ConclusionCarbon sequestration vari

Conclusion
Carbon sequestration varies among forest types and ages of forest and carbon sequestration potential relies on tree size class.
Tropical rain forest has the highest potential for carbon sequestration and followed by dry evergreen forest and mixed deciduous forest.
Tree sizes in mixed deciduous forest at > 40 – 60 cm has trend of carbon sequestrationpotential more than other size classes, while size classes at > 20 – 40 and > 40 – 60 cm in dry evergreen forest and tropical rain forest has more carbon sequestration potential than other size classes. This evidence indicates the potential for growth to reach the climax stage of succession in the near future. These smaller trees do not have the highest carbon sequestration potential but they are relevant in terms of their future potential to grow up.
With high carbon sequestration potential in Thong Pha Phum National Forest, the Ministry of Natural Resources and Environmental must urgently consider to strictly protect and conserve these forests for sequestering atmospheric CO2, which can increase the carbon sink in natural forest. So, Thailand can contribute to reducing the problem of
greenhouse effects regarding global warming and climate changes.

The problem in this study was that the available data on carbon sequestration in tropical forests were extremely limited and incomplete. In some cases, inappropriate field measurements may have been taken.
As a result forest biomass may be significantly under - or overestimated. To resolve these uncertainties will require both improved practices with current field methods and new techniques for measuring processes to understand the carbon dynamics of the world’s forests.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทสรุปคาร์บอน sequestration แตกต่างกันระหว่างป่าชนิดและอายุของป่า และ sequestration คาร์บอนอาจอาศัยต้นไม้ขนาดชั้นป่าฝนเขตร้อนมี sequestration คาร์บอนอาจสูงที่สุดจาก และไปมาแล้ว ด้วยป่าผสมผลัดใบและป่าดิบแห้ง ขนาดต้นไม้ในป่าผสมผลัดใบที่ > 40-60 ซม.มีแนวโน้มมากกว่าชั้นเรียนอื่น ๆ ขนาด sequestrationpotential คาร์บอนขนาดเรียน > 20 – 40 และ > 40 – 60 ซม.แห้งป่าดิบ และป่าฝนเขตร้อนมีมากกว่าคาร์บอน sequestration มีศักยภาพมากกว่าชั้นเรียนอื่น ๆ ขนาด หลักฐานนี้ระบุว่า ศักยภาพในการเติบโตถึงระยะจุดสุดยอดของบัลลังก์ในอนาคตอันใกล้ ต้นไม้เหล่านี้มีขนาดเล็กไม่มีคาร์บอน sequestration สูงสุดที่สามารถมีศักยภาพ แต่มีความเกี่ยวข้องในแง่ของศักยภาพของพวกเขาในอนาคตเติบโต มี sequestration คาร์บอนสูงที่อาจเกิดขึ้นในป่าแห่งชาติทองผาภูมิ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้องเร่งด่วนพิจารณาป้องกัน และอนุรักษ์ป่าไม้สำหรับแนวบรรยากาศ CO2 ซึ่งสามารถเพิ่มเก็บคาร์บอนในป่าธรรมชาติเหล่านี้อย่างเคร่งครัด ดังนั้น ไทยสามารถนำไปสู่การลดปัญหาผลกระทบเรือนกระจกเกี่ยวกับโลกร้อนและสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงปัญหาในการศึกษานี้เป็นข้อมูลมีบนคาร์บอน sequestration ในป่าเขตร้อนได้อย่างจำกัด และไม่สมบูรณ์ ในบางกรณี วัดสนามไม่เหมาะสมอาจมีการดำเนินการ ดังนั้นชีวมวลป่าไม้อาจมากใต้ - หรือ overestimated