โลจิสติกส์ เป็นกระบวนการเกี่ยวกับกา

โลจิสติกส์ เป็นกระบวนการเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการจาก ผู้ผลิตไปยังผู้บริโภค รวมถึงขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ และการเก็บสินค้าคงคลังด้วย ดังนั้น ทั้ง Logistics และ Supply Chain จึงเป็นกิจกรรมที่มีลักษณะเป็นบูรณาการ ยากที่จะแยกแยะ โดย Robert B. Handfield ได้กล่าวว่า “The scope of the logistics strategy is now the entire supply chain” โดยหากเทียบกับร่างกายเป็น Supply Chain แล้ว หัวใจและเส้นเลือดก็อาจเปรียบเสมือนกับ Logistics โดยมีสมองเป็นศูนย์ ควบคุม ซึ่งก็เปรียบเสมือนกับระบบ IT นั่นเอง ดังนั้นในกระบวนการค้าปัจจุบัน โลจิสติกส์ และห่วงโซ่อุปทานจะต้องไปด้วยกันหรือควบคู่กันเสมอ แต่ก็ใช่ว่าจะ กลมกลืนเป็นส่วนเดียวกันที่เดียว เพราะหากจะมองในอีกมิติแล้วจะพบว่าโดยเนื้อแท้แล้วต่างก็เป็นกิจกรรมคนละส่วน ต่างมีหน้าที่และดำเนินกิจกรรมที่เป็นการเฉพาะตัว เพียงแต่ว่านำบทบาทของทั้งสองกิจกรรมมาต่อเชื่อมกันเป็นบูรณาการ (Integration) คือเป็นแบบบูรณาการคล้ายกับการ Merge รวมบริษัท 2 บริษัทไว้ด้วยกัน โดยแต่ละบริษัทฯ ก็ยังดำเนินธุรกิจของตนเอง ดังนั้นอาจมีผู้เข้าใจผิดว่าหากจะพูดถึง Supply Chain ก็ใช่ว่าจะพูดถึง Logistics ในลักษณะที่แยกส่วนไม่ได้ ในบางตำราอาจไม่ยอมรับให้มีการแยกจัดการ Logistics ออกมาจาก Supply Chain Management แต่ทัศนะส่วนตัวของผู้เขียน มีมุมมองว่า ถึงแม้ว่า ห่วงโซ่อุปทานจะเป็นเรื่องของบูรณาการ (Integration) แต่การที่จะเข้าใจได้ถ่องแท้ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้งานได้จริงนั้น ก็จะต้องทำความเข้าใจกิจกรรมของ Logistics ในลักษณะที่แยกส่วน คือ ให้เห็นความแตกต่างของ Logistics กับ Supply Chain ให้ชัดเจนก่อน คือ อยากจะให้มอง Supply Chain ที่เป็นกระบวนการในการจัดการเพื่อสนับสนุนกระบวนการผลิตและกระบวนการทางการตลาด โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการลดต้นทุนรวมและให้เกิดมูลค่าเพิ่มในสินค้าและบริการ จึงเป็นกิจกรรมที่ต้องเกิดขึ้นในระหว่างองค์กร จำเป็นที่จะต้องอาศัยเครือข่ายและการกระจายต้นทุน ที่เรียกว่า Cost Sharing ดังนั้น Supply Chain จึงเป็นกิจกรรมที่ต้องอาศัยความรวมพลังและความร่วมมือ ทั้งในแต่ละกระบวนการภายในองค์กรและต่างองค์กร ที่เรียกว่า Synergy ซึ่งกิจกรรมของ Supply Chain จึงต้องอาศัยผู้ให้บริการภายนอก (Outsources) หรือ Logistics Provider ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการบูรณาการแต่ละกระบวนการของ Supply Chain จะถูกเชื่อม โดยกิจกรรมของ Logistics