3. The effect of the interaction be

3. The effect of the interaction between the two independent variables upon the dependent variable – the
Univariate Anova variance analysis shows that there are relevant differences between the two independent
variables parents’ stress level and future prospect upon the students’ educational and vocational interests (for
p=0,041, p

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3. ผลของการโต้ตอบระหว่างสองตัวแปรอิสระกับตัวแปรการการวิเคราะห์ผลต่างไร Univariate Anova แสดงว่า มีความแตกต่างระหว่างอิสระสองระดับความเครียดและโอกาสในอนาคตตามความสนใจของนักเรียนด้านการ ศึกษา (สำหรับตัวแปรของพ่อแม่p = 0, 041, p < 0, 05), ซึ่งหมายความว่าความสนใจของนักเรียนด้านการ ศึกษาได้รับอิทธิพลจาก การระดับความเครียดของพ่อแม่เป็นอย่างดีเนื่อง ด้วยโอกาสในอนาคต ในความรู้สึกที่นักเรียนพ่อแม่มีสูงระดับของความเครียดจะน้อยลงความสนใจด้านการ ศึกษาเมื่อเทียบกับเด็กพ่อแม่มีการจะกระตือรือร้นเพื่อแทรกตัวเองในระดับต่ำความเครียด และนักเรียน มีโอกาสในอนาคตเปิดใช้งานชีวิตมืออาชีพกว่าวัตถุจากกลุ่มควบคุม แม้ว่าบกพร่องทางจิตใจพบว่ามีเพิ่มเติมไม่แน่นอนในแง่ของอาชีพสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่านักเรียนปกติ ส่วนใหญ่เป็นเชิงต่อแรงสาขาอาชีพ ด้วย ในหลายกรณี ผู้ปกครองของเด็กที่บกพร่องทางจิตใจแนะนำพวกเขาที่นอกเหนือจากงานของพวกเขาความเป็นไปได้ เพราะบางส่วนของพวกเขามีไม่มากความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเด็กของพวกเขา ในขณะที่คนอื่น ๆเชื่อว่า หากมีผลการเรียนดีที่โรงเรียน พวกเขาจะสามารถฝึกบางอาชีพ ล้มเหลวในการใช้มาพิจารณา สำหรับเด็กลดปริมาณของความรู้ ไม่น้อย พ่อแม่หลายคนพบความรู้สึกของความผิดที่เกี่ยวกับความพิการของเด็กและผู้ปกครองบางคนจะไม่แม้ยอมรับว่า ลูกมีแน่นอนชนิดของการด เน้นหนักในช่วงเด็กพิการ ครอบครัวอาจพบความรู้สึกท้อแท้โทษสำหรับเงื่อนไขของเด็ก ความวิตกกังวล นอนไม่หลับ ซึมเศร้า อ่อน เพลีย กาย และจิตใจรวมทั้งความกังวลว่า พวกเขาอาจไม่สามารถรับงาน และสามารถแสดงถึงภาระทางการเงินสำหรับพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3. ผลของการทำงานร่วมกันระหว่างสองตัวแปรอิสระเมื่อตัวแปร - The
วิเคราะห์ความแปรปรวน Univariate Anova แสดงให้เห็นว่ามีความแตกต่างที่เกี่ยวข้องระหว่างสองอิสระ
ตัวแปรของผู้ปกครองระดับความเครียดและในอนาคตเมื่อนักเรียนสนใจศึกษาและอาชีวศึกษา (สำหรับ
p = 0041, p <0.05) ซึ่งหมายความว่านักเรียนมีความสนใจศึกษาและอาชีวศึกษาได้รับอิทธิพลจาก
ผู้ปกครองระดับความเครียดเช่นเดียวกับตามการคาดหมายในอนาคตในแง่ที่ว่านักเรียนที่พ่อแม่มีความสูง
ระดับของ ความเครียดจะมีความสนใจศึกษาและอาชีวศึกษาน้อยลงเมื่อเทียบกับเด็กที่พ่อแม่มี
ระดับต่ำของความเครียดและนักเรียนที่มีโอกาสในอนาคตการเปิดใช้งานจะมีมากขึ้นความกระตือรือร้นที่จะแทรกตัวเองใน
