ประเพณีขึ้นธาตุเดือนเก้า งานบุญขึ้น

ประเพณีขึ้นธาตุเดือนเก้า

งานบุญขึ้นธาตุเดือนเก้า จัดขึ้นเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือนเก้า ชาวเหนือ ซึ่งตรงกับเดือนเจ็ดของภาคกลาง ประมาณเดือนมิถุนายน แต่บางปี อาจคาบเกี่ยวขึ้นมาถึงเดือนพฤษภาคม วัดพระบรมธาตุ อันเป็นสถานที่สืบสานประเพณีนี้มาแต่โบราณ ตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก

ก่อนถึงวันขึ้น 14 ค่ำ ของเดือนเก้า "ชาวบ้านศรัทธาวัด" ในอำเภอบ้าตาก และอำเภอใกล้เคียงจะเริ่มเตรียมงานกันไว้ล่วงหน้า ด้วยการจัดทำ "บะไฟ" หรือ บั้งไฟ โดยเตรียมตัดไม้ไผ่ลำยาวโต เผาถ่านผสมกับดินประสิว นำมาตอกดัลงในท่อสังกะสี หรือท่อเหล็กตามที่ทางวัดกำหนดความยาวให้ ตอกอัดให้แน่น ตกแต่งเป็นรูปต่าง ๆ ให้สวยงาม เพื่อนำไปจุดแข่งขันกันในวันงาน



วัดพระบรมธาตุ
ประเพณีขึ้นธาตุเดือนเก้า
ระหว่างนี้ พวกร่างทรงของเทพและวิญญารต่าง ๆ รวมทั้งชาวบ้านที่นับถือ จะเตรียมองค์ผ้าป่า เงินทอง ดอกไม้ธูปเทียน เครื่องบริขารไทยธรรมต่าง ๆ โดยจัดเป็นผ้าป่าสามัคคีเป็นกลุ่มตามเทพตามที่ตนนับถือ



เข้าวันขึ้น 14 ค่ำ เดือนเก้า ชาวบ้านกลุ่มศรัทธาเทพนับถือผี จะช่วยกันตกแต่่ง เงินผ้าป่าและปัจจัยไทยธรรมบริขารเครื่องผ้าป่าที่มีผู้ศรัทธาบริจาค ด้วยกระดาษสี และตุงไชย (ธงชัย) หลากสีสัน แล้วแห่กันไปเป็นหมู่คณะ เป็นกลุ่มเป็นขบวน ตามเจ้าใครผีใคร

ส่วนชาวบ้านกลุ่มศรัทธาวัดประจำหมู่บ้านต่าง ๆ จะตกแต่งต้นเงินผ้าป่า เช่นเดียวกับกลุ่มศรัทธาผี แต่กลุ่มนี้จะมีขบวนบั้งไฟที่จัดทำไว้ล่วงหน้าประกอบด้วย ตกแต่งบั้งไฟด้วยกระดาษสีสดใส ประดับด้วยไม้สวยงาม มีฆ้อง กลอง ฉิ่ง ฉาบ ประโคมแห่ไปตลอดทาง

ขบวนของชาวบ้านทั้งสองกลุ่มหลายสิบขบวน จะแห่แหนตรงไปยัง วัดพระบรมธาตุ และไปไหว้ศาลหลักเมืองและองค์ประปรางค์เจดีย์ยุทธหัตถี แล้วไปกราบร่างทรงของเจ้าพ่อขุนทะเล และเจ้าพ่อดงดำ สองเทพที่หอผี หน้าวัดพระบรมธาตุด้านทิศตะวันตก ซึ่งมีศาลาวางต้นเงินผ้าป่า และเครื่องไทยธรรมของชาวบ้านที่มาร่วมทอดผ้าป่าวางเรียงรายรวมอยู่ด้วย

