will stain adjacent materials, resu

will stain adjacent materials, resulting in the dyeings displaying
poor wet/wash fastness. Wash-off invariably takes the form of
multi-stage aqueous rinses that use combinations of cold/warm/
hot water and which also commonly include chemicals (e.g. acids,
alkalis) and/or specific auxiliary agents (e.g. surfactants, oxidants)
to expedite dye and dyeing auxiliary removal and also ensure that
the optimum colour, depth of shade, fastness, etc. is achieved. An
example of such a multi-stage wash-off process is given in Fig. 1,
which shows a five-stage wash-off process recommended for
monochlorotriazine reactive dyes in deep shades on cotton [6].
Different conditions are employed for the wash-off of different dye/
fibre combinations, the particular conditions depending on various
factors such as type of dye used, depth of shade, fibre type, substrate
construction, etc. Nevertheless, all wash-off methods
routinely consume large amounts of water.
The amount of water that is used in textile wet processing (e.g.
dyeing, wash-off) is commonly described by the ‘liquor ratio’ (L:R),
this being the ratio of the amount of water used to the amount of
fibre used.Wash-off processes typically employ liquor ratios of 10e
20:1 per stage. In the case of the wash-off process shown in Fig. 1, if
each of the five wash-off stages used a 10:1 L:R, then the wash-off
of 1 tonne of dyed cotton would consume 50 tonnes of water (50:1
total L:R). Should overflow rinsing be used (Fig. 1), in which clean
water is fed into the rinse vessel and drained through an overflow
weir, water consumption will be greatly increased. A corollary of
this large water usage is that wash-off processes habitually
generate very large volumes of wastewater that typically contains
residual dyes, surfactants, electrolytes, etc. and which, characteristically,
displays marked resistance to biodegradation [5], thereby
posing both environmental and economic challenges; an example
of the size and nature of wastewater typically generated during
exhaust dyeing is given in Table 2 [7]. Invariably, dye wastewaters
are admixed and treatment processes often are focussed on
removing the coloured compounds present in the dye wastewater
(e.g. by adsorption), which adds to the complexities and cost of
wastewater treatment. Sadly, whilst the treatment and disposal of
dyewastewater has been the focus of an exceptionally high number
of research papers in recent years [8], no single wastewater treatment
method is universally applicable to all dye/fibre systems nor
does one appear to enjoy widespread commercial success.
Of the several methods that have been devised over many years
to dye polycotton fabrics, the simplest and most popular is a ‘twobath,
two-stage’ process in which the polyester component is firstly
dyed using disperse dyes at w130
C under acidic conditions and
the cotton component is then dyed using reactive dyes at w60
C
under alkaline conditions. However, surplus dye must be removed
at the end of each dyeing stage, not only to ensure optimum fastness
to laundering and other wet processes, but also to avoid crossstaining
during dyeing, of the disperse dyes on cotton and the
