Digestive and Cardiovascular System

Digestive and Cardiovascular Systems
Many fast foods and drinks are loaded with carbohydrates and, consequently, a lot of calories. Your digestive system breaks carbs down into sugar (glucose), which it then releases into your bloodstream. Your pancreas responds by releasing insulin, which is needed to transport sugar to cells throughout your body. As the sugar is absorbed, your blood sugar levels drop. When blood sugar gets low, your pancreas releases another hormone called glucagon. Glucagon tells the liver to start making use of stored sugars. When everything is working in sync, blood sugar levels stay within a normal range.

When you take in high amounts of carbs, it causes a spike in your blood sugar. That can alter the normal insulin response. Frequent spikes in blood sugar may be a contributing factor in insulin resistance and type 2 diabetes.

Added sugars have no nutritional value but are high in calories. According to the American Heart Association, most Americans take in twice as many sugars as is recommended for optimal health. All those extra calories add up to extra weight, a contributing factor in heart disease.

Trans fats, often found in fast food, are known to raise LDL cholesterol levels. That’s the undesirable kind of cholesterol. It can also lower HDL cholesterol. That’s the good cholesterol. Trans fats may also increase your risk of developing type 2 diabetes.

Too much sodium helps to retain water, so it can cause general bloating and puffiness. Sodium can contribute to high blood pressure or enlarged heart muscle. If you have congestive heart failure, cirrhosis, or kidney disease, too much salt can contribute to a dangerous build-up of fluid. According to the American Heart Association, children who have a high-sodium diet are at twice the risk for developing high blood pressure than children on a low-sodium diet. Excess sodium may also increase risk for kidney stones, kidney disease, and stomach cancer.

High cholesterol and high blood pressure are among the top risk factors for heart disease and stroke.

Respiratory System
Obesity is associated with an increase in respiratory problems, and treating those ailments may be more complicated. Even without diagnosed medical conditions, obesity may cause episodes of shortness of breath or wheezing with little exertion. Obesity may play a role in the development of sleep apnea and asthma.

A recent study published in the journal Thorax suggests that children who eat fast food at least three times a week are at increased risk of asthma and rhinitis (congested, drippy nose).

Central Nervous System
There are many types of headache and many things that can cause them. Some dietary triggers that can be found in fast food include salt, processed meats, nitrates, and MSG.

A study published in the journal Public Health Nutrition showed that eating commercial baked goods (doughnuts, croissants, cake) and fast food (pizza, hamburgers, hot dogs) may be linked to depression. People who eat fast food are 51 percent more likely to develop depression than those who eat little to no fast food. It was also found that the more fast food they consumed, the more likely study participants were to develop depression.

Skin and Bones
Chocolate and greasy foods, often blamed for acne, are not the real culprits. It’s carbs. According to the Mayo Clinic, because foods that are high in carbohydrates increase blood sugar levels, they may also trigger acne.

The Thorax study showed a higher risk of eczema (inflamed, irritated patches of skin) among children with a diet high in fast food.

When you consume foods high in carbs and sugar, bacteria residing in your mouth produce acids. Those acids are hard on your teeth. In fact, they can destroy tooth enamel, a contributing factor in dental cavities. When the enamel of your tooth is lost, it can’t be replaced. Poor oral health has also been linked to other health problems.