อ่านต่อด้านบนขวา


เมื่อขบวนต่าง ๆ แห่มาพร้อมกันถึงลานปูน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานวัวปูนปั้น อันเป็นพาหนะ ของเจ้าพ่อขุนทะเลแล้ว ผู้รู้ผู้เป็นเจ้าพิธี จะกราบไหว้ผีเจ้าทาง แล้วทำพิธี "ขึ้นท้าวทั้งสี่" คือ บูชา อัญเชิญท้าวจตุโลกบาลเทพผู้ดูแลรักษาโลกทั้งสี่ทิศ สี่องค์ มารับเครื่องสังเวย บอกกล่าวขอความคุ้มครอง และขออนุญาตจัดงาน
จากนั้น เป็นพิธีทรงเจ้าเข้าผี ร่างทรงต่าง ๆ ซึ่งเทพ ประทับทรงแล้ว ที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "เทพตือมา" จำนวนประมาณ 20-30 คน ทั้งหญิง ชาย แต่งกายต่าง ๆ กันตามที่เทพหรือผีที่ประทับทรงมานั้น โปรดปราน จะพากันมาพบปะกันบริเวณหอผี บ้างก็ฟ้อนรำบวงสรวง บ้างก็รำไทย บ้างก็รำดาบ หรือร่ายมวย และบ้างก็ขึ้น ไปฟ้องรำอยู่บนหลังวัวเจ้าพ่อขุนทะเล องค์ไหนชอบสุรา ก็สังเวยด้วยสุรา ส่งภาษาเทพ สนทนากันอย่างสนุกสนาน วันอันเป็นมงคลนี้ถือเสมือนว่า เป็นวันขึ้นปีใหม่ แห่งเทพทั้งปวงด้วย

ตกบ่ายได้เวลาอันสมควร ขบวนทั้งหมดจะนำต้นเงิน ผ้าป่าและบั้งไฟ ไปแห่เวียนทักษิณาวัตรอบองค์พระธาตุ แล้วนำไปถวายพระสงฆ์ขออนุโมทนา แผ่ส่วนบุญ ส่วนกุศล อุทิศให้เทพเบื้องบน และมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย เวลากลางคืน มีมหรสพต่าง ๆ เช่น ลิเก ภาพยนตร์ สมโภชน์งาน

วันรุ่งขึ้น 15 ค่ำ เดือนเก้า เวลาประมาณ 8.00 น. ก็ถึงกำหนดการสำคัญอันเป็นจุดมุ่งหมายของงาน นั่นคือ "ขึ้นพระธาตุเดือนเก้า" ด้วยการแข่งขันกันจุดบั้งไฟ เสมือนหนึ่งจะให้บั้งไฟที่พุ่งไป นำเอาศรัทธาทั้งมวล ของพวกเขาขึ้นไปบูชาพระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์ พระผู้มีพระภาคเจ้า และปวงเทพยดาบนสรวงสวรรค์ ท่ามกลางกองเชียร์และการเชียร์ของกลุ่มศรัทธาวัดต่าง ๆ

เมื่อบั้งไฟทุกบั้งระเบิดทะยานผ่านฟ้าไปแล้ว เทพทุกเพท ผีทุกผี ก็คืนสู่วิถีชีวิตของคนธรรมดา แยกย้ายกันกลับบ้านของตน

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเพณีขึ้นธาตุเดือนเก้า

งานบุญขึ้นธาตุเดือนเก้าจัดขึ้นเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในวันขึ้น 14 ค่ำเดือนเก้าชาวเหนือซึ่งตรงกับเดือนเจ็ดของภาคกลางประมาณเดือนมิถุนายน อาจคาบเกี่ยวขึ้นมาถึงเดือนพฤษภาคมวัดพระบรมธาตุอันเป็นสถานที่สืบสานประเพณีนี้มาแต่โบราณตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านตากจังหวัดตาก

ก่อนถึงวันขึ้น 14 ค่ำของเดือนเก้า "ชาวบ้านศรัทธาวัด" ในอำเภอบ้าตากและอำเภอใกล้เคียงจะเริ่มเตรียมงานกันไว้ล่วงหน้าด้วยการจัดทำ "บะไฟ" หรือบั้งไฟโดยเตรียมตัดไม้ไผ่ลำยาวโตเผาถ่านผสมกับดินประสิว หรือท่อเหล็กตามที่ทางวัดกำหนดความยาวให้ตอกอัดให้แน่นตกแต่งเป็นรูปต่างๆ ให้สวยงามเพื่อนำไปจุดแข่งขันกันในวันงาน



