In 1990, IBM was the second-most-pr

In 1990, IBM was the second-most-profitable company in the world, with net income of $6 billion
on revenues of $69 billion, and it was completing a transformation designed to position it for success
in the next decade. For the world leader in an industry that expected to keep growing spectacularly,
the future looked promising. But all was not well within IBM, and its senior executives realized it. “In
1990, we were feeling pretty good because things seemed to be getting better,” one executive
remarked. “But we weren’t feeling great because we knew there were deep structural problems.”
Those structural problems revealed themselves sooner than anyone expected and more terribly than
anyone feared. Beginning in the first quarter of 1991, IBM began posting substantial losses. Between
1991 and 1993, IBM lost a staggering $16 billion. In April 1992, John Akers, IBM CEO from 1985 to
1993, vented his frustrations during a company training program. His comment, “People don’t
realize how much trouble we’re in,” made its way from company bulletin boards to the press,
shaking employee and investor confidence.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปี 1990, IBM เป็นบริษัทมีกำไรสองมากที่สุดในโลก มีกำไรของ $6 พันล้านรายได้รวม 69 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมันถูกทำการเปลี่ยนแปลงการออกแบบการวางตำแหน่งความสำเร็จในทศวรรษหน้า สำหรับผู้นำอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเติบโตบะหมี่อนาคตมองแนวโน้ม แต่ทั้งหมดไม่ดีภายใน IBM และผู้บริหารอาวุโสตระหนักถึงมัน ในปี 1990 เรากำลังรู้สึกดีงาม เพราะสิ่งที่ดูเหมือนจะ ได้รับดีกว่า บริหารหนึ่งข้อสังเกต "แต่เราไม่ได้ความรู้สึกที่ดี เพราะเรารู้ว่า มีปัญหาเชิงโครงสร้างลึก"ปัญหาเชิงโครงสร้างที่เปิดเผยตัวเองเร็วกว่าใครที่คาดหวังและอื่น ๆ กว่าชะมัดทุกคนกลัว จุดเริ่มต้นในไตรมาสแรกของปี 1991, IBM เริ่มลงรายการบัญชีขาดทุนที่สำคัญ ระหว่าง1991 และ 1993, IBM หายส่าย $16 พันล้าน ใน 2535 เมษายน จอห์น Akers, CEO IBM จากปี 1985 ถึง1993 ระบายอากาศผิดหวังของเขาในระหว่างโปรแกรมการฝึกอบรมของบริษัท ข้อคิดเห็นของเขา "คนไม่ตระหนักถึงปัญหาที่เรากำลังใน ทำทางจากบอร์ดให้กดเขย่าความเชื่อมั่นนักลงทุนและพนักงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1990 ไอบีเอ็มเป็น บริษัท ที่สองมากที่สุดทำกำไรในโลกที่มีรายได้สุทธิ $ 6000000000
ในรายได้ $ 69 พันล้านและมันก็จบการเปลี่ยนแปลงที่ออกแบบมาเพื่อวางตำแหน่งเพื่อความสำเร็จ
ในทศวรรษหน้า สำหรับผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะทำให้การเจริญเติบโตไม่ยี่หระที่
อนาคตมองแนวโน้ม แต่ทั้งหมดไม่ได้เป็นอย่างดีในไอบีเอ็มและผู้บริหารระดับสูงของมันรู้ว่ามัน "ใน
ปี 1990 เรามีความรู้สึกที่ดีงามเพราะสิ่งที่ดูเหมือนจะเริ่มดีขึ้น" หนึ่งผู้บริหาร
ตั้งข้อสังเกต " แต่เราไม่ได้ความรู้สึกที่ดีเพราะเรารู้ว่ามีปัญหาเชิงโครงสร้างลึก."
ปัญหาที่โครงสร้างเปิดเผยตัวเองเร็วกว่าที่ทุกคนคาดหวังและอื่น ๆ อีกมากมายชะมัดกว่า
ทุกคนกลัว จุดเริ่มต้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 1991 ไอบีเอ็มเริ่มโพสต์ความสูญเสียอย่างมาก ระหว่าง
ปี 1991 และปี 1993 ไอบีเอ็มหายไปส่าย 16000000000 $ ในเดือนเมษายนปี 1992 จอห์นเอเค่อร์ซีอีโอของไอบีเอ็มปี 1985 ที่จะจาก
ปี 1993 ระบายความอึดอัดของเขาในการฝึกอบรมของ บริษัท ความคิดเห็นของเขา "คนไม่ได้
ตระหนักถึงปัญหาเท่าไหร่ที่เราอยู่ใน" วิธีการทำจากกระดานข่าว บริษัท กับสื่อมวลชน,
สั่นพนักงานและนักลงทุนมีความเชื่อมั่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปี 1990 , IBM เป็น บริษัท ที่ทำกำไรมากที่สุดที่สองในโลก มีรายได้สุทธิของ $ 6 พันล้านรายได้ของ $ 69 ล้านบาท และมีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบเพื่อตำแหน่งเพื่อความสำเร็จในทศวรรษหน้า สำหรับผู้นำในอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเติบโตงดงามให้ ,อนาคตดูสดใส แต่ทั้งหมดไม่ได้เป็นอย่างดีใน IBM และผู้บริหารระดับสูงตระหนักถึงมัน " ในปี 1990 เรารู้สึกดีมาก เพราะสิ่งที่ดูเหมือนจะได้รับดีกว่า " หนึ่งในผู้บริหารความเห็น " แต่เรารู้สึกไม่ค่อยดี เพราะเราก็รู้ว่า มีปัญหาโครงสร้างลึก .ปัญหาทางโครงสร้างที่พบตัวเองเร็วกว่าที่ทุกคนคาด และเพิ่มเติมมากกว่าใครกลัว เริ่มต้นในไตรมาสแรกของปี 1991 , IBM เริ่มโพสต์ความสูญเสียอย่างมาก ระหว่าง1991 และ 1993 , IBM สูญเสียส่าย $ 16 พันล้าน ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2535 , จอห์นนั่งเทียน , IBM CEO จาก 2528 ถึง1993 ระบายความผิดหวังของเขาใน บริษัท โปรแกรมการฝึกอบรม ความคิดเห็นของเขา " คนไม่ตระหนักถึงปัญหาแค่ไหนเรา " ได้มาจากบอร์ดบริษัทสื่อสั่นของพนักงาน และความเชื่อมั่นของนักลงทุน