เพื่อแก้ไขความไม่แน่นอนเหล่านี้จะต้องมีทั้งปรับปรุงวิธีปฏิบัติปัจจุบันฟิลด์วิธีและเทคนิคใหม่สำหรับการวัดกระบวนการเข้าใจการเปลี่ยนแปลงคาร์บอนของป่าของโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สรุปปริมาณการสะสมคาร์บอนแตกต่างกันระหว่างป่าประเภทและทุกเพศทุกวัยของป่าและศักยภาพในการกักเก็บคาร์บอนอาศัยระดับขนาดของต้นไม้. ป่าฝนเขตร้อนที่มีศักยภาพสูงสุดสำหรับการกักเก็บคาร์บอนและตามด้วยป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณ. ขนาดต้นไม้ในป่าผสมผลัดใบที่> 40-60 ซม. มีแนวโน้มของคาร์บอน sequestrationpotential มากกว่าชั้นเรียนขนาดอื่น ๆ ในขณะที่เรียนขนาด> 20 - 40 และ> 40-60 ซม. ในป่าดิบแล้งและป่าดิบชื้นที่มีคาร์บอนที่มีศักยภาพมากขึ้นกว่าการเรียนการอายัดขนาดอื่น ๆ หลักฐานนี้แสดงให้เห็นศักยภาพในการเจริญเติบโตที่จะไปถึงจุดสุดยอดเวทีของความสำเร็จในอนาคตอันใกล้ ต้นไม้เหล่านี้มีขนาดเล็กไม่ได้มีคาร์บอนที่มีศักยภาพการกักเก็บสูงสุด แต่พวกเขามีความเกี่ยวข้องในแง่ของศักยภาพในอนาคตของพวกเขาจะเติบโตขึ้น. ด้วยศักยภาพการกักเก็บคาร์บอนสูงในทองผาภูมิป่าสงวนแห่งชาติที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเร่งด่วนจะต้องพิจารณาอย่างเคร่งครัดป้องกัน และอนุรักษ์ป่าเหล่านี้สำหรับ sequestering CO2 ในชั้นบรรยากาศซึ่งสามารถเพิ่มคาร์บอนในป่าธรรมชาติ ดังนั้นประเทศไทยสามารถนำไปสู่การลดปัญหาของผลกระทบเรือนกระจกเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ. ปัญหาที่เกิดขึ้นในการศึกษาครั้งนี้คือการที่ข้อมูลที่มีอยู่ในการกักเก็บคาร์บอนในป่าเขตร้อนที่มี จำกัด และไม่สมบูรณ์มาก ในบางกรณีวัดสนามที่ไม่เหมาะสมอาจได้รับการถ่าย. ในฐานะที่เป็นป่าชีวมวลผลอาจจะมีนัยสำคัญภายใต้ - หรือเกินไป เมื่อต้องการแก้ไขความไม่แน่นอนเหล่านี้จะต้องมีทั้งการปฏิบัติที่ดีขึ้นด้วยวิธีการสาขาในปัจจุบันและเทคนิคใหม่ ๆ สำหรับการวัดกระบวนการที่จะเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของคาร์บอนของป่าไม้ของโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุป
คาร์บอนสะสมแตกต่างกันในป่าประเภทและอายุของป่าและศักยภาพการกักเก็บคาร์บอนอาศัยชั้นขนาดต้นไม้
ป่าดิบชื้น มีศักยภาพสูงสุดในการกักเก็บคาร์บอน และตามด้วยป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณ
ขนาดต้นไม้ในป่าผสมผลัดใบที่ 40 – 60 ซม. มี > แนวโน้มของคาร์บอน sequestrationpotential มากกว่าชั้นเรียนขนาดอื่น ๆ ในขณะที่ขนาดชั้นเรียนที่ 20 – 40 และ 40 – 60 ซม. ในป่าดิบแล้งและป่าดิบชื้น มีศักยภาพการสะสมคาร์บอนในชั้นเรียนมากขึ้นกว่าขนาดอื่น ๆหลักฐานนี้บ่งชี้ว่าศักยภาพในการเข้าถึงจุดสุดยอดของความสำเร็จในขั้นต่อไปในอนาคต ต้นไม้ขนาดเล็กเหล่านี้ไม่ได้มีสูงสุดศักยภาพสะสมคาร์บอน แต่พวกเขาจะเกี่ยวข้องในแง่ของศักยภาพในอนาคตของพวกเขาเติบโตขึ้น ศักยภาพการกักเก็บคาร์บอนสูง
กับทองผาภูมิแห่งชาติป่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะต้องเร่งพิจารณา เพื่อปกป้องและอนุรักษ์ป่าเหล่านี้อย่างเคร่งครัดสำหรับ sequestering คาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ซึ่งสามารถเพิ่มปริมาณการเก็บกักคาร์บอนในป่าธรรมชาติ ดังนั้น ประเทศไทยสามารถมีส่วนร่วมลดปัญหาโลกร้อนผลกระทบเรือนกระจกเกี่ยวกับ


และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศปัญหาในการศึกษานี้เป็นข้อมูลในการกักเก็บคาร์บอนในป่าเขตร้อนมีมาก จำกัด และไม่สมบูรณ์ ในบางกรณี , วัดสนามที่ไม่เหมาะสม อาจถูกพาตัวไป .
เป็นผลให้ป่าไม้ชีวมวลอาจจะมากกว่าหรือสิ่งที่ไม่จริงเพื่อแก้ปัญหาความไม่แน่นอนเหล่านี้จะต้องมีทั้งการปรับปรุงการปฏิบัติด้วยวิธีเขตข้อมูลปัจจุบันและเทคนิคใหม่สำหรับการวัดกระบวนการเข้าใจพลวัตของคาร์บอนของโลกป่าไม้