ในการส่งต่อและการเปลี่ยนมือในการเป็นเจ้าของสินค้า (ชั่วขณะหนึ่ง) โดยกิจกรรมต่างๆนั้นจะมีการขับเคลื่อนเป็นแบบพลวัตร เพื่อทำให้ห่วงโซ่อุปทานเป็นห่วงโซ่ที่เป็นปฏิสัมพันธ์เชิงวงแหวน แบบบูรณาการได้อย่างแท้จริง จะเห็นได้ว่า หน้าที่หลักของ Logistics จึงเป็นกระบวนการที่มีกิจกรรมที่เน้นการส่งต่อของสินค้าและบริการ จึงเป็นกิจกรรมที่เน้นเกี่ยวกับการเคลื่อนย้าย (Moving) การให้ได้มาซึ่งวัตถุดิบและการกระจายซึ่งสินค้าและบริการจนถึงผู้รับหน่วยสุดท้าย โดยทั้งโลจิสติกส์และซัพพลายเชนก็ล้วนมีไว้เพิ่มให้ลูกค้าเกิดความพอใจสูงสุดและเพิ่มศักยภาพของการแข่งขัน (Core Competency) ดังนั้นทางโลจิสติกส์และซัพพลายเชน จะมีความสัมพันธ์กันและโดยข้อเท็จจริงก็ยากที่จะแยกจากกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โลจิสติกส์เป็นกระบวนการเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภครวมถึงขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบและการเก็บสินค้าคงคลังด้วยดังนั้นทั้งโลจิสติกส์และซัพพลายเชนจึงเป็นกิจกรรมที่มีลักษณะเป็นบูรณาการยากที่จะแยกแยะโดย Robert B. Handfield ได้กล่าวว่า "ขอบเขตของโลจิสติกส์กลยุทธ์ตอนนี้เป็นห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด" โดยหากเทียบกับร่างกายเป็นซัพพลายเชนแล้วหัวใจและเส้นเลือดก็อาจเปรียบเสมือนกับโลจิสติกส์โดยมีสมองเป็นศูนย์ควบคุมซึ่งก็เปรียบเสมือนกับระบบ IT นั่นเองดังนั้นในกระบวนการค้าปัจจุบันโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานจะต้องไปด้วยกันหรือควบคู่กันเสมอแต่ก็ใช่ว่าจะกลมกลืนเป็นส่วนเดียวกันที่เดียวเพราะหากจะมองในอีกมิติแล้วจะพบว่าโดยเนื้อแท้แล้วต่างก็เป็นกิจกรรมคนละส่วนต่างมีหน้าที่และดำเนินกิจกรรมที่เป็นการเฉพาะตัวเพียงแต่ว่านำบทบาทของทั้งสองกิจกรรโซ่อุปทานมมาต่อเชื่อมกันเป็นบูรณาการ (รวม) คือเป็นแบบบูรณาการคล้ายกับการเวียนรวมบริษัท 2 บริษัทไว้ด้วยกันโดยแต่ละบริษัทฯ ก็ยังดำเนินธุรกิจของตนเองดังนั้นอาจมีผู้เข้าใจผิดว่าหากจะพูดถึงในบางตำราอาในลักษณะที่แยกส่วนไม่ได้โลจิสติกส์ก็ใช่ว่าจะพูดถึงจไม่ยอมรับให้มีการแยกจัดการโลจิสติกส์ออกมาจากอุปทานโซ่การจัดการแต่ทัศนะส่วนตัวของผู้เขียนมีมุมมองว่าถึงแม้ว่าห่วงโซ่อุปทานจะเป็นเรื่องของบูรณาการ (รวม) แต่การที่จะเข้าใจได้ถ่องแท้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้งานได้จริงนั้นก็จะต้องทำความเข้าใจกิจกรรมของโลจิสติกส์ในลักษณะที่แยกส่วนคือให้เห็นความแตกต่างของโลจิสติกส์ดื่มด่ำซัพพลายเชนให้ชัดเจนก่อนคืออยากจะให้มองอุปทานโซ่ที่เป็นกระบวนการในการจัดการเพื่อสนับสนุนกระบวนการผลิตและกระบวนการทางการตลาดโดยมีวัตถุประสงค์หลักในการลดต้นทุนรวมและให้เกิดมูลค่าเพิ่จึงเป็นกิจกรรมที่ต้องอาศัยความรวมพลังและความร่วมมือทั้งในแต่ละกระบวนการภายในองค์กรและต่างองค์กรที่เมในสินค้าและบริการจึงเป็นกิจกรรมที่ต้องเกิดขึ้นในระหว่างองค์กรจำเป็นที่จะต้องอาศัยเครือข่ายและการกระจายต้นทุนที่เรียกว่าทุนแชร์ดังนั้นโซ่โซ่อุปทานซึ่งกิจกรรมของ Synergy รียกว่าจึงต้องอาศัยผู้ให้บริการภายนอก (Outsources) หรือโลจิสติกส์ผู้ให้บริการทั้งนี้เพื่อให้เกิดการบูรณาการแต่ละกระบวนการของซัพพลายเชนจะถูกเชื่อมโดยกิจกรรมของโลจิสติกส์ในการส่งต่อและการเปลี่ยนมือในการเป็นเจ้าของสินค้าลอจิสติกส์ (ชั่วขณะหนึ่ง) โดยกิจกรรมต่างๆนั้นจะมีการขับเคลื่อนเป็นแบบพลวัตรเพื่อทำให้ห่วงโซ่อุปทานเป็นห่วงโซ่ที่เป็นปฏิสัมพันธ์เชิงวงแหวนแบบบูรณาการได้อย่างแท้จริงจะเห็นได้ว่าหน้าที่หลักของจึงเป็นกระบวนการที่มีกิจกรรมที่เน้นการส่งต่อของสินค้าและบริการ (ย้าย) จึงเป็นกิจกรรมที่เน้นเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายการให้ได้มาซึ่งวัตถุดิบและการกระจายซึ่งสินค้าและบริการจนถึงผู้รับหน่วยสุดท้ายจะมีความสัมพันธ์กันและโดยข้อเท็จจริงก็ยากที่จะแยกจากกันดังนั้นทางโลจิสติกส์และซัพพลายเชนโดยทั้งโลจิสติกส์และซัพพลายเชนก็ล้วนมีไว้เพิ่มให้ลูกค้าเกิดความพอใจสูงสุดและเพิ่มศักยภาพของการแข่งขัน (Core Competency)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โลจิสติกส์ ผู้ผลิตไปยังผู้บริโภครวมถึงขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบและการเก็บสินค้าคงคลังด้วยดังนั้นทั้งจิสติกส์และซัพพลายเชน ยากที่จะแยกแยะโดยโรเบิร์ตบี Handfield ได้กล่าวว่า "ขอบเขตของกลยุทธ์โลจิสติกอยู่ในขณะนี้ทั้งห่วงโซ่อุปทาน" โดยหากเทียบกับร่างกายเป็น Supply Chain แล้​​ว โลจิสติกโดยมีสมองเป็นศูนย์ควบคุมซึ่งก็เปรียบเสมือนกับระบบไอทีนั่นเองดังนั้นในกระบวนการค้าปัจจุบันโลจิสติกส์ แต่ก็ใช่ว่าจะกลมกลืนเป็นส่วนเดียวกันที่เดียว (บูรณาการ) คือเป็นแบบบูรณาการคล้ายกับการผสานรวม บริษัท 2 บริษัท ไว้ด้วยกันโดยแต่ละ บริษัท ฯ ก็ยังดำเนินธุรกิจของตนเอง ห่วงโซ่อุปทานก็ใช่ว่าจะพูดถึงโลจิสติกในลักษณะที่แยกส่วนไม่ได้ โลจิสติกออกมาจากการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน แต่ทัศนะส่วนตัวของผู้เขียนมีมุมมองว่าถึงแม้ว่า (บูรณาการ) แต่การที่จะเข้าใจได้ถ่องแท้ ก็จะต้องทำความเข้าใจกิจกรรมของโลจิสติกในลักษณะที่แยกส่วนคือให้เห็นความแตกต่างของโลจิสติกกับซัพพลายเชนให้ชัดเจนก่อนคืออยากจะให้มองซัพพลายเชน ที่เรียกว่าค่าใช้จ่ายร่วมกันดังนั้นซัพพลายเชน ที่เรียกว่า Synergy