Stephen Hawking เกิดวันที่ 8 มกราคม

Stephen Hawking เกิดวันที่ 8 มกราคม 1942 ที่เมือง Oxford ประเทศอังกฤษ ในปีนี้ (2015) เขามีอายุ 73 ปีแล้ว
ในช่วงต้นของชีวิต Hawking สนใจในเรื่องวิทยาศาสตร์และดวงดาว จนกระทั่งเมื่ออายุ 21 ปี ขณะที่กำลังศึกษาจักรวาลวิทยา
ที่มหาวิทยาลัย Cambridge มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น เขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค Amyotrophic Lateral Sclerosis หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
และถึงแม้เขาจะประสบกับโรคที่แสนทรมาน เขาก็ยังได้สร้างสรรค์ผลงานในด้านฟิสิกส์และจักรวาลวิทยาออกมาให้ชาวโลกชื่นชมมากมาย
รวมไปถึงหนังสือวิทยาศาสตร์ของเขาที่ทำให้โลกเข้าใจในวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น
ส่วนหนึ่งของชีวิตของ Hawking ถูกถ่ายทอดลงในภาพยนตร์ปี 2014 เรื่อง The Theory of Everything (ฉายในเมืองไทยปี 2015)

พื้นหลังชีวิต
เขาเป็นลูกคนโตของ Frank และ Isobel Hawking โดยเกิดในปีครบรอบ 300 ปีของการจากไปของ กาลิเลโอ นักฟิสิกส์เลื่องชื่อ
เขาเกิดในครอบครัวของนักคิด แม่ของเขาเป็นชาว Scotland โดยสามารถเข้าเรียนใน Oxford ในช่วงปี 1930
(ซึ่งในขณะนั้นมีผู้หญิงเพียงไม่กี่คนที่ได้เข้าเรียน) ส่วนพ่อของเขาซึ่งจบ Oxford เช่นกันก็เป็นนักวิจัยทางการแพทย์ที่ได้รับการยกย่องว่า
เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคในเขตร้อนชื้น


Hawking (ซ้าย) และน้องสาวของเขา Mary (ขวา)

Hawking เกิดมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยดีนัก เป็นช่วงที่พ่อแม่ของเขากำลังประสบปัญหาด้านการเงิน สถานการณ์ทางการเมืองค่อนข้างตึงเครียด ในตอนนั้นอังกฤษกำลังเผชิญกับสงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษถูกโจมตีจากระเบิดของเยอรมัน ทำให้พ่อแม่ของเขาย้ายจากเมือง London ไปยังเมือง Oxford ซึ่งปลอดภัยกว่า และที่นั่นทั้งคู่ได้ให้กำเนิด Hawking รวมทั้งน้องของเขาอีก 2 คนคือ Mary และ Philippa และพ่อแม่ของเขายังได้รับเลี้ยงบุตรเพิ่มอีก 1 คนในปี 1956 นั่นคือ Edward Hawking

จากคำบอกเล่าของครอบครัวที่สนิทกับครอบครัว Hawking ได้บอกว่าครอบครัว Hawking เป็นครอบครัวที่แปลก พวกเขาจะกินมื้อเย็นกันอย่างเงียบๆ แต่ละคนในครอบครัวจะอ่านหนังสือไปด้วยขณะกินข้าว รถของครอบครัวเป็นรถ taxi ของ London ที่ปรับแต่งมา ส่วนบ้านของเขาซึ่งอยู่ใน St. Albans เป็นบ้าน 3 ชั้นเก่าๆ ซึ่งมีผึ้งอยู่ในชั้นใต้ดินและมีห้องกระจกเล็กๆที่มีดอกไม้ไฟอยู่มากมาย
ในปี 1950, พ่อของ Hawking ทำงานอยู่ที่ภาควิชาปรสิตวิทยาในสถาบันวิจัยทางการแพทย์แห่งชาติและใช้ชีวิตช่วงฤดูหนาวในแอฟริกาเพื่อทำงานวิจัย เขาอยากให้ Hawking เข้าเรียนแพทย์ แต่เนื่องจาก Hawking แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาสนใจในวิทยาศาสตร์และอวกาศมาตั้งแต่เด็ก ดังที่แม่ของเขาซึ่งอยู่ด้วยกันมาตลอดเล่าว่า เธอมักจะพา Hawking ไปดูดาวในช่วงเย็นที่สวนหลังบ้าน “Stephen มักจะรู้สึกอัศจรรย์ใจเวลาได้ดูสิ่งเหล่านี้ ดวงดาวเป็นสิ่งที่เขาสนใจเป็นอย่างมาก”



