a b s t r a c tThis study aimed to

a b s t r a c t
This study aimed to evaluate the prevalence of musculoskeletal disorders and ergonomic risk levels, and
identify ergonomic factors related to low back pain in rubber tappers. A cross-sectional survey was
conducted in Chumporn Province, Southern Thailand. Subjects with a history of major trauma or certain
pre-existing back disorders were excluded. A questionnaire-based interview, pain self-report form, direct
observation of the workers, and a video-based analysis of working postures using the Rapid Upper Limb
Assessment (RULA) method were used. Over half (52.9%) of the participants had low back pain during the
previous 3 months, while the prevalence of pain in the legs, upper arms, neck, wrists, and lower arms
were 14.8%, 8.9%, 3.0%, 2.3%, and 2.1%, respectively. The average final RULA grand score of 5.25 corresponded
to an action level of 3, which indicated the need for prompt medical investigation and work
habit changes. From logistic regression analysis, the tapping levels and tapping postures including high
frequencies of twisting, bending, and extension of trunk were significantly associated with low back pain.
Other independent risk factors included a high frequency of weight lifting, high perceived fatigue from
work, and lower levels of social support, education and income. Rubber tapping is regarded as an
occupational risk for musculoskeletal disorders (MSDs). An abnormal ergonomic factor in rubber tapping
increases the risk of low back pain among rubber tappers. Preventive measures should be developed to
minimize this problem in the future.
Relevance to industry: The results of this study suggested the need for the development and implementation
of a program using ergonomic concepts to reduce low back pain for rubber tappers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบบ b s t r c tการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความชุกของโรค musculoskeletal และระดับความเสี่ยงที่อุปกรณ์ และระบุปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการปวดหลังใน tappers ยางอุปกรณ์ มีการสำรวจเหลวดำเนินการในจังหวัดชุมพร ประเทศไทย เรื่อง มีประวัติบาดเจ็บใหญ่หรือบางโรคที่มีอยู่ก่อนหลังถูกแยกออก สัมภาษณ์การใช้แบบสอบถาม ความเจ็บปวดด้วยตนเองแบบฟอร์มรายงาน โดยตรงการสังเกตของผู้ปฏิบัติงาน และการวิเคราะห์ตามวิดีโอของท่าทางการทำงานโดยใช้รยางค์บนอย่างรวดเร็วมีใช้วิธีการประเมิน (RULA) กว่าครึ่ง (52.9%) ของผู้เข้าร่วมมีปวดในระหว่างการ3 เดือน ในขณะที่ความชุกของอาการปวดขา แขน คอ ข้อ และแขนได้ 14.8%, 8.9 นอก% 3.0%, 2.3% และ 2.1% ตามลำดับ สุดท้าย RULA แกรนด์คะแนนเฉลี่ย 5.25 correspondedระดับการดำเนินการ 3 ที่ระบุต้องการให้ตรวจสอบทางการแพทย์และการทำงานเปลี่ยนแปลงนิสัย จากการวิเคราะห์ถดถอยโลจิสติก แตะระดับ และท่าแตะรวมสูงความถี่ของบิด ดัด และส่วนขยายของลำต้นได้อย่างมีนัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับปวดปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ อิสระรวมความถี่สูงของการยกน้ำหนัก ล้ารับรู้จากทำงาน และลดระดับของการสนับสนุนทางสังคม การศึกษา และรายได้ แตะยางถือเป็นการความเสี่ยงที่อาชีวสำหรับโรค musculoskeletal (MSDs) ปัจจัยอุปกรณ์ผิดปกติในการนั่งเพิ่มความเสี่ยงของการปวดระหว่างยาง tappers ควรมีพัฒนามาตรการป้องกันการลดปัญหานี้ในอนาคตเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม: ผลของการศึกษานี้แนะนำสำหรับการพัฒนาและการดำเนินโปรแกรมที่ใช้แนวคิดของอุปกรณ์เพื่อลดปวดสำหรับยาง tappers