reactive dyes on polyester.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จะย้อมติดวัสดุ ในการแสดง dyeingsคงทนของเปียก/ล้างไม่ดี ล้างออกอย่างสม่ำเสมอก็จะน้ำยาบ้วนน้ำหลายขั้นตอนที่ใช้ชุดของอุ่น/เย็น /น้ำร้อนและยังมักมีสารเคมี (เช่นกรดด่าง) หรือตัวแทนเสริมเฉพาะ (เช่น surfactants อนุมูลอิสระ)การเร่งสีย้อมและย้อมกำจัดเสริม และยัง มั่นใจว่าสีที่เหมาะสม ความลึกของสี ความคงทน ฯลฯ จะทำได้ มีตัวอย่างแบบหลายขั้นตอนล้างออกกระบวนการดังกล่าวได้ถูกกำหนดในรูปที่ 1ซึ่งแสดงเป็นห้าขั้นตอนล้างออกกระบวนการแนะนำสำหรับmonochlorotriazine สีปฏิกิริยาในเฉดสีที่ลึกบนฝ้าย [6]ใช้เงื่อนไขสำหรับการล้างลงของสีย้อมแตกต่างกัน /ชุดไฟเบอร์ ขึ้นอยู่กับหลายเงื่อนไขเฉพาะปัจจัยต่าง ๆ เช่นชนิดของสีย้อมที่ใช้ ความลึกของพื้นผิว สี ชนิดไฟเบอร์ก่อสร้าง ฯลฯ อย่างไรก็ตาม วิธีทั้งหมดล้างออกเป็นประจำใช้น้ำจำนวนมากปริมาณของน้ำที่ใช้ในสิ่งทอเปียกการประมวลผล (เช่นการย้อมสี ล้างออก) จะอธิบายกัน โดย 'อัตราส่วนเหล้า' (L:R),นี้เป็นอัตราส่วนของจำนวนน้ำที่ใช้เงินเส้นใยที่ใช้ กระบวนการล้างออกโดยทั่วไปใช้อัตราส่วนเหล้า 10e20:1 ต่อเวที ในกรณีที่ล้างปิดประมวลผลแสดงในรูปที่ 1 ถ้าแต่ละขั้นตอนการล้างปิดห้าใช้ L:R เป็น 10:1 แล้วล้างออกการย้อมฝ้าย 1 ตันจะใช้น้ำ (50:1 50 ตันรวม L:R) การล้างมากเกินไปควรใช้ (รูปที่ 1), ในที่สะอาดน้ำจะถูกป้อนเข้าล้างเรือ และระบายน้ำผ่านมีมากเกินไปฝาย การใช้น้ำจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก Corollary ของน้ำขนาดใหญ่นี้ว่าล้างปิดประมวลผลเนือง ๆสร้างปริมาณน้ำเสียที่โดยทั่วไปประกอบด้วยสีเหลือ surfactants อิเล็ก ฯลฯ ซึ่งลักษณะเฉพาะตัวแสดงความต้านทานการย่อยสลายทางชีวภาพ [5], การทำเครื่องหมายจึงการวางตัวความท้าทายทางเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างขนาดและลักษณะของน้ำเสียโดยทั่วไปสร้างขึ้นในระหว่างไอเสียย้อมถูกกำหนดในตารางที่ 2 [7] คงเส้นคงวา ย้อม wastewatersมี admixed และการรักษามักจะเน้นเอาสารสีที่อยู่ในน้ำเสียสีย้อม(เช่น โดยการดูดซับ), ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนและต้นทุนการบำบัดน้ำเสีย เศร้า ในขณะที่การรักษาและการจำหน่ายdyewastewater ได้โฟกัสของหมายเลขที่สูงเป็นพิเศษการวิจัยในปี [8], บำบัดน้ำเสียไม่มีเดียววิธีคือหยุ่นกับระบบย้อม/ไฟเบอร์ทั้งหมด หรือหนึ่งไม่ปรากฏกับความสำเร็จในเชิงพาณิชย์อย่างกว้างขวางวิธีการต่าง ๆ ที่ได้รับการวางแผนหลายปีการย้อมผ้ายาง ที่ง่าย และนิยมมากที่สุดคือการ ' twobathสองขั้นตอน ' กระบวนการที่คอมโพเนนต์ของโพลีเอสเตอร์เป็นประการแรกใช้ย้อมกระจายสีที่ C w130 ภายใต้สภาวะเป็นกรด และคอมโพเนนต์ของฝ้ายแล้วย้อมใช้สีปฏิกิริยาที่ w60 Cภายใต้สภาวะด่าง อย่างไรก็ตาม สีย้อมส่วนเกินต้องเอาออกในตอนท้ายของแต่ละขั้นตอนย้อมสี ไม่เพียงแต่ให้ความคงทนสูงสุดการฟอกและอื่น ๆ เปียกกระบวนการ แต่ยังเพื่อหลีกเลี่ยงการ crossstainingในระหว่างการย้อม สีย้อม disperse บนผ้าฝ้ายและสีปฏิกิริยาบนโพลีเอสเตอร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จะเปื้อนวัสดุที่อยู่ติดกันมีผลในการ Dyeings แสดง
ยากจนเปียก / ล้างความคงทน ล้างออกอย่างสม่ำเสมอจะใช้รูปแบบของ
แบบหลายขั้นตอนน้ำล้างที่ใช้การรวมกันของเย็น / อบอุ่น /
น้ำร้อนและน้ำซึ่งยังเป็นปกติรวมถึงสารเคมี (เช่นกรด
ด่าง) และ / หรือตัวแทนเสริมเฉพาะ (เช่นลดแรงตึงผิวอนุมูลอิสระ)
เพื่อเร่งการย้อมสี และการกำจัดเสริมย้อมและยังมั่นใจว่า
สีที่เหมาะสม, ความลึกของสี, ความคงทนต่อ ฯลฯ จะประสบความสำเร็จ
ตัวอย่างของหลายขั้นตอนกระบวนการล้างออกดังกล่าวจะได้รับในรูป 1
ซึ่งแสดงให้เห็นห้าขั้นตอนกระบวนการล้างออกแนะนำสำหรับการ
ย้อม monochlorotriazine ในเฉดสีที่ลึกบนผ้าฝ้าย [6].
เงื่อนไขที่แตกต่างกันมีการจ้างงานสำหรับล้างออกจากสีย้อม / ที่แตกต่างกัน
รวมกันเส้นใยเงื่อนไขโดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับต่าง ๆ
ปัจจัยต่างๆ เป็นชนิดของสีย้อมที่ใช้ความลึกของสีชนิดเส้นใยสารตั้งต้น
ก่อสร้าง ฯลฯ แต่ทุกวิธีการล้างออก
เป็นประจำใช้น้ำปริมาณมาก.