วัดพระบรมธาตุ
ประเพณีขึ้นธาตุเดือนเก้า
ระหว่างนี้พวกร่างทรงของเทพและวิญญารต่างๆ รวมทั้งชาวบ้านที่นับถือจะเตรียมองค์ผ้าป่าเงินทองดอกไม้ธูปเทียนเครื่องบริขารไทยธรรมต่างๆ โดยจัดเป็นผ้าป่าสามัคคีเป็นกลุ่มตามเทพตามที่ตนนับถือ



เข้าวันขึ้น 14 ค่ำเดือนเก้าชาวบ้านกลุ่มศรัทธาเทพนับถือผีจะช่วยกันตกแต่่งเงินผ้าป่าและปัจจัยไทยธรรมบริขารเครื่องผ้าป่าที่มีผู้ศรัทธาบริจาคด้วยกระดาษสีและตุงไชย (ธงชัย) หลากสีสันแล้วแห่กันไปเป็นหมู่คณะ ตามเจ้าใครผีใคร

ส่วนชาวบ้านกลุ่มศรัทธาวัดประจำหมู่บ้านต่างๆ จะตกแต่งต้นเงินผ้าป่าเช่นเดียวกับกลุ่มศรัทธาผีแต่กลุ่มนี้จะมีขบวนบั้งไฟที่จัดทำไว้ล่วงหน้าประกอบด้วยตกแต่งบั้งไฟด้วยกระดาษสีสดใสประดับด้วยไม้สวยงาม กลองฉิ่งฉาบประโคมแห่ไปตลอดทาง

ขบวนของชาวบ้านทั้งสองกลุ่มหลายสิบขบวนจะแห่แหนตรงไปยังวัดพระบรมธาตุและไปไหว้ศาลหลักเมืองและองค์ประปรางค์เจดีย์ยุทธหัตถีแล้วไปกราบร่างทรงของเจ้าพ่อขุนทะเลและเจ้าพ่อดงดำสองเทพที่หอผี ซึ่งมีศาลาวางต้นเงินผ้าป่าและเครื่องไทยธรรมของชาวบ้านที่มาร่วมทอดผ้าป่าวางเรียงรายรวมอยู่ด้วย

อ่านต่อด้านบนขวา


เมื่อขบวนต่างๆ แห่มาพร้อมกันถึงลานปูนซึ่งเป็นที่ประดิษฐานวัวปูนปั้นอันเป็นพาหนะของเจ้าพ่อขุนทะเลแล้วผู้รู้ผู้เป็นเจ้าพิธีจะกราบไหว้ผีเจ้าทางแล้วทำพิธี "ขึ้นท้าวทั้งสี่" คือบูชา สี่องค์มารับเครื่องสังเวยบอกกล่าวขอความคุ้มครองและขออนุญาตจัดงาน
จากนั้นเป็นพิธีทรงเจ้าเข้าผีร่างทรงต่างๆ ซึ่งเทพประทับทรงแล้วที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "เทพตือมา" จำนวนประมาณ 20-30 คนทั้งหญิงชายแต่งกายต่างๆ กันตามที่เทพหรือผีที่ประทับทรงมานั้นโปรดปราน บ้างก็ฟ้อนรำบวงสรวงบ้างก็รำไทยบ้างก็รำดาบหรือร่ายมวยและบ้างก็ขึ้นไปฟ้องรำอยู่บนหลังวัวเจ้าพ่อขุนทะเลองค์ไหนชอบสุราก็สังเวยด้วยสุราส่งภาษาเทพสนทนากันอย่างสนุกสนานวันอันเป็นมงคลนี้ถือเสมือนว่า แห่งเทพทั้งปวงด้วย

