For each size of microalgae or iner

For each size of microalgae or inert feed, a specific feeding regime for Artemia
has to be developed to ensure adequate feed levels. The feeding regime developed
in this study for the microalgae Chaetoceros sp. and the inert feed Nestum resulted
in fast growth and high survival rates. Mason (1963) determined the growth
response of Artemia to various feeding regimes with Dunaliella tertiolecta. He
demonstrated that the amount of feed available per animal is the most important
variable affecting the growth of Artemia. In my experiments, the feeding regime
using Nestum gave similar results in growth, survival rate, and biomass production
to that using Chaetoceros. However, the time needed for the daily cleaning of the
culture systems of unconsumed feed was significantly higher with Nestum than with
the microalgae.
The survival rate after 11 days of culture obtained in this study (with Nestum
72%, with enriched Nestum 79%) was lower than data reported by Vanhaecke and
Sorgeloos (1989). They obtained a survival rate of 94% for Artemia from the San
Francisco Bay reared for 9 days at 25°C using Dunaliella tertiolecta as feed. For the
survival rate of Artemia fed for 11 days with enriched and unenriched Nestum, no
statistically significant differences could be determined. The wide variation of the
Artemia population estimates, because of many extremes and outliers despite a
standardized methodology of sampling and counting, made it impossible to determine
differences, if they exist at all.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สำหรับแต่ละขนาดของ microalgae หรือ inert ฟีด ระบอบการอาหารเฉพาะสำหรับ Artemiaมีการพัฒนาให้ระดับอาหารที่เพียงพอ ระบบการปกครองที่ให้อาหารในการพัฒนาในการศึกษานี้ microalgae Chaetoceros sp.และเนื้อหาสรุป inert Nestum ผลในการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและอัตราการรอดตายสูง Mason (1963) ขึ้นการเจริญเติบโตตอบสนองของ Artemia เพื่อระบอบต่าง ๆ อาหารกับ Dunaliella tertiolecta เขาแสดงว่าจำนวนอาหารที่มีต่อสัตว์สำคัญสุดตัวแปรที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของ Artemia ในการทดลองของฉัน อาหารระบอบการปกครองใช้ Nestum ให้ผลเหมือนกันในการเจริญเติบโต อัตราการอยู่รอด และการผลิตชีวมวลที่ใช้ Chaetoceros อย่างไรก็ตาม เวลาที่ต้องการทำความสะอาดประจำวันของการระบบวัฒนธรรมสาร unconsumed สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกับ Nestum กว่าด้วยmicroalgaeอัตราอยู่รอดหลังจากวันที่ 11 ของวัฒนธรรมที่ได้รับในการศึกษานี้ (กับ Nestum72% มีอุดม Nestum 79%) ต่ำกว่าข้อมูลที่รายงาน โดย Vanhaecke และSorgeloos (1989) จะได้อัตราการอยู่รอด 94% Artemia จากซานอ่าว Francisco ผลิตภัณฑ์ 9 วันที่ 25° C ใช้ Dunaliella tertiolecta เป็นอาหาร สำหรับการอัตราการอยู่รอดของ Artemia เลี้ยง 11 วันกับอุดมไป และ unenriched Nestum ไม่สามารถกำหนดความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เปลี่ยนแปลงความกว้างของการประชากร Artemia ประเมิน มากที่สุดและ outliers แม้มีการกฎเกณฑ์มาตรฐานการสุ่มตัวอย่างและการตรวจนับ ทำการตรวจสอบแตกต่าง ถ้าพวกเขามีอยู่ทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สำหรับขนาดของสาหร่ายหรือฟีดเฉื่อยแต่ละระบอบการปกครองที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการให้อาหารอาร์ทีเมียจะต้องมีการพัฒนาเพื่อให้แน่ใจว่าระดับอาหารที่เพียงพอ ระบอบการปกครองของการให้อาหารการพัฒนาในการศึกษาครั้งนี้เป็นสาหร่าย Chaetoceros SP