ปริมาณน้ำที่ใช้ในการประมวลผลเปียกสิ่งทอ (เช่น
ย้อมสี, ล้างออก ) อธิบายไว้โดยทั่วไปอัตราส่วนสุรา (L: R)
นี้เป็นอัตราส่วนของปริมาณน้ำที่ใช้ในการจำนวนของ
เส้นใยกระบวนการ used.Wash ออกมักจะจ้างอัตราส่วนของสุรา 10E
20: 1 ต่อเวที ในกรณีของกระบวนการล้างออกที่แสดงในรูป 1 ถ้า
แต่ละห้าขั้นตอนล้างออกใช้ 10: 1 L: R แล้วล้างออก
ของ 1 ตันจากผ้าฝ้ายย้อมจะใช้ 50 ตันน้ำ (50: 1
รวม L: R) ควรล้างน้ำล้นนำมาใช้ (รูปที่ 1). ซึ่งในการทำความสะอาด
น้ำจะถูกป้อนเข้าเรือล้างและการระบายน้ำผ่านน้ำล้น
ฝายปริมาณการใช้น้ำจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ควันหลงของ
การใช้น้ำที่มีขนาดใหญ่นี้ก็คือว่ากระบวนการล้างออกเป็นประจำ
สร้างปริมาณมากของน้ำเสียที่มักจะมี
สีย้อมที่เหลือลดแรงตึงผิว, อิเล็กโทรไล ฯลฯ และที่มีลักษณะ
การแสดงการทำเครื่องหมายความต้านทานต่อการย่อยสลายทางชีวภาพ [5] จึง
วางตัวทั้งด้านสิ่งแวดล้อม และความท้าทายทางเศรษฐกิจ ตัวอย่าง
ที่มีขนาดและลักษณะของน้ำเสียที่มักจะสร้างขึ้นในช่วง
การย้อมสีไอเสียจะได้รับในตารางที่ 2 [7] คงเส้นคงวาน้ำเสียสีย้อม
ที่มีการผสมและกระบวนการการรักษามักจะเน้นที่
การเอาสารสีอยู่ในน้ำเสีย
(เช่นโดยการดูดซับ) ซึ่งจะเพิ่มความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายใน
การบำบัดน้ำเสีย น่าเศร้าที่ในขณะที่การรักษาและการกำจัดของ
dyewastewater ได้รับความสนใจของจำนวนที่สูงล้ำ
ของงานวิจัยในปีที่ผ่านมา [8] ไม่มีระบบบำบัดน้ำเสียเดียว
เป็นวิธีสากลใช้ได้กับทุกสีย้อม / ระบบใยมิได้
หนึ่งไม่ปรากฏเพลิดเพลินไปกับการค้าอย่างกว้างขวาง ประสบความสำเร็จ.
ของหลายวิธีที่ได้รับการคิดค้นมาเป็นเวลาหลายปีที่ผ่านมา
การย้อมผ้า polycotton ที่ง่ายที่สุดและเป็นที่นิยมมากที่สุดคือ 'twobath,
สองขั้นตอนกระบวนการในการที่องค์ประกอบโพลีเอสเตอร์เป็นประการแรก
ย้อมโดยใช้สีสลายที่ W130 องศาเซลเซียสภายใต้ความเป็นกรด เงื่อนไขและ
ส่วนประกอบผ้าฝ้ายย้อมสีแล้วใช้สีย้อมปฏิกิริยาที่ W60 องศาเซลเซียส
ภายใต้สภาวะที่เป็นด่าง อย่างไรก็ตามการย้อมสีส่วนเกินจะต้องออก
ในตอนท้ายของแต่ละขั้นตอนการย้อมสีที่ไม่เพียง แต่เพื่อให้แน่ใจว่าความคงทนต่อการที่เหมาะสม
ในการฟอกและกระบวนการเปียกอื่น ๆ แต่ยังเพื่อหลีกเลี่ยง crossstaining
ในระหว่างการย้อมสีของสีย้อมแยกย้ายกันบนผ้าฝ้ายและ
สีย้อมปฏิกิริยาในโพลีเอสเตอร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จะคราบวัสดุข้างเคียงที่เกิดใน dyeings แสดงจนเปียก / ความคงทนต่อการซัก . ล้างออก ต้องใช้รูปแบบของในสารละลายที่ใช้ผสมของ rinses / ร้อน / เย็นน้ำร้อนและซึ่งโดยทั่วไปยังรวมถึงสารเคมี เช่น กรดด่าง ) และ / หรือตัวแทนเฉพาะ ( เช่น สารลดแรงตึงผิว , อนุมูลอิสระ ) ช่วยสีย้อมและการย้อมสีเพื่อเร่งเสริมเอา