที่ '' ระดับที่สาม '' เช่นรายละเอียดในขณะที่อีกสองคนถูกจัดเรียงเฉพาะที่ '' ระดับ I '') ผลการศึกษาพบว่าขยะในครัวเรือนที่เหลือส่วนใหญ่ที่มีเศษอาหาร (42 ± 5% ต่อมวลพื้นฐานเปียก) และเชื้อเพลิงอื่น ๆ (18 ± 3% ต่อมวลพื้นฐานเปียก)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การจัดการของเสียและการเพิ่มประสิทธิภาพของทรัพยากรที่ต้องใช้เสียงการกู้คืนข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับการเกิดขยะและองค์ประกอบที่ ในกรณีที่ไม่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับโดยทั่วไปวิธีการวิเคราะห์ของเสีย วิธีการต่างๆได้รับการรายงานในวรรณคดี นี้ จำกัด ทั้งไม่สามารถเปรียบเทียบและความเกี่ยวข้องของผลลัพธ์ ในการศึกษานี้ตัวอย่างและวิธีการคัดแยกขยะที่มีประสิทธิภาพและแข็งแกร่งของมูลฝอยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น วิธีการประยุกต์ใช้ของเสียตกค้าง จำนวน 1 ครัวเรือน กระจายในแต่ละพื้นที่ย่อย 10 3 เทศบาลเดนมาร์ก ( ทั้งเดี่ยวและครอบครัวหลายบ้านพื้นที่ ) ทั้งหมด 17 ตันของขยะถูกแยกออกเป็น 10 - 50 ของเสียเศษส่วนจัดตามระดับที่สาม ( เป็นแนวทาง ) การเปรียบเทียบ
ของเสียข้อมูลระหว่างพื้นที่ย่อยแต่ละตัวที่แตกต่างกัน ( ( ขยะจากเทศบาลเรียงลําดับที่ 'level III ' ' , เช่น รายละเอียด ในขณะที่อีก 2 คน ถูกแยก 'level เท่านั้นที่ ' ผม ' ' ) ผลการศึกษาพบว่า ครัวเรือนส่วนใหญ่มีเศษอาหารเหลือทิ้ง ( 42 ± 5%มวลต่อน้ำหนักเปียก ) และ combustibles เบ็ดเตล็ด ( มวล 18 ± 3 % ต่อน้ำหนักเปียก )