The mean of variable of the size of

The mean of variable of the size of land use in study area to 2.80 and less than the mean of the residential area of Eastern Sarus Crane to 1298.28 and more than 80% found in areas where there is continuity from 2.35 square kilometers. The proportion between the percentage frequencies of residential and the percentage frequencies of the size of land use in study area can be classified to 3 classes as: 1) the areas smaller than 2.35 square kilometers which is the most common size in the study area to 96.93% or 493.83 square kilometers 2) the areas ranging in size from 2.35 to 4.50 square kilometers was found 1.84% or 95.47 square kilometers and 3) the areas larger than 4.50 square kilometers found least only 1.23 % but representing a total area of 3975.45 square kilometers.
It was found that the percentage frequencies of residential correlate to the size of land use statistically significant (p

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ค่าเฉลี่ยของตัวแปรของขนาดของการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ศึกษาที่ 2.80 และน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของย่านที่อยู่อาศัยของนกกระเรียน sarus ตะวันออกเพื่อ 1,298.28 และกว่า 80% พบในพื้นที่ที่มีความต่อเนื่องมาจาก 2.35 ตารางกิโลเมตรสัดส่วนระหว่างความถี่ร้อยละของผู้ที่อยู่อาศัยและความถี่เปอร์เซ็นต์ของขนาดการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ศึกษาที่สามารถจัดให้เป็น 3 ชั้นคือ 1) พื้นที่ที่มีขนาดเล็กกว่า 2.35 ตารางกิโลเมตรซึ่งเป็นขนาดที่พบมากที่สุดในพื้นที่ศึกษาที่ 96.93 % หรือ 493.83 ตารางกิโลเมตร 2) พื้นที่ที่มีขนาด 2.35-4.50 ตารางกิโลเมตรพบ 1.84% หรือ 9547 ตารางกิโลเมตรและ 3) พื้นที่ที่มีขนาดใหญ่กว่า 4.50 ตารางกิโลเมตรพบน้อยเพียง 1.23% แต่เป็นตัวแทนของพื้นที่ทั้งหมด 3,975.45 ตารางกิโลเมตร
พบว่าความถี่ร้อยละของความสัมพันธ์ที่อยู่อาศัยกับขนาดของการใช้ที่ดินอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p <0.05) โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของ 0.999พิจารณาความน่าจะเป็นสัดส่วนของที่อยู่อาศัยที่แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่กว่า 4.50 ตารางกิโลเมตรเป็นที่อยู่อาศัยที่มีความน่าจะเป็นมากที่สุดที่จะพบที่อยู่อาศัยของนกกระเรียน sarus ตะวันออกตามด้วยพื้นที่ที่มีขนาด 2.35-4.50 ตารางกิโลเมตรและพื้นที่ มีขนาดเล็กกว่า 2.35 ตารางกิโลเมตรและมีค่าความน่าจะถึง 1.00, 0.56, และ 0.11,ตามลำดับที่แสดงในรูปที่ 4.13

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเฉลี่ยของตัวแปรขนาดของการใช้ที่ดินในพื้นที่ศึกษา 2.80 และน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของพื้นที่อยู่อาศัยของอีสเทิร์นกระเรียน 1298.28 และกว่า 80% พบในพื้นที่มีความต่อเนื่องจาก 2.35 ตารางกิโลเมตร สามารถแบ่งสัดส่วนระหว่างความถี่เปอร์เซ็นต์ของที่อยู่อาศัยและความถี่เปอร์เซ็นต์ของขนาดของการใช้ที่ดินในพื้นที่ศึกษาเพื่อเรียน 3 เป็น: 1) ในพื้นที่ขนาดเล็กกว่าขนาด 2.35 ตารางกิโลเมตรซึ่งพบมากที่สุดในพื้นที่ศึกษา 96.93% หรือ 493.83 ตารางกิโลเมตรพื้นที่ 2)ตั้งแต่ขนาด 2.35 แสนตารางกิโลเมตร 4.50 พบ 1.84% หรือ 9547 ตารางกิโลเมตรและ 3) พื้นที่ใหญ่กว่า 4.50 ตารางกิโลเมตรพบน้อยเพียง 1.23% แต่การแสดงพื้นที่รวม 3975.45 ตารางกิโลเมตร
พบว่า ใช้ความถี่เปอร์เซ็นต์ correlate ขนาดของที่ดินที่อยู่อาศัยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05), กับสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของ 0.999 พิจารณาความเป็นไปได้ของสัดส่วนของที่อยู่อาศัยที่แสดงไปยังพื้นที่ที่ใหญ่กว่า 4.50 ตารางกิโลเมตรเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่น่าเป็นการพบที่บ้านของตะวันออกกระเรียน ตามพื้นที่ตั้งแต่ขนาด 2.35 แสน 4.50 ตารางกิโลเมตรและพื้นที่น้อยกว่า 2.35 ตารางกิโลเมตร และมีค่าความน่าเป็น 1.00, 0.56และ 0.11 ตามลำดับที่แสดงในรูปที่ 4.13

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่หมายความว่าของแบบปรับได้หลายระดับของขนาดของแผ่นดินใช้ในการศึกษาพื้นที่ถึง 2.80 และน้อยกว่าที่หมายถึงของที่พักบริเวณด้านทิศตะวันออกของกระเรียนเครนเพื่อ 1298.28 และมากกว่า 80% พบว่าในพื้นที่ที่มีความต่อเนื่องจากสูงสุด 2.35 ตารางกิโลเมตร.ที่มีสัดส่วนระหว่างเปอร์เซ็นต์ความถี่ของที่พักอาศัยและเปอร์เซ็นต์ความถี่ของขนาดของที่ดินใช้ในการศึกษาพื้นที่สามารถจำแนกได้ถึง 3 ชั้นเรียน: 1 )ที่บริเวณพื้นที่ขนาดเล็กกว่าสูงสุด 2.35 ตารางกิโลเมตรซึ่งมีมากที่สุดในการศึกษาพื้นที่เพื่อ 96.93% หรือ 493.83 ตารางกิโลเมตร 2 )พื้นที่โดยมีขนาดจากสูงสุด 2.35 ในการ 4.50 ตารางกิโลเมตรพบ 1.84% หรือ 95 .47 ตารางกิโลเมตรและ 3 พื้นที่)ที่มีขนาดใหญ่กว่า 4.50 ตารางกิโลเมตรพบเพียงอย่างน้อย 1.23% แต่เป็นพื้นที่รวม 3975.45 ตารางกิโลเมตร
พบว่าความถี่เปอร์เซ็นต์ของที่พักอาศัยสัมพันธ์กับขนาดของที่ดินใช้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ( P < 0.05 )ด้วยตัวเลขของความสัมพันธ์ที่ 0.999 .เมื่อพิจารณาถึงความเป็นไปของที่มีสัดส่วนของเขตที่พักอาศัยที่แสดงไว้ในบริเวณพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 4.50 ตารางกิโลเมตรเป็นที่อาศัยอยู่มากที่สุดคือโอกาสที่จะได้พบที่พักของ ภาค ตะวันออกกระเรียนเครน,ตามด้วยโดยพื้นที่โดยมีขนาดสูงสุด 2.35 จาก 4.50 ตารางกิโลเมตรในพื้นที่และมีขนาดเล็กกว่าสูงสุด 2.35 ตารางกิโลเมตรและมีความเป็นไปมูลค่าถึง 1.00 , 0.56 และ 0.11 ,ตามลำดับที่แสดงไว้ในรูปที่ 4.13