ตกบ่ายได้เวลาอันสมควรขบวนทั้งหมดจะนำต้นเงินผ้าป่าและบั้งไฟไปแห่เวียนทักษิณาวัตรอบองค์พระธาตุแล้วนำไปถวายพระสงฆ์ขออนุโมทนาแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลอุทิศให้เทพเบื้องบนและมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยเวลากลางคืน ๆ เช่นลิเกภาพยนตร์สมโภชน์งาน

วันรุ่งขึ้น 15 ค่ำเดือนเก้าเวลาประมาณเวลา 8.00 น. ก็ถึงกำหนดการสำคัญอันเป็นจุดมุ่งหมายของงานนั่นคือ "ขึ้นพระธาตุเดือนเก้า" ด้วยการแข่งขันกันจุดบั้งไฟเสมือนหนึ่งจะให้บั้งไฟที่พุ่งไปนำเอาศรัทธาทั้งมวลของพวกเขาขึ้นไปบูชาพระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์ และปวงเทพยดาบนสรวงสวรรค์ท่ามกลางกองเชียร์และการเชียร์ของกลุ่มศรัทธาวัดต่างๆ

เมื่อบั้งไฟทุกบั้งระเบิดทะยานผ่านฟ้าไปแล้วเทพทุกเพทผีทุกผีก็คืนสู่วิถีชีวิตของคนธรรมดาแยกย้ายกันกลับบ้านของตน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในวันขึ้น 14 ค่ำเดือนเก้าชาวเหนือซึ่งตรงกับเดือนเจ็ดของภาคกลางประมาณเดือนมิถุนายน แต่บางปีอาจคาบเกี่ยวขึ้นมาถึงเดือนพฤษภาคมวัดพระบรมธาตุ ตั้งอยู่ที่อำเภอสามเงาจังหวัดตากก่อนถึงวันขึ้น 14 ค่ำของเดือนเก้า "ชาวบ้านศรัทธาวัด" ในอำเภอบ้าตาก ด้วยการจัดทำ "บะไฟ" หรือบั้งไฟโดยเตรียมตัดไม้ไผ่ลำยาวโตเผาถ่านผสมกับดินประสิวนำมาตอกดัลงในท่อสังกะสี ตอกอัดให้แน่นตกแต่งเป็นรูปต่าง ๆ ให้สวยงาม พวกร่างทรงของเทพและวิญญารต่าง ๆ รวมทั้งชาวบ้านที่นับถือจะเตรียมองค์ผ้าป่าเงินทองดอกไม้ธูปเทียนเครื่องบริขารไทยธรรมต่าง ๆ 14 ค่ำเดือนเก้าชาวบ้านกลุ่มศรัทธาเทพนับถือผีจะช่วยกันตกแต่่ง ด้วยกระดาษสีและตุงไชย (ธงชัย) หลากสีสันแล้วแห่กันไปเป็นหมู่คณะเป็นกลุ่มเป็นขบวน ๆ จะตกแต่งต้นเงินผ้าป่าเช่นเดียวกับกลุ่มศรัทธาผี ตกแต่งบั้งไฟด้วยกระดาษสีสดใสประดับด้วยไม้สวยงามมีฆ้องกลองฉิ่งฉาบ จะแห่แหนตรงไปยังวัดพระบรมธาตุ และเจ้าพ่อดงดำสองเทพที่หอผีหน้าวัดพระบรมธาตุด้านทิศตะวันตกซึ่งมีศาลาวางต้นเงินผ้าป่า ๆ แห่มาพร้อมกันถึงลานปูนซึ่งเป็นที่ประดิษฐานวัวปูนปั้นอันเป็นพาหนะของเจ้าพ่อขุนทะเลแล้วผู้รู้ผู้เป็นเจ้าพิธีจะกราบไหว้ผีเจ้าทางแล้ว "ขึ้นท้าวทั้งสี่" คือบูชาทำพิธี สี่องค์มารับเครื่องพบแรงงานบอกกล่าวขอความคุ้มครองและขออนุญาตจัดงานจากนั้นเป็นพิธีทรงเจ้าเข้าผีร่างทรงต่าง ๆ ซึ่งเทพประทับทรงแล้วที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "เทพตือมา" จำนวนประมาณ 20-30 คนทั้งหญิงชายแต่ง กายต่าง ๆ โปรดปรานจะพากันมาพบปะกันบริเวณหอผีบ้างก็ฟ้อนรำบวงสรวงบ้างก็รำไทยบ้างก็รำดาบหรือร่ายมวยและบ้างก็ขึ้น องค์ไหนชอบสุราก็สังเวยด้วยสุราส่งภาษาเทพสนทนากันอย่างสนุกสนานวันอันเป็นมงคลนี้ถือเสมือนว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ ขบวนทั้งหมดจะนำต้นเงินผ้าป่าและบั้งไฟ แล้วนำไปถวายพระสงฆ์ขออนุโมทนาแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลอุทิศให้เทพเบื้องบนและมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยเวลากลางคืนมีมหรสพต่าง ๆ เช่นลิเกภาพยนตร์สมโภชน์งานวันรุ่งขึ้น 15 ค่ำเดือนเก้าเวลาประมาณ 8.00 น นั่นคือ "ขึ้นพระธาตุเดือนเก้า" ด้วยการแข่งขันกันจุดบั้งไฟเสมือนหนึ่งจะให้บั้งไฟที่พุ่งไปนำเอาศรัทธาทั้งมวล พระผู้มีพระภาคเจ้าและปวงเทพยดาบนสรวงสวรรค์ เทพทุกเพทผีทุกผีก็คืนสู่วิถีชีวิตของคนธรรมดาแยกย้ายกันกลับบ้านของตน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประเพณีขึ้นธาตุเดือนเก้า