Excess sodium may also increase your risk of developing osteoporosis (thin, fragile bones).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระบบทางเดินอาหาร และหัวใจและหลอดเลือดอาหารและเครื่องดื่มมากมายโหลดกับคาร์โบไฮเดรตและ ดังนั้น มีแคลอรี่ ระบบย่อยอาหารของคุณแบ่ง carbs เป็นน้ำตาล (กลูโคส), ซึ่งมันออกแล้วเข้าไปในกระแสเลือดของคุณ ตับอ่อนของคุณตอบสนอง โดยการปล่อยอินซูลิน ซึ่งจำเป็นสำหรับการขนส่งน้ำตาลไปยังเซลล์ทั่วร่างกาย เป็นดูดซึมน้ำตาล ระดับน้ำตาลในเลือดของฝาก เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ คุณตับอ่อนปล่อยฮอร์โมนอื่นที่เรียกว่ากลูคากอน กลูคากอนบอกตับเริ่มทำใช้น้ำตาลเก็บไว้ เมื่อทุกอย่างทำงานซิงค์ ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในช่วงปกติเวลาจำนวนเงินที่สูงของ carbs จะทำให้แกนในของระดับน้ำตาลในเลือด ที่สามารถเปลี่ยนแปลงการตอบสนองต่ออินซูลินปกติ Spikes ในน้ำตาลในเลือดบ่อยอาจจะเป็นปัจจัยในการต้านทานอินซูลินและเบาหวานชนิดที่ 2น้ำตาลเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการไม่มี แต่มีแคลอรี่สูง ตามสมาคมหัวใจอเมริกัน อเมริกันส่วนใหญ่ใช้ในน้ำตาลสองเป็นหลายแนะนำเพื่อสุขภาพที่ดีที่สุด แคลอรี่พิเศษเหล่านั้นเพิ่มขึ้นน้ำหนักเพิ่ม เป็นปัจจัยในการเกิดโรคหัวใจทรานส์ไขมัน มักพบในอาหารจานด่วน รู้จักกันเพื่อเพิ่มระดับไขมัน LDL ซึ่งเป็นไขมันชนิดที่ไม่พึงปรารถนา นอกจากนี้มันยังสามารถลดไขมัน HDL ซึ่งเป็นไขมันชนิดดี ไขมันทรานส์ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2โซเดียมมากเกินไปช่วยรักษาน้ำ ดังนั้นมันสามารถทำให้เกิดทั่วไป bloating และรอบดวง โซเดียมสามารถนำไปสู่ความดันโลหิตสูง หรือกล้ามเนื้อหัวใจขยาย ถ้าคุณ มี congestive หัวใจล้มเหลว ตับแข็ง โรคไต เกลือมากเกินไปสามารถมีส่วนร่วมให้เกิดอันตรายของเหลว ตามสมาคมหัวใจอเมริกัน เด็กที่ได้อาหารที่มีโซเดียมสูงเป็นที่สองความเสี่ยงในการพัฒนาความดันเลือดสูงกว่าเด็กในอาหารโซเดียมต่ำ โซเดียมส่วนเกินยังอาจเพิ่มความเสี่ยง สำหรับนิ่วในไต โรคไต มะเร็งกระเพาะอาหารไขมันสูงและความดันโลหิตสูงมีปัจจัยเสี่ยงด้านโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง ระบบทางเดินหายใจโรคอ้วนที่สัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของปัญหาทางเดินหายใจ และรักษาโรคเหล่านั้นอาจจะซับซ้อนมากขึ้น แม้ไม่ มีการวินิจฉัยโรค โรคอ้วนอาจทำให้ตอนหายใจถี่หรือหายใจมีเสียงหวีดกับใช้ออกแรงน้อย โรคอ้วนอาจมีบทบาทในการพัฒนาของแสงและโรคหอบหืดการศึกษาล่าสุดที่เผยแพร่ในสมุด Thorax แนะนำว่า เด็กที่กินอาหารจานด่วนอย่างน้อยสามครั้งต่อสัปดาห์ อยู่ที่เพิ่มความเสี่ยงของโรคหอบหืดและ rhinitis (congested ระเบียบ drippy จมูก)ระบบประสาทส่วนกลางมีอาการปวดหัวชนิดต่าง ๆ และสิ่งที่ทำให้พวกเขา ทริกเกอร์บางตัวอาหารที่สามารถพบได้ในอาหารจานด่วนได้แก่เนื้อสัตว์เกลือ ประมวลผล nitrates และผงชูรสการศึกษาที่ตีพิมพ์ในสมุดรายวันการสาธารณสุขโภชนาการพบว่าการกินขนมอบเชิงพาณิชย์ (โดนัท ครัวซองต์ เค้ก) และอาหารจานด่วน (พิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ ไส้กรอก) อาจจะเชื่อมโยงกับภาวะซึมเศร้า คนที่กินอาหารอย่างรวดเร็วมีร้อยละ 51 มีแนวโน้มที่จะพัฒนาภาวะซึมเศร้ามากกว่าผู้ที่กินอาหารอย่างรวดเร็วไปไม่น้อย นอกจากนี้ยังพบว่า