ชีวิตอาชีพกว่าอาสาสมัครจากกลุ่มควบคุม แม้ว่าผู้พิการทางจิตใจก็จะพบว่ามีมากขึ้น
ไม่แน่นอนในแง่ของสถานที่น่าสนใจกว่านักเรียนอาชีวศึกษาปกติส่วนใหญ่จะเน้นไปที่แรงงานคู่มือ
อาชีพ นอกจากนี้ในหลายกรณีผู้ปกครองของเด็กที่มีความบกพร่องทางจิตใจแนะนำงานให้พวกเขาที่อยู่นอกเหนือการของพวกเขา
เป็นไปได้เพราะบางส่วนของพวกเขาไม่ได้กังวลมากเกี่ยวกับอนาคตของเด็กของพวกเขาในขณะที่คนอื่น ๆ
เชื่อว่าถ้าพวกเขามีผลการเรียนดีที่โรงเรียนพวกเขาจะ สามารถที่จะปฏิบัติอาชีพบางอย่างล้มเหลวในการใช้เวลา
ในการพิจารณาปริมาณการลดลงของเด็ก ๆ ของความรู้ ไม่น้อยพ่อแม่หลายคนได้สัมผัสกับความรู้สึกของ
ความผิดเกี่ยวกับความพิการของเด็กของพวกเขาและพ่อแม่บางคนจะไม่ได้ยอมรับว่าเด็กของพวกเขามีแน่นอนบาง
ประเภทของการด้อยค่า เน้นหนักมากกว่าความพิการของเด็ก, ครอบครัวอาจพบความรู้สึกของความท้อแท้
ตำหนิสภาพความวิตกกังวลนอนไม่หลับซึมเศร้าอ่อนเพลียทางร่างกายและจิตใจของเด็กรวมทั้ง
ความกังวลว่าพวกเขาอาจจะไม่สามารถที่จะได้รับงานและจะเป็นตัวแทนของภาระทางการเงินสำหรับ พวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3 . ผลของปฏิสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปรอิสระและตัวแปรตาม )ประชากรการวิเคราะห์ความแปรปรวนการวิเคราะห์ความแปรปรวน พบว่า มีความแตกต่างสำคัญระหว่างสองอิสระตัวแปรของผู้ปกครองระดับความเครียดและโอกาสในอนาคตต่อผลประโยชน์ การศึกษาและอาชีพของนักเรียน ( สำหรับP = 0041 , p < 0,05 ) ซึ่งหมายความว่าผลประโยชน์การศึกษาและอาชีพของนักเรียนได้รับอิทธิพลโดยระดับความเครียดของผู้ปกครองที่เป็นลูกค้าในอนาคต ในความรู้สึกว่า นักเรียนที่ผู้ปกครองมีสูงระดับความเครียดจะมีความสนใจการศึกษาน้อยกว่า และอาชีวศึกษา เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กที่พ่อแม่มีความเครียดระดับต่ำ และนักศึกษาที่มีโอกาสใช้งานในอนาคตจะยิ่งอยากใส่เองชีวิตกว่าวิชา จาก กลุ่มควบคุม แม้ว่าใจบกพร่อง พบว่ามากกว่าไม่แน่นอนในแง่ของแหล่งท่องเที่ยวอาชีพสูงกว่านักเรียนปกติ ส่วนใหญ่เป็นเชิงต่อแรงงานคู่มือสาขาอาชีพ นอกจากนี้ ในหลายกรณี ผู้ปกครองของเด็กที่มีความบกพร่องทางการแนะนำให้พวกเขาใจงานที่เกินกำลังของตนความเป็นไปได้ เพราะบางส่วนของพวกเขาจะไม่กังวลเกี่ยวกับอนาคตของเด็กของพวกเขาในขณะที่คนอื่น ๆเชื่อว่าถ้าพวกเขาได้รับเกรดที่ดีในโรงเรียน พวกเขาจะสามารถฝึกอาชีพไม่ใช้บางในการพิจารณาของเด็กลดลงปริมาณของความรู้ ไม่ น้อย มากประสบการณ์ความรู้สึกของพ่อแม่ความผิดเกี่ยวกับความพิการของเด็ก และผู้ปกครองบางคนจะไม่ได้ยอมรับว่าเด็กของพวกเขาได้บางประเภทของการเสื่อม เครียดเรื่องความพิการของเด็ก ครอบครัว อาจรู้สึกท้อแท้ ประสบการณ์ ,ตำหนิ สภาพของเด็กกังวล นอนไม่หลับ ซึมเศร้า อ่อนเพลียทางร่างกาย และจิตใจ รวมทั้งความกังวลว่าพวกเขาไม่อาจจะสามารถหางานทำและอาจหมายถึงภาระทางการเงินของพวกเขา