This study examined the effects of

This study examined the effects of peer-tutoring training on elementary school student communication and collaboration skills when used in conjunction with cooperative learning. Within six classes (grades 2–6) in an inner-city school, cooperative learning pairs were randomly assigned to two groups (control and training). Multivariate analyses of variance (MANOVA) of quantitative data from a systematic observation instrument used over an entire year showed that, in general, the training group surpassed the control group in both communication and collaborative skills. Students in grades 2–3 showed substantially more improvement than students in grades 4–6; also, students with average or below-average reading levels required more time to acquire these skills than did above-average students. The qualitative data further substantiated these findings while revealing a large variation among teachers in implementing cooperative learning.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้ตรวจสอบผลของการฝึกอบรมกวดวิชาเพื่อนในโรงเรียนประถมศึกษานักเรียนร่วมกันและการสื่อสารทักษะเมื่อใช้ร่วมกับการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ภายในหกชั้น (เกรด 2-6) ในการเมืองภายในโรงเรียน คู่เรียนรู้แบบมีส่วนร่วมถูกกำหนดให้กับกลุ่มสอง (ควบคุมและฝึกอบรม) สุ่ม ตัวแปรพหุวิเคราะห์ของความแปรปรวน (MANOVA) ของเครื่องมือเก็บข้อมูลระบบที่ใช้เป็นปีทั้งข้อมูลเชิงปริมาณพบว่า ทั่วไป กลุ่มการฝึกอบรมแล้วในกลุ่มควบคุมในการสื่อสารและทักษะการทำงานร่วมกัน นักเรียนเกรด 2-3 แสดงปรับปรุงมากขึ้นไปกว่านักเรียนเกรด 4-6 ยัง นักเรียนต้องใช้เวลาจะได้รับทักษะเหล่านี้ไม่ได้อยู่เหนือค่าเฉลี่ยนักเรียนมากกว่าระดับเฉลี่ย หรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยการอ่าน ข้อมูลเชิงคุณภาพเพิ่มเติม substantiated ค้นพบเหล่านี้ในขณะที่เปิดเผยการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ระหว่างครูในการดำเนินการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้การตรวจสอบผลของการฝึกแบบ peer-สอนเกี่ยวกับการสื่อสารของนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษาและทักษะการทำงานร่วมเมื่อใช้ร่วมกับการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ภายในหกชั้นเรียน (เกรด 2-6) ในโรงเรียนในเมืองคู่การเรียนแบบร่วมมือถูกสุ่มให้ทั้งสองกลุ่ม (การควบคุมและการฝึกอบรม) การวิเคราะห์ความแปรปรวนหลายตัวแปร (MANOVA) ของข้อมูลเชิงปริมาณจากเครื่องมือที่ใช้ในการสังเกตเป็นระบบที่ใช้ในช่วงตลอดทั้งปีแสดงให้เห็นว่าโดยทั่วไปกลุ่มการฝึกอบรมแซงกลุ่มควบคุมทั้งในการสื่อสารและทักษะการทำงานร่วมกัน นักเรียนเกรด 2-3 แสดงการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญมากกว่านักเรียนในระดับ 4-6; นอกจากนี้ยังมีนักเรียนที่มีระดับการอ่านเฉลี่ยหรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยต้องใช้เวลามากที่จะได้รับทักษะเหล่านี้กว่านักเรียนสูงกว่าค่าเฉลี่ย ข้อมูลเชิงคุณภาพต่อไปยืนยันการค้นพบเหล่านี้ขณะที่เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในหมู่ครูในการดำเนินการการเรียนแบบร่วมมือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยนี้มุ่งศึกษาผลของวิธีการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อน อบรมเด็กนักเรียนชั้นประถมทักษะการสื่อสารและความร่วมมือเมื่อใช้ร่วมกับการเรียนแบบร่วมมือ ภายในหกชั้น ( เกรด 2 – 6 ) ในโรงเรียนเรียนร่วม ในคู่เป็นแบบสุ่มสองกลุ่ม ( ควบคุมและฝึกอบรม )การวิเคราะห์ความแปรปรวนของตัวแปรพหุ ( MANOVA ) การวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบเครื่องมือสังเกตการใช้ทั้งปี พบว่าโดยทั่วไปกลุ่มการฝึกอบรมทะลุกลุ่มควบคุมทั้งในการสื่อสาร และการใช้ร่วมกัน นักเรียนในเกรด 2 – 3 มีการปรับปรุงอย่างมาก มากกว่านักเรียนในเกรด 4 – 6 ; ยังนักเรียนเฉลี่ยหรือด้านล่างเฉลี่ยการอ่านระดับที่ต้องการเวลามากขึ้นที่จะได้รับทักษะเหล่านี้กว่าข้างต้น นักเรียนโดยเฉลี่ย ข้อมูลเชิงคุณภาพเพิ่มเติม substantiated ผลการวิจัยเหล่านี้ในขณะที่เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ของครูที่ใช้ในการเรียนแบบร่วมมือ