อาหารจานด่วนมากขึ้นที่พวกเขาใช้ อาสายิ่งถูกพัฒนาภาวะซึมเศร้าผิวหนังและกระดูกอาหารมันเยิ้ม และช็อคโกแลต มักตำหนิสำหรับสิว ไม่ culprits จริง มันของ carbs ตาม Mayo คลินิก เนื่องจากอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด พวกเขาอาจยังทำให้เกิดสิวการศึกษา Thorax แสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงสูงของกลาก (อักเสบ ระคายเคืองแพทช์ของผิว) ระหว่างเด็กกับอาหารสูงในอาหารอย่างรวดเร็วเมื่อคุณบริโภคอาหารสูงใน carbs และน้ำตาล แบคทีเรียในกรดผลิตปากของคุณ กรดเหล่านั้นยากบนฟันของคุณ ในความเป็นจริง พวกเขาสามารถทำลายเคลือบฟัน ปัจจัยร่วมในฟันผุ เมื่อเคลือบฟันของฟันของคุณหายไป มันไม่สามารถถูกแทนที่ สุขภาพช่องปากยังมีการเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพอื่น ๆโซเดียมส่วนเกินยังอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน (กระดูกบาง เปราะบาง)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระบบทางเดินอาหารและโรคหลอดเลือดหัวใจ
อาหารจานด่วนหลายและเครื่องดื่มที่เต็มไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและดังนั้นจำนวนมากของแคลอรี่ ระบบย่อยอาหารของคุณหยุดพักทานคาร์โบไฮเดรตลงไปในน้ำตาล (กลูโคส) ซึ่งมันก็ปล่อยเข้าสู่กระแสเลือดของคุณ ตับอ่อนของคุณตอบสนองโดยการปล่อยอินซูลินซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการขนส่งน้ำตาลไปยังเซลล์ทั่วร่างกายของคุณ น้ำตาลจะถูกดูดซึมระดับน้ำตาลในเลือดของคุณลดลง เมื่อได้รับน้ำตาลในเลือดต่ำตับอ่อนของคุณออกฮอร์โมนที่เรียกว่า glucagon glucagon บอกตับที่จะเริ่มต้นการใช้งานการทำของน้ำตาลที่เก็บไว้ เมื่อทุกอย่างทำงานในซิงค์ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในช่วงปกติ. เมื่อคุณใช้เวลาในปริมาณที่สูงของการทานคาร์โบไฮเดรตจะทำให้ขัดขวางน้ำตาลในเลือดของคุณ ที่สามารถปรับเปลี่ยนการตอบสนองต่ออินซูลินปกติ แหลมบ่อยน้ำตาลในเลือดอาจจะเป็นปัจจัยที่เอื้อในการต่อต้านอินซูลินและโรคเบาหวานประเภท 2. น้ำตาลที่เพิ่มเข้ามาจะไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ แต่มีความสูงในแคลอรี่ ตามที่สมาคมหัวใจอเมริกันชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะใช้ในสองเท่าของน้ำตาลมากที่สุดเท่าที่จะแนะนำสำหรับสุขภาพที่ดีที่สุด แคลอรี่ทั้งหมดที่พิเศษเพิ่มขึ้นถึงน้ำหนักที่เพิ่มปัจจัยร่วมในการเกิดโรคหัวใจ. ไขมันทรานส์มักจะพบในอาหารที่รวดเร็วและเป็นที่รู้จักกันที่จะยกระดับคอเลสเตอรอล นั่นเป็นชนิดที่ไม่พึงประสงค์ของคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังสามารถ HDL คอเลสเตอรอลต่ำ นั่นเป็นคอเลสเตอรอลที่ดี ไขมันทรานส์นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 2. โซเดียมมากเกินไปช่วยในการกักเก็บน้ำเพื่อที่จะสามารถทำให้เกิดท้องอืดทั่วไปและอาการบวม โซเดียมสามารถนำไปสู่ความดันโลหิตสูงหรือกล้ามเนื้อหัวใจโต หากคุณมีหัวใจล้มเหลว, โรคตับแข็งโรคไตหรือเกลือมากเกินไปอาจนำไปสู่อันตรายสะสมของของเหลว ตามที่สมาคมหัวใจอเมริกันเด็กที่มีอาหารโซเดียมสูงเป็นสองเท่าของที่มีความเสี่ยงในการพัฒนาความดันโลหิตสูงกว่าเด็กในอาหารโซเดียมต่ำ โซเดียมส่วนเกินยังอาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับโรคนิ่วในไตโรคไตและโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร. คอเลสเตอรอลสูงและความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสูงสุดสำหรับโรคหัวใจและหลอดเลือด. ระบบทางเดินหายใจโรคอ้วนมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของปัญหาทางเดินหายใจและการรักษาผู้ โรคที่อาจจะซับซ้อนมากขึ้น แม้ไม่มีเงื่อนไขทางการแพทย์ที่ได้รับการวินิจฉัยโรคอ้วนอาจทำให้ตอนของการหายใจถี่หรือหายใจดังเสียงฮืดกับการออกแรงเพียงเล็กน้อย โรคอ้วนอาจมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาของการหยุดหายใจขณะนอนหลับและโรคหอบหืด. การศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสารทรวงอกแสดงให้เห็นว่าเด็กที่กินอาหารอย่างรวดเร็วอย่างน้อยสามครั้งต่อสัปดาห์มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคหอบหืดและโรคจมูกอักเสบ (แออัดจมูก drippy) ระบบประสาทส่วนกลางมีหลายประเภทของอาการปวดหัวและหลายสิ่งหลายอย่างที่สามารถทำให้พวกเขาเป็น บางคนเรียกอาหารที่สามารถพบได้ในอาหารอย่างรวดเร็วรวมถึงเกลือเนื้อสัตว์แปรรูป, ไนเตรตและผงชูรส. ศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารโภชนาการสาธารณสุขพบว่าการรับประทานอาหารขนมอบเชิงพาณิชย์ (โดนัทครัวซองต์เค้ก) และอาหารอย่างรวดเร็ว (พิซซ่าแฮมเบอร์เกอร์ สุนัขร้อน) อาจจะเชื่อมโยงกับภาวะซึมเศร้า คนที่กินอาหารอย่างรวดเร็วเป็นร้อยละ 51 มีแนวโน้มที่จะพัฒนาภาวะซึมเศร้ามากกว่าคนที่กินน้อยถึงไม่มีอาหารอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังพบว่าอาหารอย่างรวดเร็วมากขึ้นพวกเขาบริโภคเข้าร่วมการศึกษาได้มีโอกาสมากขึ้นในการพัฒนาภาวะซึมเศร้า. ผิวหนังและกระดูกช็อคโกแลตและอาหารเลี่ยนตำหนิมักจะเกิดสิวไม่ได้เป็นต้นเหตุที่แท้จริง มันเป็นคาร์โบไฮเดรต ตามที่เมโยคลินิกเพราะอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดของพวกเขายังอาจก่อให้เกิดสิว. การศึกษาแสดงให้เห็นทรวงอกความเสี่ยงสูงของโรคเรื้อนกวาง (อักเสบ, แพทช์การระคายเคืองของผิว) ในหมู่เด็กที่มีอาหารสูงในอาหารอย่างรวดเร็ว . เมื่อคุณกินอาหารสูงในการทานคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในกรดผลิตปากของคุณ กรดเหล่านี้เป็นอย่างหนักเกี่ยวกับฟันของคุณ ในความเป็นจริงพวกเขาสามารถทำลายเคลือบฟันปัจจัยร่วมในการฟันผุ เมื่อเคลือบฟันของฟันของคุณจะหายไปก็ไม่สามารถถูกแทนที่ แย่สุขภาพช่องปากที่ยังได้รับการเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพอื่น ๆ . โซเดียมส่วนเกินยังอาจเพิ่มความเสี่ยงของการพัฒนาโรคกระดูกพรุน (บางกระดูกเปราะบาง)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ระบบการย่อยอาหารและโรคหัวใจและหลอดเลือด
อาหารอย่างรวดเร็วมาก และเครื่องดื่มที่เต็มไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและดังนั้นมากของแคลอรี่ ระบบการย่อยอาหารของคุณแบ่งแป้งลงในน้ำตาล ( กลูโคส ) ซึ่งมันก็ปล่อยเข้าไปในกระแสเลือดของคุณ ตับอ่อนของคุณตอบสนองโดยการปล่อยอินซูลิน ซึ่งจำเป็นต้องขนส่งน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ทั่วร่างกายของคุณ เมื่อน้ำตาลถูกดูดซึมระดับน้ําตาลในเลือดลดลง เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดจะต่ำ ตับอ่อนของคุณรุ่นอื่นเรียกว่าฮอร์โมนกลูคากอน . กลูคากอนบอกว่าตับเริ่มทำใช้เก็บน้ำตาล เมื่อทุกอย่างทำงานในซิงค์ , ระดับน้ําตาลในเลือดอยู่ในช่วงปกติ