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นามธรรม
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความชุกของความผิดปกติของกล้ามเนื้อและระดับความเสี่ยงที่เหมาะกับการทำงานและ
ระบุปัจจัยเหมาะกับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดหลังในยางกรีด การสำรวจภาคตัดขวางถูก
ดำเนินการในจังหวัดชุมพร, ภาคใต้ของประเทศไทย วิชาที่มีประวัติความเป็นมาของการบาดเจ็บรายใหญ่หรือบางอย่าง
ที่มีอยู่ก่อนกลับผิดปกติได้รับการยกเว้น สัมภาษณ์แบบสอบถามตามความเจ็บปวดแบบรายงานตนเองโดยตรง
สังเกตของคนงานและการวิเคราะห์วิดีโอที่ใช้ในการทำงานโดยใช้ท่าอย่างรวดเร็วบนกิ่ง
ประเมิน (RULA) วิธีการถูกนำมาใช้ กว่าครึ่งหนึ่ง (52.9%) ของผู้เข้าร่วมมีอาการปวดหลังส่วนล่างในช่วง
ก่อนหน้านี้ 3 เดือนในขณะที่ความชุกของอาการปวดขา, แขน, คอ, ข้อมือและแขนที่ลดลง
เป็น 14.8%, 8.9%, 3.0%, 2.3% และ 2.1% ตามลำดับ เฉลี่ยสุดท้าย RULA คะแนนแกรนด์ 5.25 สอดคล้อง
กับระดับการกระทำของ 3 ซึ่งชี้ให้เห็นความจำเป็นสำหรับการตรวจสอบทางการแพทย์ที่รวดเร็วและการทำงานของ
การเปลี่ยนแปลงนิสัย จากการวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติกระดับแตะและแตะท่ารวมทั้งสูง
ความถี่ของการบิดดัดและนามสกุลของลำต้นมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญที่มีอาการปวดหลังส่วนล่าง.
ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่เป็นอิสระรวมความถี่สูงของการยกน้ำหนัก, ความเมื่อยล้าจากการรับรู้สูง
การทำงานและ ระดับล่างของการสนับสนุนทางสังคมการศึกษาและรายได้ การกรีดยางได้รับการยกย่องในฐานะที่เป็น
ความเสี่ยงในการประกอบอาชีพสำหรับความผิดปกติกล้ามเนื้อ (MSDS) ปัจจัยที่เหมาะกับการทำงานที่ผิดปกติในการกรีดยาง
เพิ่มความเสี่ยงของอาการปวดหลังในหมู่กรีดยาง มาตรการป้องกันควรได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อ
ลดปัญหานี้ในอนาคต.
ความสัมพันธ์กับอุตสาหกรรม: ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นความจำเป็นในการพัฒนาและการดำเนิน
งานของโปรแกรมโดยใช้แนวคิดที่เหมาะกับการทำงานเพื่อลดอาการปวดหลังต่ำสำหรับการกรีดยาง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

B S T R A C T
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความชุกของความผิดปกติของกล้ามเนื้อและระดับความเสี่ยงตามหลักสรีรศาสตร์ และศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ
เหมาะกับอาการปวดหลังใน tappers ยาง การสำรวจแบบตัดขวางเป็น
ดำเนินการในจังหวัดชุมพร ภาคใต้ของประเทศไทย ผู้ที่มีประวัติของการบาดเจ็บที่สำคัญหรือบาง
ความผิดปกติกลับที่มีอยู่แล้วถูกแยกออก แบบสอบถามการสัมภาษณ์ตามแบบฟอร์มรายงานความเจ็บปวด การสังเกต
ของคนงาน และวิเคราะห์จากวิดีโอของท่าทำงานโดยใช้การประเมินอย่างรวดเร็วขา
ด้านบน ( า ) วิธีใช้ กว่าครึ่ง ( 52.9 % ) ของผู้เข้าร่วมมีอาการปวดหลังในระหว่าง
ก่อนหน้านี้ 3 เดือน ขณะที่ความชุกของอาการปวดขา ต้นแขน คอ ข้อมือ และแขนลง
เป็น 14.8% , 8.9 ร้อยละ 3.0 ลดลง 2.3% และ 2.1% ตามลำดับค่าเฉลี่ยของคะแนนอาการสุดท้ายแกรนด์ 5.25%
ให้การกระทำที่ระดับ 3 ซึ่งพบต้องสืบสวนทางการแพทย์พร้อมท์และการเปลี่ยนแปลงนิสัยทำงาน

จากการวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติก , แตะระดับและแตะท่ารวมทั้งความถี่สูง
ของบิด , งอและนามสกุลของลำตัวมีความสัมพันธ์กับอาการปวดหลัง
ปัจจัยเสี่ยงอิสระอื่น ๆรวมถึงความถี่สูงของการยกน้ำหนัก สูง การรับรู้ความเหนื่อยล้าจาก
งาน และระดับของการสนับสนุนทางสังคม ระดับการศึกษา และรายได้ การกรีดยางพาราถือเป็น
ความเสี่ยงอาชีพสำหรับเฟลิซิตี ฮัฟฟ์แมน ( MSDS ) เป็นปัจจัยการผิดปกติในการกรีดยาง
เพิ่มความเสี่ยงของอาการปวดหลังส่วนล่างของ tappers ยางการป้องกัน ควรพัฒนา

ลดปัญหานี้ในอนาคต .
ความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม : ผลการศึกษานี้มีข้อเสนอแนะที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาและการใช้งานของโปรแกรมโดยใช้แนวคิดตามหลักสรีรศาสตร์
เพื่อลดอาการปวดหลังสำหรับผู้ประกอบอาชีพกรีดยาง