ในช่วงเข้าโรงเรียนแรกๆนั้น ถึงแม้จะรู้กันดีว่า Hawking เป็นคนที่ฉลาด แต่เขาไม่ได้เป็นนักเรียนที่ยอดเยี่ยมเท่าไร ในปีแรกที่เขาเรียนที่ St. Albans เขาสอบได้ลำดับที่ 3 นับจากท้าย อย่างไรก็ตาม Hawking ให้ความสนใจกับสิ่งต่างๆนอกเหนือจากในห้องเรียน เขารักเกมกระดาน เขาและเพื่อนสนิทสร้างเกมเล่นเองในบางครั้ง ในช่วงวัยรุ่น Hawking และเพื่อนของเขาได้ร่วมกันสร้างคอมพิวเตอร์จากชิ้นส่วนเหลือใช้เพื่อแก้ปัญหาสมการทางคณิตศาสตร์พื้นฐาน

Hawking ยังมีงานยามว่างอีกมากมาย เขามักจะปีนเขากับน้องสาวของเขา Mary รวมถึงเมื่อครั้งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย Oxford เมื่ออายุ 17 ปี เขาก็ยังคงทำตัว active อยู่เสมอ เขารักการเต้นและยังสนใจในการพายเรืออีกด้วย ทั้งนี้ Hawking ให้ความสนใจที่จะเรียนคณิตศาสตร์ แต่เนื่องจาก Oxford ไม่ได้เปิดเฉพาะทางในด้านนี้ เขาจึงหันไปเรียนด้านฟิสิกส์ โดยเฉพาะในเรื่องของจักรวาลวิทยา
โดยส่วนตัวแล้ว Hawking ไม่ได้ใช้เวลามากไปกับการศึกษาเท่าไร ภายหลังเขาคำนวณว่าเขาใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงต่อวันในการตั้งใจเรียนที่โรงเรียน และเขาไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องเรียนมากกว่านี้ โดยในปี 1962 เขาจบการศึกษาด้วยเกียรตินิยมในสาขา natural science และได้เข้าศึกษาต่อที่ Cambridge University เพื่อศึกษาจักรวาลวิทยาในระดับปริญญาเอก



เผชิญกับโรค ALS
Hawking เริ่มสังเกตถึงความผิดปกติเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายของเขาในขณะที่เรียนอยู่ที่ Oxford, เขาเริ่มสะดุดล้มและมีอาการพูดไม่ค่อยชัด แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ปกติแล้ว Hawking จะไม่แสดงอาการให้ใครเห็น จนกระทั่งพ่อของเขาทราบจึงพาไปพบแพทย์ และ 2 สัปดาห์ถัดมา เขาจึงต้องใช้ชีวิตอยู่ที่คลินิกแพทย์เพื่อรับการตรวจอย่างละเอียด

“เขาเอาตัวอย่างกล้ามเนื้อจากแขนของผมไป ต่อ electrode เข้ากับตัวของผม และฉีดสารเหลวทึบรังสีเข้าไปในกระดูกสันหลังของผม แล้วก็ x-ray ดูการเคลื่อนของสารในขณะที่มีการปรับเตียงของผม” Hawking กล่าว “หลังจากนั้น เขาไม่บอกว่าผมเป็นอะไร บอกแต่เพียงว่ามันไม่ใช่โรค multiple sclerosis และมันเป็นกรณีที่พบได้ไม่บ่อยนัก”

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วแพทย์ก็บอกครอบครัวของ Hawking ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของเขา นั่นคือ Hawking อยู่ในช่วงระยะเริ่มต้นของโรค Amyotrophic Lateral Sclerosis (กล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดหนึ่ง) ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆก็คือ ภาวะที่เส้นประสาทส่วนที่ทำการควบคุมกล้ามเนื้อไม่สามารถทำงานได้และแพทย์บอกว่าเขามีเวลาอีกแค่ 2 ปีครึ่งเท่านั้นในการมีชีวิตอยู่

