LabetalolLabetalol is a non-selecti

Labetalol
Labetalol is a non-selective antagonist at alpha1, beta1, and beta2
adrenergic receptors, and is FDA approved for the treatment of
hypertension and hypertensive emergencies [19,13]. Pregnancyinduced
hypertension and preeclampsia are off-label uses [19].
Labetalol may be preferred over other beta blockers as it dilates
arterioles and decreases vascular resistance without significantly
lowering cardiac output [20]. Labetalol may be administered as an
oral or intravenous product [19]. Comparisons of the onset, duration,
and peak levels of labetalol and other anti-hypertensive therapies are
found in Table 2.
Hypotension, bradycardia, and hypoglycemia are common
adverse effects of beta blockers, and a retrospective chart review
published in 2011 in Early Human Development focused on the
prevalence of these effects in neonates who were exposed to labetalol
in utero [26]. The study included the records of women who had
severe preeclampsia per the International Society for the Study
of Hypertension in Pregnancy (ISSHP) criteria, and records were
compared between those whose blood pressure was managed using
labetalol versus those whose blood pressure was controlled without
antihypertensive medications [26]. The records of the infants
exposed to labetalol were compared to those of the control group for
gestational age at birth, birth weight, hypotension, hypoglycemia,
bradycardia, and mortality [26]. Hypotension was found to be
significantly increased in the labetalol group (29.1% versus 7.4%)
within the first 48 hours of life [26]. Mortality was also significantly
increased in the labetalol group, with 4.6% mortality rate in labetalol
exposed infants compared to no deaths in the control group [26].
The deaths were due to ongoing sepsis, progressive respiratory

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

LabetalolLabetalol เป็นปฏิปักษ์ไม่เลือกที่ alpha1, beta1 และ beta2receptors พัฒนาในหลอดทดลอง และ FDA อนุมัติสำหรับการจัดการความดันโลหิตสูงและ hypertensive ฉุกเฉิน [19,13] Pregnancyinducedความดันโลหิตสูงและ preeclampsia ได้ใช้ปิดฉลาก [19]Labetalol อาจจะต้องผ่านตัวบล็อกอื่น ๆ เบต้าเท่านั้น dilatesarterioles และลดความต้านทานของหลอดเลือดโดยมากลดผลผลิตหัวใจ [20] Labetalol อาจได้รับการดูแลเป็นการปาก หรือทางหลอดเลือดดำผลิตภัณฑ์ [19] การเปรียบเทียบเริ่ม ระยะเวลาและระดับสูงสุดของ labetalol และอื่น ๆ รักษาป้องกัน hypertensiveพบในตารางที่ 2Hypotension, bradycardia และ hypoglycemia มีทั่วไปกระทบของเบต้าบล็อกเกอร์ และทบทวนแผนภูมิคาดเผยแพร่ในปี 2554 ในช่วงพัฒนามนุษย์เน้นการชุกของลักษณะพิเศษเหล่านี้ใน neonates ที่ได้สัมผัสกับ labetalolในคลื่น [26] การศึกษารวมข้อมูลของหญิงที่มีpreeclampsia รุนแรงต่อสังคมนานาชาติสำหรับการศึกษาของความดันโลหิตสูงในเกณฑ์ตั้งครรภ์ (ISSHP) และเรกคอร์ดได้เปรียบเทียบระหว่างผู้ที่มีความดันโลหิตถูกจัดการโดยใช้labetalol เมื่อเทียบกับผู้ที่มีความดันเลือดถูกควบคุมโดยลดความดันยา [26] ข้อมูลของทารกสัมผัสกับ labetalol ได้เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมในอายุครรภ์ที่เกิด เกิดน้ำหนัก hypotension, hypoglycemiabradycardia และการตาย [26] Hypotension พบจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่ม labetalol (29.1% เมื่อเทียบกับ 7.4%)ภายใน 48 ชั่วโมงแรกของชีวิต [26] ตายยังเป็นอย่างมากเพิ่มขึ้นในกลุ่ม labetalol กับ 4.6% อัตราการตายใน labetalolสัมผัสทารกเมื่อเทียบกับไม่ตายในกลุ่มควบคุม [26]ได้เสียชีวิตจาก sepsis อย่างต่อเนื่อง การก้าวหน้าทางเดินหายใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Labetalol
Labetalol เป็นศัตรูไม่เลือกที่ alpha1, beta1 และ beta2
adrenergic
ผู้รับและองค์การอาหารและยาได้รับการอนุมัติสำหรับการรักษาความดันโลหิตสูงและความดันโลหิตสูงในกรณีฉุกเฉิน[19,13] Pregnancyinduced
ดันโลหิตสูงและ preeclampsia มีการใช้ปิดป้ายชื่อ [19].
Labetalol อาจจะต้องการมากกว่าเบต้าอัพอื่น ๆ เช่นมัน dilates
หลอดเลือดและลดความต้านทานของหลอดเลือดอย่างมีนัยสำคัญโดยไม่ต้องลดการส่งออกการเต้นของหัวใจ [20]
Labetalol
อาจจะบริหารในฐานะที่เป็นผลิตภัณฑ์ในช่องปากหรือทางหลอดเลือดดำ[19] การเปรียบเทียบการโจมตีระยะเวลาและระดับสูงสุดของ labetalol และการรักษาความดันโลหิตสูงป้องกันอื่น ๆ
จะพบได้ในตารางที่ 2 ความดันเลือดต่ำเต้นช้าและภาวะน้ำตาลในเลือดอยู่ร่วมกันผลกระทบของเบต้าอัพและการตรวจสอบย้อนหลังแผนภูมิที่ตีพิมพ์ในปี2011 ในช่วงต้นการพัฒนามนุษย์ มุ่งเน้นไปที่ความชุกของผลกระทบเหล่านี้ในทารกแรกเกิดที่ได้สัมผัสกับlabetalol ในมดลูก [26] การศึกษารวมบันทึกของผู้หญิงที่มีครรภ์เป็นพิษอย่างรุนแรงต่อสมาคมระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาของความดันโลหิตสูงในการตั้งครรภ์(ISSHP) หลักเกณฑ์และบันทึกถูกเปรียบเทียบระหว่างผู้ที่มีความดันโลหิตได้รับการจัดการโดยใช้labetalol เมื่อเทียบกับผู้ที่มีความดันโลหิตถูกควบคุมโดยไม่ต้องใช้ยาลดความดันโลหิต[26] บันทึกของทารกสัมผัสกับ labetalol ถูกเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมสำหรับอายุครรภ์ที่เกิดน้ำหนักแรกเกิด, ความดันโลหิตต่ำ, ภาวะน้ำตาลในเลือด, หัวใจเต้นช้าและอัตราการเสียชีวิต [26] ความดันเลือดต่ำได้พบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่ม labetalol (29.1% เมื่อเทียบกับ 7.4%) ภายใน 48 ชั่วโมงแรกของชีวิต [26] ตายได้อย่างมีนัยสำคัญที่เพิ่มขึ้นในกลุ่ม labetalol ที่มีอัตราการตาย 4.6% ใน labetalol ทารกสัมผัสเมื่อเทียบกับการเสียชีวิตในกลุ่มควบคุม [26]. เสียชีวิตได้เนื่องจากติดเชื้ออย่างต่อเนื่องก้าวหน้าทางเดินหายใจ