และฟีดเฉื่อย Nestum
ส่งผลในการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและอัตราการรอดตายสูง เมสัน (1963)
กำหนดการเจริญเติบโตของการตอบสนองของอาร์ทีเมียเพื่อระบอบการให้อาหารต่างๆที่มีDunaliella tertiolecta เขาแสดงให้เห็นว่าปริมาณของอาหารที่มีอยู่ต่อสัตว์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดตัวแปรที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของอาร์ทีเมีย ในการทดลองของฉันระบอบการให้อาหารโดยใช้ Nestum ให้ผลที่คล้ายกันในการเจริญเติบโตอัตราการรอดตายและการผลิตชีวมวลที่ใช้Chaetoceros แต่เวลาที่จำเป็นสำหรับการทำความสะอาดประจำวันของระบบวัฒนธรรมของอาหาร unconsumed อย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้นกับ Nestum กว่าด้วยสาหร่ายทะเลขนาดเล็ก. อัตราการรอดตายหลังจาก 11 วันของวัฒนธรรมที่ได้รับในการศึกษาครั้งนี้ (กับ Nestum 72% โดยมีอุดม Nestum 79%) ต่ำกว่าข้อมูลที่รายงานโดย Vanhaecke และSorgeloos (1989) พวกเขาได้รับอัตราการรอดตายของ 94% สำหรับอาร์ทีเมียจากซานฟรานซิสเบย์เลี้ยง9 วันที่ 25 ° C โดยใช้ tertiolecta Dunaliella เป็นอาหาร สำหรับอัตราการรอดตายของอาร์ทีเมียที่เลี้ยงเป็นเวลา 11 วันและมีอุดม unenriched Nestum ไม่มีสถิติที่แตกต่างที่สำคัญจะได้รับการพิจารณา รูปแบบที่หลากหลายของประชากรประมาณอาร์ทีเมียเพราะสุดขั้วจำนวนมากและค่าผิดปกติแม้จะมีวิธีการที่เป็นมาตรฐานของการสุ่มตัวอย่างและการนับทำให้ไม่สามารถที่จะตรวจสอบความแตกต่างถ้าพวกเขาอยู่เลย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สำหรับแต่ละขนาดของสาหร่ายขนาดเล็กหรือเฉื่อยอาหาร , ระบบให้อาหารเฉพาะอาร์ทีเมีย
จะต้องพัฒนาเพื่อให้แน่ใจว่าระดับอาหารที่เพียงพอ อาหารระบอบพัฒนา
ในการศึกษาสำหรับสาหร่าย Chaetoceros sp . และเนสตุ้มเลี้ยงเฉื่อยผล
ในการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและอัตราการรอดตายสูง เมสัน ( 1963 ) พิจารณาการตอบสนองของอาร์ทีเมีย
ต่างๆระบอบการป้อนด้วย tertiolecta .เขา
แสดงว่า ปริมาณอาหารที่ใช้ต่อสัตว์เป็นสำคัญ
ที่สุดตัวแปรที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของอาร์ทีเมีย . ในการทดลองของฉัน , ระบบการเลี้ยง
ใช้เนสตุ้มให้ผลที่คล้ายกันในการเจริญเติบโต , อัตราการรอดตาย และมวลชีวภาพการผลิต
ที่ใช้ชนิด . อย่างไรก็ตาม ในเวลาที่จำเป็นสำหรับการทำความสะอาดประจำวันของ
ระบบวัฒนธรรมของ unconsumed อาหารสูงกว่ากับเนสตุ้มกว่าด้วย

Server อัตราการรอดหลังจาก 11 วันแห่งวัฒนธรรมที่ได้ในการศึกษานี้ ( กับเนสตุ้ม
72% , กับอุดมเนสตุ้ม 79% ) ต่ำกว่าข้อมูลที่รายงานโดย vanhaecke และ
sorgeloos ( 1989 ) พวกเขาได้รับอัตราการอยู่รอดของ 94 % จากซาน
อาร์ทีเมียอ่าวซานฟรานซิสโกตั้ง 9 วัน ที่อุณหภูมิ 25 องศา C โดยใช้การ tertiolecta เป็นอาหาร สำหรับอัตราการรอดตายของอาร์ทีเมีย
เลี้ยง 11 วันกับอุดมสมบูรณ์ และ unenriched เนสตุ้ม ไม่
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติอาจจะพิจารณา การเปลี่ยนแปลงความกว้างของ
อาร์ทประชากรประมาณเพราะมากผิดปกติแม้จะ
extremes และวิธีการมาตรฐานของการสุ่มและการนับทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจสอบ
ความแตกต่าง ถ้าเขาอยู่เลย