แน่นอนว่ามันเป็นข่าวร้ายมากๆของ Hawking และครอบครัว อย่างไรก็ตามก็มีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้เขาไม่รู้สึกหมดหวัง เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อ Hawking รักษาตัวในโรงพยาบาล โดยเขาอยู่ในห้องเดียวกับเด็กผู้ชายที่ป่วยเป็นลูคีเมีย ซึ่ง Hawking เห็นว่า เมื่อเทียบกับเด็กคนนั้นแล้ว สถานการณ์ของเขายังดีกว่าเยอะ รวมถึงหลังจากนั้นไม่นานที่เขาออกจากโรงพยาบาล เขาเคยฝันว่าเขากำลังจะถูกประหารชีวิต และเมื่อตื่นขึ้นมาเขาก็คิดได้ว่ายังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาจะต้องทำภายใต้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่


แต่สิ่งที่เป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาก็คงหนีไม่พ้นการที่เขามีความรัก เรื่องเกิดขึ้นในงานปาร์ตี้ปีใหม่ในปี 1963 ไม่นานนักหลังจากที่เขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค ALS , Hawking พบกับนักศึกษาที่เรียนด้านภาษาเธอมีนามว่า Jane Wilde ซึ่งทั้งคู่แต่งงานกันในปี 1965
ในอีกมุมหนึ่ง การที่ Hawking เป็นโรคดังกล่าวก็มีส่วนช่วยให้เขากลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงอย่างเช่นทุกวันนี้ ก่อนที่เขาจะถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค เขาค่อนข้างเบื่อกับชีวิตและไม่ได้ตั้งใจศึกษาเท่าที่ควร จนกระทั่งเมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เขาทรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฮอว์คิงเกิดวันที่ 8 มกราคมปี 1942 ที่เมืองอ๊อกประเทศอังกฤษในปีนี้ (2015) เขามีอายุ 73 ปีแล้ว Stephen ฮอว์คิงสนใจในเรื่องวิทยาศาสตร์และดวงดาวจนกระทั่งเมื่ออายุ 21 ปีขณะที่กำลังศึกษาจักรวาลวิทยาในช่วงต้นของชีวิตที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นเขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค Amyotrophic ด้านข้างเส้นโลหิตตีบหรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงและถึงแม้เขาจะประสบกับโรคที่แสนทรมานเขาก็ยังได้สร้างสรรค์ผลงานในด้านฟิสิกส์และจักรวาลวิทยาออกมาให้ชาวโลกชื่นชมมากมายรวมไปถึงหนังสือวิทยาศาสตร์ของเขาที่ทำให้โลกเข้าใจในวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น ส่วนหนึ่งของชีวิตของฮอว์คิงถูกถ่ายทอดลงในภาพยนตร์ปี 2014 เรื่องทฤษฎีทุกอย่าง (ฉายในเมืองไทยปี 2015)พื้นหลังชีวิตเขาเป็นลูกคนโตของแฟรงค์และ Isobel ฮอว์คิงโดยเกิดในปีครบรอบ 300 ปีของการจากไปของกาลิเลโอนักฟิสิกส์เลื่องชื่อเขาเกิดในครอบครัวของนักคิดแม่ของเขาเป็นชาวสกอตแลนด์โดยสามารถเข้าเรียนในอ๊อกในช่วงปี 1930 อ๊อกซฟอร์ด (ซึ่งในขณะนั้นมีผู้หญิงเพียงไม่กี่คนที่ได้เข้าเรียน) ส่วนพ่อของเขาซึ่งจบเช่นกันก็เป็นนักวิจัยทางการแพทย์ที่ได้รับการยกย่องว่าเชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคในเขตร้อนชื้นฮอว์คิงและน้องสาวของเขา (ซ้าย) แมรี (ขวา)ฮอว์คิงเกิดมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยดีนักเป็นช่วงที่พ่อแม่ของเขากำลังประสบปัญหาด้านการเงินสถานการณ์ทางการเมืองค่อนข้างตึงเครียดในตอนนั้นอังกฤษกำลังเผชิญกับสงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษถูกโจมตีจากระเบิดของเยอรมันทำให้พ่อแม่ของเขาย้ายจากเมืองลอนดอนไปยังเมืองอ๊อกซึ่งปลอดภัยกว่าและที่นั่นทั้งคู่ได้ให้กำเนิดฮอว์คิงรวมทั้งน้องของเขาอีก 2 คนคือแมรี่และฟิลิปปาแห่งและพ่อแม่ของเขายังได้รับเลี้ยงบุตรเพิ่มอีก 1 คนในปีปี 1956 นั่นคือฮอว์คิงเอ็ดเวิร์ดจากคำบอกเล่าของครอบครัวที่สนิทกับครอบครัวคิงได้บอกว่าครอบครัวคิงเป็นครอบครัวที่แปลกพวกเขาจะกินมื้อเย็นกันอย่างเงียบ ๆ แต่ละคนในครอบครัวจะอ่านหนังสือไปด้วยขณะกินข้าวรถของครอบครัวเป็นรถแท็กซี่นั้น ๆ ลอนดอนที่ปรับแต่งมาส่วนบ้านของเขาซึ่งอยู่ในเซนต์อัลบันเป็นบ้าน 3 ชั้นเก่า ๆ ซึ่งมีผึ้งอยู่ในชั้นใต้ดินและมีห้องกระจกเล็กๆที่มีดอกไม้ไฟอยู่มากมายในปี 1950 พ่อของฮอว์คิง "Stephen มักจะรู้สึกอัศจรรย์ใจเวลาได้ดูสิ่งเหล่านี้ดวงดาวเป็นสิ่งที่เขาสนใจเป็นอย่างมาก" ทำงานอยู่ที่ภาควิชาปรสิตวิทยาในสถาบันวิจัยทางการแพทย์แห่งชาติและใช้ชีวิตช่วงฤดูหนาวในแอฟริกาเพื่อทำงานวิจัยเขาอยากให้ฮอว์คิงเข้าเรียนแพทย์แต่เนื่องจากฮอว์คิงแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาสนใจในวิทยาศาสตร์และอวกาศมาตั้งแต่เด็กดังที่แม่ของเขาซึ่งอยู่ด้วยกันมาตลอดเล่าว่าเธอมักจะพาฮอว์คิงไปดูดาวในช่วงเย็นที่สวนหลังบ้านในช่วงเข้าโรงเรียนแรกๆนั้นถึงแม้จะรู้กันดีว่าฮอว์คิงเป็นคนที่ฉลาดแต่เขาไม่ได้เป็นนักเรียนที่ยอดเยี่ยมเท่าไรในปีแรกที่เขาเรียนที่เซนต์อัลบันเขาสอบได้ลำดับที่ 3 นับจากท้ายอย่างไรก็ตามฮอว์คิงให้ความสนใจกับสิ่งต่างๆนอกเหนือจากในห้องเรียนเขารักเกมกระดานเขาและเพื่อนสนิทสร้างเกมเล่นเองในบางครั้งในช่วงวัยรุ่นฮอว์คิงและเพื่อนของเขาได้ร่วมกันสร้างคอมพิวเตอร์จากชิ้นส่วนเหลือใช้เพื่อแก้ปัญหาสมการทางคณิตศาสตร์พื้นฐานคิงยังมีงานยามว่างอีกมากมายเขามักจะปีนเขากับน้องสาวของเขามารีย์รวมถึงเมื่อครั้งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอ๊อกเมื่ออายุ 17 ปีเขาก็ยังคงทำตัวอยู่เสมองานเขารักการเต้นและยังสนใจในการพายเรืออีกด้วยทั้งนี้คิงให้ความสนใจที่จะเรียนคณิตศาสตร์แต่เนื่องจากออกซ์ฟอร์ดไม่ได้เปิดเฉพาะทางในด้านนี้เขาจึงหันไปเรียนด้านฟิสิกส์โดยเฉพาะในเรื่องของจักรวาลวิทยาฮอว์คิงไม่ได้ใช้เวลามากไปกับการศึกษาเท่าไรภายหลังเขาคำนวณว่าเขาใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงต่อวันในการตั้งใจเรียนที่โรงเรียนและเขาไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องเรียนมากกว่านี้โดยในปี 1962 เขาจบการศึกษาด้วยเกียรตินิยมในสาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์เพื่อศึกษาจักรวาลวิทยาในระดับปริญญาเอกโดยส่วนตัวแล้วยังเผชิญกับโรคฮอว์คิงเริ่มสังเกตถึงความผิดปกติเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายของเขาในขณะที่เรียนอยู่ที่ออกซ์ฟอร์ด เขาเริ่มสะดุดล้มและมีอาการพูดไม่ค่อยชัดแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรปกติแล้วฮอว์คิงจะไม่แสดงอาการให้ใครเห็นจนกระทั่งพ่อของเขาทราบจึงพาไปพบแพทย์และ 2 สัปดาห์ถัดมาเขาจึงต้องใช้ชีวิตอยู่ที่คลินิกแพทย์เพื่อรับการตรวจอย่างละเอียด"เขาเอาตัวอย่างกล้ามเนื้อจากแขนของผมไปต่ออิเล็กโทรดเข้ากับตัวของผมและฉีดสารเหลวทึบรังสีเข้าไปในกระดูกสันหลังของผมแล้วก็เอ็กซ์เรย์ดูการเคลื่อนของสารในขณะที่มีการปรับเตียงของผม" คิงกล่าว "หลังจากนั้นเขาไม่บอกว่าผมเป็นอะไรบอกแต่เพียงว่ามันไม่ใช่โรคหลายเส้นโลหิตตีบและมันเป็นกรณีที่พบได้ไม่บ่อยนัก"อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วแพทย์ก็บอกครอบครัวของฮอว์คิงว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของเขานั่นคือฮอว์คิงอยู่ในช่วงระยะเริ่มต้นของโรค Amyotrophic ด้านข้างเส้นโลหิตตีบ (กล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดหนึ่ง) ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆก็คือภาวะที่เส้นประสาทส่วนที่ทำการควบคุมกล้ามเนื้อไม่สามารถทำงานได้และแพทย์บอกว่าเขามีเวลาอีกแค่ 2 ปีครึ่งเท่านั้นในการมีชีวิตอยู่แน่นอนว่ามันเป็นข่าวร้ายมากๆของ Hawking และครอบครัว อย่างไรก็ตามก็มีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้เขาไม่รู้สึกหมดหวัง เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อ Hawking รักษาตัวในโรงพยาบาล โดยเขาอยู่ในห้องเดียวกับเด็กผู้ชายที่ป่วยเป็นลูคีเมีย ซึ่ง Hawking เห็นว่า เมื่อเทียบกับเด็กคนนั้นแล้ว สถานการณ์ของเขายังดีกว่าเยอะ รวมถึงหลังจากนั้นไม่นานที่เขาออกจากโรงพยาบาล เขาเคยฝันว่าเขากำลังจะถูกประหารชีวิต และเมื่อตื่นขึ้นมาเขาก็คิดได้ว่ายังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาจะต้องทำภายใต้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่แต่สิ่งที่เป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาก็คงหนีไม่พ้นการที่เขามีความรัก เรื่องเกิดขึ้นในงานปาร์ตี้ปีใหม่ในปี 1963 ไม่นานนักหลังจากที่เขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค ALS , Hawking พบกับนักศึกษาที่เรียนด้านภาษาเธอมีนามว่า Jane Wilde ซึ่งทั้งคู่แต่งงานกันในปี 1965ในอีกมุมหนึ่ง การที่ Hawking เป็นโรคดังกล่าวก็มีส่วนช่วยให้เขากลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงอย่างเช่นทุกวันนี้ ก่อนที่เขาจะถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค เขาค่อนข้างเบื่อกับชีวิตและไม่ได้ตั้งใจศึกษาเท่าที่ควร จนกระทั่งเมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เขาทรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สตีเฟ่นฮอว์คิงเกิดวันที่ 8 มกราคม 1942 ที่เมืองฟอร์ดประเทศอังกฤษในปีนี้ (2015) เขามีอายุ 73 ปีแล้ว
ในช่วงต้นของชีวิตฮอว์คิงสนใจในเรื่องวิทยาศาสตร์และดวงดาวจนกระทั่งเมื่ออายุ 21 ปี
เคมบริดจ์มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นเขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคเส้นโลหิตตีบ Amyotrophic ข้าง ฮอว์คิงถูกถ่ายทอดลงในภาพยนตร์ปี 2014 เรื่องทฤษฎีทุกอย่าง (ฉายในเมืองไทยปี 2015) พื้นหลังชีวิตเขาเป็นลูกคนโตของแฟรงก์และ Isobel ฮอว์คิงโดยเกิดในปีครบรอบ 300 ปีของการจากไปของกาลิเลโอ แม่ของเขาเป็นชาวสกอตแลนด์โดยสามารถเข้าเรียนในฟอร์ดในช่วงปี ส่วนพ่อของเขาซึ่งจบฟอร์ด (ซ้าย) และน้องสาวของเขาแมรี่ (ขวา) ฮอว์คิงเกิดมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยดีนัก 