The incidence of SIDS has been grea

The incidence of SIDS has been greatly reduced
since the “Back to Sleep” public health
campaign was initiated in 1994, but 25% of
infants continue to sleep in nonsupine positions
after hospital discharge, placing them at
risk for SIDS.2,3 The risk of SIDS is highest
in full-term infants between 3 and 4 months
of age and slightly longer in preterm infants.4
Diligence is necessary to obtain full compliance
with the supine sleep position and save
infants from untimely deaths within their first
year of life.
Preterm infants are at a greater risk of
SIDS; their risk is 4 times that of full-term
infants.5 The risk of preterm infants dying of
SIDS is 1.23 per 1000 for infants 33 weeks or
younger at birth as compared with 0.788 per
1000 for infants 33 to 36 weeks’ gestational
age and 0.37 per 1000 for infants born at
37 to 42 weeks’ gestation.4 Preterm infants
remain at increased risk for SIDS, and special
considerations to transition these infants to
the supine position before hospital discharge
should be a priority.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลดการเกิด SIDS มากตั้งแต่สาธารณสุข "กลับไปนอน"ส่งเสริมการขายเป็นจุดเริ่มต้นในปี 1994 แต่ 25% ของทารกยังนอนในตำแหน่ง nonsupineหลังจากปลดประจำการโรงพยาบาล การวางที่ความเสี่ยงสำหรับความเสี่ยงจาก SIDS SIDS.2,3 คือสูงสุดในระยะเต็มทารกระหว่างเดือนที่ 3 และ 4อายุ และอีกเล็กน้อยใน preterm infants.4ทุนจำเป็นต้องได้รับการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เต็มตำแหน่งป supine และบันทึกทารกจากหลังตายภายในครั้งแรกของพวกเขาปีของชีวิตทารก preterm มีความเสี่ยงมากขึ้นSIDS ความเสี่ยงคือ 4 ครั้งระยะเต็มinfants.5 ความเสี่ยงของทารก preterm ที่ตายของSIDS เป็น 1.23 ต่อ 1000 สำหรับทารกสัปดาห์ 33 หรือวัยแรกเกิดตก 0.788 ต่อ1000 สำหรับทารก 33 กับ 36 สัปดาห์ครรภ์อายุและ 0.37 ต่อ 1000 สำหรับทารกที่ทารก Preterm gestation.4 37-42 สัปดาห์อยู่ที่เสี่ยง สำหรับ SIDS และพิเศษควรเปลี่ยนทารกเหล่านี้จะตำแหน่ง supine ก่อนปลดประจำการโรงพยาบาลควรจะมีความสำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อุบัติการณ์ของ SIDS
ได้รับการลดลงอย่างมากตั้งแต่"กลับไปนอน"
สุขภาพของประชาชนแคมเปญได้ริเริ่มขึ้นในปี1994 แต่ 25%
ของทารกที่ยังคงนอนหลับอยู่ในตำแหน่งnonsupine
หลังจากออกจากโรงพยาบาลวางพวกเขาที่มีความเสี่ยงสำหรับ SIDS.2,3 ความเสี่ยง ของ SIDS สูงที่สุดในทารกเต็มยาวระหว่าง3 และ 4 เดือนของอายุและอีกเล็กน้อยในการคลอดก่อนกำหนดinfants.4 ความขยันหมั่นเพียรเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะได้รับการปฏิบัติตามเต็มกับตำแหน่งการนอนหลับขี้เกียจและบันทึกทารกเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากภายในครั้งแรกของพวกเขาในปีของชีวิต. คลอดก่อนกำหนด ทารกที่มีความเสี่ยงมากขึ้นของSIDS; ความเสี่ยงเป็น 4 เท่าของระยะเต็มinfants.5 ความเสี่ยงของทารกคลอดก่อนกำหนดตายของSIDS คือ 1.23 ต่อ 1000 สำหรับทารก 33 สัปดาห์หรืออายุน้อยกว่าที่เกิดขึ้นเมื่อเทียบกับ0.788 ต่อ1000 สำหรับทารก 33-36 สัปดาห์ขณะตั้งครรภ์อายุและ0.37 ต่อ 1000 สำหรับทารกเกิดที่37-42 สัปดาห์ทารกคลอดก่อนกำหนด gestation.4 ยังคงอยู่ในความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับ SIDS และพิเศษการพิจารณาที่จะเปลี่ยนทารกเหล่านี้ให้กับท่านอนหงายก่อนที่จะออกจากโรงพยาบาลควรให้ความสำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อัตราการเกิด SIDS ลดลงอย่างมาก
ตั้งแต่ " หลับ " รณรงค์สาธารณสุข
ได้ริเริ่มขึ้นในปี 1994 แต่ 25% ของทารกยังคงนอน

nonsupine ตำแหน่งหลังจากออกจากโรงพยาบาล วางไว้ที่
ความเสี่ยง SIDS . 2.3 ความเสี่ยงของ SIDS สูงสุด
ในในระยะทารกระหว่าง 3 และ 4 เดือน
อายุและอีกเล็กน้อยในทารกคลอดก่อนกำหนด 4
.ความขยัน จำเป็นต้องได้รับการปฏิบัติตามเต็มกับตำแหน่งนอนขี้เกียจ

จากการเสียชีวิตก่อนเวลาอันควร และบันทึกทารกภายในปีแรกของชีวิต
.
ทารกคลอดก่อนกำหนดมีความเสี่ยงมากกว่าความเสี่ยงของ SIDS
; เป็น 4 เท่าของทารกในระยะ
5 ความเสี่ยงของทารกเกิดก่อนกำหนดจะตาย
SIDS คือ 1.23 บาท 1000 สำหรับทารก 33 สัปดาห์หรือ
น้องที่คลอดเมื่อเทียบกับ 0.788 ต่อ
1000 สำหรับทารก 33 กับ 36 สัปดาห์ ' ตั้งครรภ์
อายุและ 0.37 ต่อ 1000 สำหรับทารกเกิด
37 42 สัปดาห์ ' ตั้งครรภ์ 4 ทารกเกิดก่อนกำหนด
ยังคงอยู่ที่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับ SIDS และข้อพิจารณาพิเศษ
เปลี่ยนทารกเหล่านี้

ท่านอนราบ ก่อนออกจากโรงพยาบาล ควรเป็นอันดับแรก