งานบุญขึ้นธาตุเดือนเก้าจัดขึ้นเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในวันขึ้น 14 ค่ำเดือนเก้าชาวเหนือซึ่งตรงกับเดือนเจ็ดของภาคกลางประมาณเดือนมิถุนายนอาจคาบเกี่ยวขึ้นมาถึงเดือนพฤษภาคมวัดพระบรมธาตุอันเป็นสถานที่สืบสานประเพณีนี้มาแต่โบราณตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านตากจังหวัดตาก

ก่อนถึงวันขึ้น 14 ค่ำของเดือนเก้า " ชาวบ้านศรัทธาวัด " ในอำเภอบ้าตากและอำเภอใกล้เคียงจะเริ่มเตรียมงานกันไว้ล่วงหน้าด้วยการจัดทำ " บะไฟ " ค็อคบั้งไฟโดยเตรียมตัดไม้ไผ่ลำยาวโตเผาถ่านผสมกับดินประสิวหรือท่อเหล็กตามที่ทางวัดกำหนดความยาวให้ตอกอัดให้แน่นตกแต่งเป็นรูปต่างจะให้สวยงามเพื่อนำไปจุดแข่งขันกันในวันงาน





วัดพระบรมธาตุประเพณีขึ้นธาตุเดือนเก้าระหว่างนี้พวกร่างทรงของเทพและวิญญารต่างจะรวมทั้งชาวบ้านที่นับถือจะเตรียมองค์ผ้าป่าเงินทองดอกไม้ธูปเทียนเครื่องบริขารไทยธรรมต่างจะโดยจัดเป็นผ้าป่าสามัคคีเป็นกลุ่มตามเทพตามที่ตนนับถือ



เข้าวันขึ้น 14 ค่ำเดือนเก้าชาวบ้านกลุ่มศรัทธาเทพนับถือผีจะช่วยกันตกแต่่งเงินผ้าป่าและปัจจัยไทยธรรมบริขารเครื่องผ้าป่าที่มีผู้ศรัทธาบริจาคด้วยกระดาษสีและตุงไชย ( ธงชัย ) หลากสีสันแล้วแห่กันไปเป็นหมู่คณะตามเจ้าใครผีใคร