2 อังกฤษถูกโจมตีจากระเบิดของเยอรมันทำให้พ่อแม่ของเขาย้ายจากเมืองลอนดอนไปยังเมืองฟอร์ดซึ่งปลอดภัยกว่าและที่นั่นทั้งคู่ได้ให้กำเนิดฮอว์คิงรวมทั้งน้องของเขาอีก 2 คนคือแมรี่และ Philippa 1 คนในปี 1956 นั่นคือเอ็ดเวิร์ด ฮอว์คิงได้บอกว่าครอบครัวฮอว์คิงเป็นครอบครัวที่แปลกพวกเขาจะกินมื้อเย็นกันอย่างเงียบ ๆ รถของครอบครัวเป็นรถแท็กซี่ของกรุงลอนดอนที่ปรับแต่งมาส่วนบ้านของเขาซึ่งอยู่ในเซนต์อัลบันส์เป็นบ้าน 3 ชั้นเก่า ๆ ปี 1950 พ่อของฮอว์คิง เขาอยากให้ฮอว์คิงเข้าเรียนแพทย์ แต่เนื่องจากฮอว์คิง เธอมักจะพาฮอว์คิงไปดูดาวในช่วงเย็นที่สวนหลังบ้าน "สตีเฟ่น ถึงแม้จะรู้กันดีว่าฮอว์คิงเป็นคนที่ฉลาด ในปีแรกที่เขาเรียนที่เซนต์อัลบันส์เขาสอบได้ลำดับที่ 3 นับจากท้ายอย่างไรก็ตามฮอว์คิง เขารักเกมกระดาน ในช่วงวัยรุ่นฮอว์คิง ยังมีงานยามว่างอีกมากมายเขามักจะปีนเขากับน้องสาวของเขาแมรี่ ฟอร์ดเมื่ออายุ 17 ปีเขาก็ยังคงทำตัวที่ใช้งานอยู่เสมอ ทั้งนี้ฮอว์คิงให้ความสนใจที่จะเรียนคณิตศาสตร์ แต่เนื่องจากฟอร์ดไม่ได้เปิดเฉพาะทางในด้านนี้เขาจึงหันไปเรียนด้านฟิสิกส์ ฮอว์คิง 1 โดยในปี 1962 วิทยาศาสตร์ธรรมชาติและได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ALS ฮอว์คิง ฟอร์ด แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรปกติแล้วฮอว์คิงจะไม่แสดงอาการให้ใครเห็น และ 2 สัปดาห์ถัดมา อิเล็กโทรดต่อเข้ากับตัวของผม แล้วก็เอ็กซ์เรย์ ฮอว์คิงกล่าว "หลังจากนั้นเขาไม่บอกว่าผมเป็นอะไรบอก แต่เพียงว่ามันไม่ใช่โรคเส้นโลหิตตีบ ฮอว์คิงว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของเขานั่นคือฮอว์คิงอยู่ในช่วงระยะเริ่มต้นของโรค Amyotrophic Lateral Sclerosis (กล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดหนึ่ง) ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆก็คือ 2 ฮอว์คิงและครอบครัว เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อฮอว์คิงรักษาตัวในโรงพยาบาล ฮอว์คิงซึ่งเห็นว่าเมื่อเทียบกับเด็กคนนั้นแล้วสถานการณ์ของเขายังดีกว่าเยอะ 1963 ALS, ฮอว์คิง เจนไวลด์ซึ่งทั้งคู่แต่งงานกันในปี 1965 ในอีกมุมหนึ่งการที่ฮอว์คิง ก่อนที่เขาจะถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค เขาทรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สตีเฟน ฮอว์คิงเกิดวันที่
8 มกราคม 1942 ที่เมือง Oxford ประเทศอังกฤษในปีนี้ ( 2015 ) เขามีอายุ 73 ปีแล้ว
ในช่วงต้นของชีวิตเร่ขายสนใจในเรื่องวิทยาศาสตร์และดวงดาวจนกระทั่งเมื่ออายุ 21 ขณะที่กำลังศึกษาจักรวาลวิทยา
.ที่มหาวิทยาลัยมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นเคมบริดจ์เขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคโรคเอแอลเอสหรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
และถึงแม้เขาจะประสบกับโรคที่แสนทรมานเขาก็ยังได้สร้างสรรค์ผลงานในด้านฟิสิกส์และจักรวาลวิทยาออกมาให้ชาวโลกชื่นชมมากมาย
รวมไปถึงหนังสือวิทยาศาสตร์ของเขาที่ทำให้โลกเข้าใจในวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น
ส่วนหนึ่งของชีวิตของเร่ขายถูกถ่ายทอดลงในภาพยนตร์ปี 2014 เรื่องทฤษฎีทุกอย่าง ( ฉายในเมืองไทยปี 2015 )