ซึ่งกิจกรรมของห่วงโซ่อุปทานจึงต้องอาศัยผู้ให้บริการภายนอก (outsources) หรือผู้ให้บริการโลจิสติกทั้งนี้ ซัพพลายเชนจะถูกเชื่อมโดยกิจกรรมของโลจิสติก (ชั่วขณะหนึ่ง) แบบบูรณาการได้อย่างแท้จริงจะเห็นได้ว่าหน้าที่หลักของโลจิสติก (ย้าย) (สมรรถนะหลัก) ดังนั้นทางโลจิสติกส์และซัพพลายเชน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โลจิสติกส์เป็นกระบวนการเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภครวมถึงขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบและการเก็บสินค้าคงคลังด้วยดังนั้นทั้งและโซ่อุปทานโลจิสติกส์จึงเป็นกิจกรรมที่มีลักษณะเป็นบูรณาการยากที่จะแยกแยะโดย Robert B . handfield ได้กล่าวว่า " ขอบเขตของโลจิสติกส์เ tegy ตอนนี้โซ่ " อุปทานทั้งโซ่อุปทานโดยหากเทียบกับร่างกายเป็นแล้วหัวใจและเส้นเลือดก็อาจเปรียบเสมือนกับโลจิสติกส์โดยมีสมองเป็นศูนย์ควบคุมซึ่งก็เปรียบเสมือนกับระบบมันนั่นเองดังนั้นในกระบวนการค้าปัจจุบันโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานจะต้องไปด้วยกันหรือควบคู่กันเสมอแต่ก็ใช่ว่าจะกล มกลืนเป็นส่วนเดียวกันที่เดียวเพราะหากจะมองในอีกมิติแล้วจะพบว่าโดยเนื้อแท้แล้วต่างก็เป็นกิจกรรมคนละส่วนต่างมีหน้าที่และดำเนินกิจกรรมที่เป็นการเฉพาะตัวเพียงแต่ว่านำบทบาทของทั้งสองกิจกรรมมาต่อเชื่อมกันเป็นบูรณาการ ( บูรณาการ ) คือเป็นแบบบูรณาการคล้ายกับการผสานรว มบริษัท 2 บริษัทไว้ด้วยกันโดยแต่ละบริษัทฯก็ยังดำเนินธุรกิจของตนเองดังนั้นอาจมีผู้เข้าใจผิดว่าหากจะพูดถึงโซ่อุปทานโลจิสติกส์ในลักษณะที่แยกส่วนไม่ได้ก็ใช่ว่าจะพูดถึงในบางตำราอาจไม่ยอมรับให้มีการแยกจัดการออกมาจากการจัดการโซ่อุปทานโลจิสติกส์แต่ทัศนะส่วนตัวของผู้เขียนมีมุมมองว่าถึ งแม้ว่าห่วงโซ่อุปทานจะเป็นเรื่องของบูรณาการ ( บูรณาการ ) แต่การที่จะเข้าใจได้ถ่องแท้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้งานได้จริงนั้นก็จะต้องทำความเข้าใจกิจกรรมของโลจิสติกส์ในลักษณะที่แยกส่วนความกับให้เห็นความแตกต่างของโลจิสติกส์โซ่อุปทานโซ่อุปทานที่เป็นกระบวนการในให้ชัดเจนก่อนความอยากจะให้มอง การจัดการเพื่อสนับสนุนกระบวนการผลิตและกระบวนการทางการตลาดโดยมีวัตถุประสงค์หลักในการลดต้นทุนรวมและให้เกิดมูลค่าเพิ่มในสินค้าและบริการจึงเป็นกิจกรรมที่ต้องเกิดขึ้นในระหว่างองค์กรจำเป็นที่จะต้องอาศัยเครือข่ายและการกระจายต้นทุนที่เรียกว่าดังนั้นจัดหาค่าใช้จ่ายร่วมกัน โซ่จึงเป็นกิจกรรมที่ต้องอาศัยความรวมพลังและความร่วมมือทั้งในแต่ละกระบวนการภายในองค์กรและต่างองค์กรที่เรียกว่า Synergy ซึ่งกิจกรรมของห่วงโซ่อุปทานจึงต้องอาศัยผู้ให้บริการภายนอก ( เงินเดือน ) ค็อคเข้าสู่ระบบ