ส่วนชาวบ้านกลุ่มศรัทธาวัดประจำหมู่บ้านต่างจะจะตกแต่งต้นเงินผ้าป่าเช่นเดียวกับกลุ่มศรัทธาผีแต่กลุ่มนี้จะมีขบวนบั้งไฟที่จัดทำไว้ล่วงหน้าประกอบด้วยตกแต่งบั้งไฟด้วยกระดาษสีสดใสประดับด้วยไม้สวยงามกลองฉิ่งฉาบประโคมแห่ไปตลอดทาง

ขบวนของชาวบ้านทั้งสองกลุ่มหลายสิบขบวนจะแห่แหนตรงไปยังวัดพระบรมธาตุและไปไหว้ศาลหลักเมืองและองค์ประปรางค์เจดีย์ยุทธหัตถีแล้วไปกราบร่างทรงของเจ้าพ่อขุนทะเลและเจ้าพ่อดงดำสองเทพที่หอผีซึ่งมีศาลาวางต้นเงินผ้าป่าและเครื่องไทยธรรมของชาวบ้านที่มาร่วมทอดผ้าป่าวางเรียงรายรวมอยู่ด้วย




อ่านต่อด้านบนขวาเมื่อขบวนต่างจะแห่มาพร้อมกันถึงลานปูนซึ่งเป็นที่ประดิษฐานวัวปูนปั้นอันเป็นพาหนะของเจ้าพ่อขุนทะเลแล้วผู้รู้ผู้เป็นเจ้าพิธีจะกราบไหว้ผีเจ้าทางแล้วทำพิธี " ขึ้นท้าวทั้งสี่ " ความบูชาสี่องค์มารับเครื่องสังเวยบอกกล่าวขอความคุ้มครองและขออนุญาตจัดงาน
จากนั้นเป็นพิธีทรงเจ้าเข้าผีร่างทรงต่างจะซึ่งเทพประทับทรงแล้วที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า " เทพตือมา " จำนวนประมาณ 20-30 คนทั้งหญิงชายแต่งกายต่างจะกันตามที่เทพหรือผีที่ประทับทรงมานั้นโปรดปรานบ้างก็ฟ้อนรำบวงสรวงบ้างก็รำไทยบ้างก็รำดาบหรือร่ายมวยและบ้างก็ขึ้นไปฟ้องรำอยู่บนหลังวัวเจ้าพ่อขุนทะเลองค์ไหนชอบสุราก็สังเวยด้วยสุราส่งภาษาเทพสนทนากันอย่างสนุกสนานวันอันเป็นมงคลนี้ถือเสมือนว่าแห่งเทพทั้งปวงด้วย

ตกบ่ายได้เวลาอันสมควรขบวนทั้งหมดจะนำต้นเงินผ้าป่าและบั้งไฟไปแห่เวียนทักษิณาวัตรอบองค์พระธาตุแล้วนำไปถวายพระสงฆ์ขออนุโมทนาแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลอุทิศให้เทพเบื้องบนและมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยเวลากลางคืนจะเช่นลิเกภาพยนตร์สมโภชน์งาน

15 วันรุ่งขึ้นค่ำเดือนเก้าเวลาประมาณ 8.00 น .ก็ถึงกำหนดการสำคัญอันเป็นจุดมุ่งหมายของงานนั่นคือ " ขึ้นพระธาตุเดือนเก้า " ด้วยการแข่งขันกันจุดบั้งไฟเสมือนหนึ่งจะให้บั้งไฟที่พุ่งไปนำเอาศรัทธาทั้งมวลของพวกเขาขึ้นไปบูชาพระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์จะและปวงเทพยดาบนสรวงสวรรค์ท่ามกลางกองเชียร์และการเชียร์ของกลุ่มศรัทธาวัดต่าง

เมื่อบั้งไฟทุกบั้งระเบิดทะยานผ่านฟ้าไปแล้วเทพทุกเพทผีทุกผีก็คืนสู่วิถีชีวิตของคนธรรมดาแยกย้ายกันกลับบ้านของตน