พื้นหลังชีวิตเขาเป็นลูกคนโตของแฟรงค์และอิซาเบลเร่ขายโดยเกิดในปีครบรอบ 300 ปีของการจากไปของกาลิเลโอนักฟิสิกส์เลื่องชื่อ
เขาเกิดในครอบครัวของนักคิดแม่ของเขาเป็นชาวสกอตแลนด์ 1930
ในช่วงปีโดยสามารถเข้าเรียนในออกซ์ฟอร์ด( ซึ่งในขณะนั้นมีผู้หญิงเพียงไม่กี่คนที่ได้เข้าเรียน ) ส่วนพ่อของเขาซึ่งจบ Oxford เช่นกันก็เป็นนักวิจัยทางการแพทย์ที่ได้รับการยกย่องว่า



เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคในเขตร้อนชื้นฮอว์คิง ( ซ้าย ) และน้องสาวของเขาแมรี่ ( ขวา )

ขายเกิดมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยดีนักเป็นช่วงที่พ่อแม่ของเขากำลังประสบปัญหาด้านการเงินสถานการณ์ทางการเมืองค่อนข้างตึงเครียดในตอนนั้นอังกฤษกำลังเผชิญกับสงครามโลกครั้งที่ 2ทำให้พ่อแม่ของเขาย้ายจากเมืองลอนดอนไปยังเมือง Oxford ซึ่งปลอดภัยกว่าและที่นั่นทั้งคู่ได้ให้กำเนิดเร่ขายรวมทั้งน้องของเขาอีก 2 คนคือแมรี่และฟิลิปปาและพ่อแม่ของเขายังได้รับเลี้ยงบุตรเพิ่มอีก 1 คนในปี 1956 นั่นคือเอ็ดเวิร์ด
จากคำบอกเล่าของครอบครัวที่สนิทกับครอบครัวกิงกิง ได้บอกว่าครอบครัวเป็นครอบครัวที่แปลกพวกเขาจะกินมื้อเย็นกันอย่างเงียบๆแต่ละคนในครอบครัวจะอ่านหนังสือไปด้วยขณะกินข้าวรถของครอบครัวเป็นรถของลอนดอนแท็กซี่ส่วนบ้านของเขาซึ่งอยู่ในเซนต์ตั้งอยู่ที่เป็นบ้าน 3 ชั้นเก่าๆซึ่งมีผึ้งอยู่ในชั้นใต้ดินและมีห้องกระจกเล็กๆที่มีดอกไม้ไฟอยู่มากมาย
สามารถ 1950พ่อของเร่ขายทำงานอยู่ที่ภาควิชาปรสิตวิทยาในสถาบันวิจัยทางการแพทย์แห่งชาติและใช้ชีวิตช่วงฤดูหนาวในแอฟริกาเพื่อทำงานวิจัยเขาอยากให้เข้าเรียนแพทย์แต่เนื่องจากกิงกิงดังที่แม่ของเขาซึ่งอยู่ด้วยกันมาตลอดเล่าว่าเธอมักจะพาไปดูดาวในช่วงเย็นที่สวนหลังบ้าน " สตีเฟนฮอว์คิงมักจะรู้สึกอัศจรรย์ใจเวลาได้ดูสิ่งเหล่านี้ดวงดาวเป็นสิ่งที่เขาสนใจเป็นอย่างมาก "