The carbon-fixing reactionsThe carb

The carbon-fixing reactions
The carbon-fixing reactions used to be called the dark reactions because light does not play a direct role in their functioning. The reactions take place in series outside of the grana in the stroma of the chloroplast. These reactions only occur if the end products of the light reactions are available for use. Depending on the plant involved, the carbon-fixing reactions may develop or progress in different ways. The most common type of carbon-fixing reactions in plants is the process called the Calvin cycle. In the Calvin cycle, carbon dioxide from the atmosphere is combined with a 5-carbon sugar—RuBP, or ribulose bisphosphate. The combined molecules are converted via several steps into a 6-carbon sugar, such as glucose. The ATP and NADPH molecules from the light reactions provide the energy and resources for the reactions. Some of the sugars produced are further combined into polysaccharides (strings of simple sugars) or are stored as starch within the plant. There are other variations, including the 4-carbon pathway which is usually found in desert plants (C4 plants).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แก้ไขคาร์บอนปฏิกิริยาแก้ไขคาร์บอนปฏิกิริยาที่ใช้จะเรียกปฏิกิริยามืดเนื่องจากแสงไม่มีบทบาทโดยตรงในการทำงาน ปฏิกิริยาเกิดขึ้นในชุดนอก grana ใน stroma ของคลอโรพลาสต์ ปฏิกิริยาเหล่านี้เกิดขึ้นหากมีการใช้ผลิตภัณฑ์สิ้นสุดของปฏิกิริยาแสงเท่านั้น ขึ้นอยู่กับพืชเกี่ยวข้อง แก้ไขคาร์บอนปฏิกิริยาอาจพัฒนา หรือดำเนินการในลักษณะต่าง ๆ ชนิดทั่วไปของคาร์บอนแก้ไขปฏิกิริยาในพืชเป็นกระบวนการที่เรียกว่าวงจร Calvin ในวงจร Calvin ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศรวมกับน้ำตาลคาร์บอน 5 — RuBP หรือ ribulose bisphosphate โมเลกุลรวมกันจะถูกแปลงผ่านหลายขั้นตอนเป็นน้ำตาลคาร์บอน 6 เช่นกลูโคส โมเลกุลของ ATP และ NADPH จากปฏิกิริยาแสงให้พลังงานและทรัพยากรสำหรับปฏิกิริยา บางส่วนของน้ำตาลที่ผลิตเพิ่มเติมรวมกันเป็นไรด์ (สตริงของน้ำตาลอย่างง่าย) หรือจะถูกเก็บเป็นแป้งภายในพืช มีรูปแบบอื่น ๆ รวมทั้งทางเดิน 4-คาร์บอนซึ่งมักจะพบในทะเลทรายพืช (พืช C4)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คาร์บอนตรึงปฏิกิริยา
ปฏิกิริยาคาร์บอนตรึงเคยถูกเรียกว่าปฏิกิริยามืดเพราะแสงไม่ได้มีบทบาทโดยตรงในการทำงานของพวกเขา ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นในชุดนอก Grana ใน stroma ของ chloroplast ที่ ปฏิกิริยาเหล่านี้จะเกิดขึ้นถ้าผลิตภัณฑ์ที่สิ้นสุดของปฏิกิริยาแสงมีการใช้งาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพืชที่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาคาร์บอนแก้ไขอาจพัฒนาหรือความคืบหน้าในรูปแบบที่แตกต่างกัน ชนิดที่พบมากที่สุดในการเกิดปฏิกิริยาคาร์บอนตรึงในพืชเป็นกระบวนการที่เรียกว่าคาลวินวงจร ในวงจรคาลวินก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศจะถูกรวมกับคาร์บอน 5 น้ำตาล RuBP หรือ ribulose bisphosphate โมเลกุลรวมจะถูกแปลงผ่านหลายขั้นตอนเป็นน้ำตาล 6 คาร์บอนเช่นกลูโคส เอทีพีและ NADPH โมเลกุลจากปฏิกิริยาแสงให้พลังงานและทรัพยากรสำหรับปฏิกิริยา บางส่วนของน้ำตาลที่ผลิตได้จะรวมกันต่อไปใน polysaccharides (สตริงของน้ำตาลง่าย) หรือจะถูกเก็บเป็นแป้งภายในโรงงาน มีรูปแบบอื่น ๆ รวมทั้งทางเดิน 4 คาร์บอนซึ่งมักจะพบในพืชทะเลทราย (พืช C4)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปฏิกิริยาตรึงคาร์บอนปฏิกิริยาตรึงคาร์บอนที่ใช้เรียกปฏิกิริยามืดเนื่องจากแสงไม่ได้มีบทบาทโดยตรงในการทำงานของพวกเขา ปฏิกิริยาเกิดขึ้นในชุดนอกของกรานา ใน สโตรของคลอ . ปฏิกิริยาเหล่านี้เกิดขึ้นถ้าสิ้นสุดผลิตภัณฑ์ของปฏิกิริยาแสง พร้อมสำหรับการใช้งาน ขึ้นอยู่กับโรงงานที่เกี่ยวข้อง คาร์บอนแก้ไขปฏิกิริยาอาจพัฒนาหรือก้าวหน้าในวิธีที่แตกต่างกัน ชนิดที่พบมากที่สุดของการแก้ไขปฏิกิริยาคาร์บอนในพืชกระบวนการที่เรียกว่าวัฏจักรเคลวิน ในวัฏจักรคาลวิน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศพร้อมกับ 5-carbon น้ำตาล rubp หรือไรบูโลส bisphosphate . โมเลกุลรวมกันเป็นแปลงผ่านหลายขั้นตอนใน 6-carbon น้ำตาล เช่น กลูโคส เอทีพี และ nadph โมเลกุลจากปฏิกิริยาแสง ให้พลังงานและทรัพยากรสำหรับปฏิกิริยา บางส่วนของน้ำตาลที่ผลิตต่อรวมกันเป็นพอลิแซ็กคาไรด์ ( สตริงของน้ำตาลง่าย ) หรือจะเก็บไว้เป็นแป้งในพืช มีการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆรวมถึง 4-carbon ) ซึ่งมักพบในพืชทะเลทราย ( พืช C4 )