เมื่อคุณใช้เวลาในปริมาณสูงของคาร์โบไฮเดรต ทำให้ขัดขวางในระดับน้ำตาลในเลือดของคุณ ที่สามารถเปลี่ยนการตอบสนองอินซูลินปกติบ่อย spikes ในน้ำตาลในเลือดอาจเป็นปัจจัยหนึ่งในความต้านทานต่ออินซูลินและเบาหวานชนิดที่ 2 .

เพิ่มน้ำตาลที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ แต่จะสูงในแคลอรี่ ตามที่สมาคมหัวใจอเมริกัน , อเมริกันส่วนใหญ่ใช้เวลาเป็นสองเท่าน้ำตาลมากแนะนำสำหรับสุขภาพที่ดีที่สุด แคลอรี่พิเศษเหล่านั้นเพิ่มน้ำหนักพิเศษ เป็นปัจจัยในการเกิดโรคหัวใจ

ไขมันทรานส์ ,ที่มักพบในอาหารจานด่วน การเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล . ที่เป็นชนิดที่ไม่พึงประสงค์ของคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังลดคอเลสเตอรอล HDL . ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่ดี ไขมันทรานส์ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานประเภท 2 .

โซเดียมมากเกินไป ช่วยในการรักษาน้ำ ดังนั้นจึงสามารถก่อให้เกิด bloating ทั่วไปและอาการบวมโซเดียมความดันสูงหรือสามารถสนับสนุนการขยายกล้ามเนื้อหัวใจ ถ้าคุณมีหัวใจล้มเหลว , โรคตับแข็ง , โรคไต , เกลือมากเกินไปสามารถนำไปสู่การสะสมอันตรายของของไหล ตามที่สมาคมหัวใจอเมริกัน , เด็กที่ได้รับอาหารโซเดียมสูงที่เสี่ยงในการพัฒนาความดันโลหิตสูงกว่าเด็กในอาหารโซเดียมต่ำโซเดียมส่วนเกินยังอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคนิ่วในไต ไต และมะเร็งกระเพาะอาหาร

คอเลสเตอรอลสูงและความดันโลหิตสูงอยู่ด้านบนของปัจจัยเสี่ยงสำหรับโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง

ระบบหายใจ
โรคอ้วนมีความเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของปัญหาทางเดินหายใจและรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่อาจจะซับซ้อนมากขึ้น แม้ไม่มีการวินิจฉัยภาพทางการแพทย์อาจเป็นสาเหตุของโรคอ้วนตอนหายใจหรือหายใจมีเสียงเล็ก ๆด้วยการออกกําลังกาย โรคอ้วนอาจมีบทบาทในการพัฒนาของ sleep apnea และหืด

ผลการศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสารทรวงอก ชี้ให้เห็นว่า เด็กที่กินอาหารจานด่วนอย่างน้อยสามครั้งต่อสัปดาห์มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคหอบหืดและโรคจมูกอักเสบ ( congested drippy จมูก )


ของระบบประสาทส่วนกลางมีหลายประเภทของอาการปวดหัวและหลายสิ่งที่สามารถทำให้พวกเขา บางอาหารทริกเกอร์ที่สามารถพบได้ในอาหารอย่างรวดเร็ว ได้แก่ เกลือ เนื้อสัตว์แปรรูป nitrates และผงชูรส .

ศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารโภชนาการสาธารณสุข พบว่า การรับประทานขนมอบเชิงพาณิชย์ ( โดนัท ครัวซอง เค้ก และอาหารฟาสต์ฟู้ด ( พิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ ฮอทด็อก ) อาจจะเชื่อมโยงกับภาวะซึมเศร้าคนที่กินอาหารจานด่วนเป็นร้อยละ 51 มีแนวโน้มการพัฒนาภาวะซึมเศร้ามากกว่าผู้ที่กินเพียงเล็กน้อยที่จะไม่กินฟาสต์ฟู้ด นอกจากนี้ยังพบว่าอาหารที่พวกเขาบริโภคมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ให้ผู้เข้าร่วมการศึกษามีแนวโน้มจะพัฒนา depression .

ผิวกระดูก
ช็อคโกแลตและอาหารมักจะตำหนิเลี่ยน , สิว , ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดจริง มันคือแป้ง ตาม Mayo Clinic ,เพราะอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด พวกเขายังอาจกระตุ้นการเกิดสิว

ทรวงอกพบความเสี่ยงสูงของแผลเปื่อย ( อักเสบ ระคายเคือง แพทช์ผิวหนัง ) ในเด็ก กับ อาหารสูงในอาหารอย่างรวดเร็ว

เมื่อคุณบริโภคอาหารสูงในคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล เชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในปากของคุณ ผลิตกรด กรดพวกนี้จะหนักบนฟันของคุณ ในความเป็นจริงพวกเขาสามารถทำลายผิวเคลือบฟัน มีปัจจัยสนับสนุนในฟัน cavities . เมื่อเคลือบฟันของฟันของคุณจะสูญเสียไป มันไม่สามารถถูกแทนที่ สุขภาพช่องปากไม่ดีได้ยังได้รับการเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพอื่น ๆ .

ส่วนโซเดียมยังอาจเพิ่มความเสี่ยงของการพัฒนาโรคกระดูกพรุน ( กระดูกเปราะบาง ,
)