และยังมั่นใจว่าสีที่เหมาะสม , ความลึกของเงา ความคงทน ฯลฯ ได้ เป็นตัวอย่างเช่นในกระบวนการล้างให้ในรูปที่ 1ซึ่งแสดงเป็นห้าขั้นตอนกระบวนการที่แนะนำให้ล้างออกmonochlorotriazine สีย้อมรีแอกทีฟในเฉดสีที่ลึกบนผ้าฝ้าย [ 6 ]เงื่อนไขที่แตกต่างกันจะใช้เพื่อล้างออกของสีที่แตกต่างกัน /เส้นใยผสม โดยเฉพาะ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่าง ๆปัจจัยเช่นชนิดของสีย้อมที่ใช้ความลึกของสีวัสดุประเภทไฟเบอร์ก่อสร้าง , ฯลฯ แต่วิธีการล้างออกทั้งหมดตรวจบริโภคจำนวนมากของน้ำปริมาณน้ำที่ใช้ในกระบวนการเปียก เช่น สิ่งทอการล้างออก ) โดยทั่วไปจะระบุสัดส่วนของเหล้า " ( L : R )นี้เป็น อัตราส่วนของปริมาณน้ำใช้จำนวนไฟเบอร์ used.wash-off กระบวนการมักจะจ้าง 10e เหล้าต่อ20 : 1 ต่อเวที ในกรณีของการล้างออก ขั้นตอนแสดงในรูปที่ 1 ถ้าแต่ละห้าล้างออก ขั้นตอนใช้ 10 : 1 L : R , แล้วล้างออก1 ตันย้อมฝ้ายจะบริโภคน้ำ 50 ตัน ( 50 : 1รวม L : R ) ควรล้างล้นใช้ ( รูปที่ 1 ) ที่สะอาดน้ำที่ถูกป้อนเข้าไปล้างภาชนะและระบายผ่านล้นเวียร์ ปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นผลที่ตามมาของนี้มีขนาดใหญ่ การใช้น้ำนั้นล้างออกกระบวนการอาจิณสร้างใหญ่มาก ปริมาณของน้ำเสียที่มักจะประกอบด้วยเหลือสี , สารลดแรงตึงผิว , เกลือแร่ ฯลฯ ซึ่งลักษณะและ , ,แสดงเครื่องหมายที่ต้านทานการย่อยสลาย [ 5 ] , จึงวางตัวทั้งสิ่งแวดล้อมและความท้าทายทางเศรษฐกิจ ; ตัวอย่างของขนาดและลักษณะของน้ำเสียที่เกิดขึ้นในทั่วไปย้อมไอเสียให้ในตารางที่ 2 [ 7 ] ทุกเมื่อเชื่อวัน ย้อมโทนเป็นซีเมนต์และกระบวนการการรักษามักจะเน้นเอาสารสีที่มีอยู่ในน้ำเสีย( เช่นโดยการดูดซับ ) ซึ่งจะเพิ่มความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายของการบำบัดน้ำเสีย เศร้า , ขณะที่การรักษาและการจัดการของdyewastewater ได้รับการโฟกัสของจํานวนสูงโคตรงานวิจัยล่าสุดปี [ 8 ] เดียวไม่มีการบำบัดน้ำเสียวิธีที่สามารถใช้ได้กับทุกระบบ ย้อม / ไฟเบอร์ หรือจะปรากฏขึ้นที่จะสนุกกับความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ที่แพร่หลายของหลายวิธีที่ได้รับการวางแผนมาหลายปีการย้อมผ้า polycotton , ที่ง่ายที่สุดและเป็นที่นิยมมากที่สุดคือ twobath " ,สองขั้นตอนกระบวนการของซึ่งในโพลีเอสเตอร์เป็นองค์ประกอบแรกย้อมด้วยสีกระจัดที่ w130 C ภายใต้เงื่อนไขที่เป็นกรดและฝ้ายเป็นองค์ประกอบแล้วย้อมโดยใช้สีย้อมรีแอกทีฟที่ W60 cภายใต้สภาวะที่เป็นด่าง อย่างไรก็ตาม ย้อมส่วนเกินจะต้องถูกลบออกในตอนท้ายของแต่ละขั้นตอนการย้อมสี , ไม่เพียง แต่เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมแน่นการฟอกและกระบวนการเปียกอื่น ๆ แต่ยังเพื่อหลีกเลี่ยง crossstainingในระหว่างการสลายสีย้อมของผ้าฝ้ายและสีย้อมรีแอกทีฟในโพลีเอสเตอร์