During the era of conquest in East

During the era of conquest in East Asia, France focused on the fortune withheld in Indochina. The French had been in the area for centuries, yet policies changed when other Western European nations began to colonize and claim their own pieces of Asia. The French corrupted the Vietnamese sovereignty by colonizing and dividing the nation. It became known as a French “protectorate” from 1883-1939 and remained a colonial empire or “possession” until about 1945. The Vietnamese people strongly resented the tyrannical rule and political and social implementations of the French. Thus, a guerrilla-type revolutionary organization, the Viet Minh, formed to drive out the French. They were led by Ho Chi Minh, the recently elected leader of the Democratic Republic of Vietnam (currently known as North Vietnam). The First Indochina War was virtually a stalemate between the French and the Viet Minh from 1946 – 1950; then towards the end in 1954, the Viet Minh gained significant advances in driving out the French.

In 1949, France set up the State of Vietnam (currently known as South Vietnam) as an “associated statehood” under Bao Dai because he had been cooperative with France in the past. But this government clashed with Ho’s Democratic Republic of Vietnam in its political and social ideals as well as his nationalistic goals. The Vietnamese and other nations felt that this attempt was not a significant step towards Vietnamese independence, but rather just a cover up of the fact that Vietnam was to remain a “puppet nation.” The Viet Minh, supporters of communism, also focused heavily on the ideas of nationalism in their fight for freedom from France; this broadened their pool of allies within Vietnam. Although the French had superior weapon technology and financial aid from the United States, they were greatly outnumbered by the Viet Minh in manpower. The French also suffered from unfamiliarity with fighting in a jungle environment against a guerrilla soldier waiting in the tall grass. Enemies were hard to identify, for they looked no different than civilians; in fact, some were, during the day. The Viet Minh easily recruited local fighters, and because of the Vietnamese hatred of the French occupation, the Viet Minh also benefited from the intelligence information the civilians provided them. When the Chinese Communist Party won control of China in 1949, the advanced weapons gap between the two opposing sides slowly closed because China, along with the communist Soviet Union, began to supply the Viet Minh with artillery. Yet, the most impressive feat of the Viet Minh guerilla fighters was that they overtook the Red River Delta without any major battle. Their guerrilla tactics and civilian intelligence allowed the Viet Minh to defeat the French.

At Dien Bien Phu, in 1954, the French made their final stand in this long, grueling battle. The siege and battle took a toll on the French military from when, they could not recover. In the same year, the Geneva Accords were signed, and the French left their colonies in Indochina. These accords split Vietnam in half, North and South, but did not end the fighting. South Vietnam now quaked in fear of the communist North overtaking them. The U.S. soon came to the aid of South Vietnam and the War which ensued would greatly stir up American politics and cost a massive amount of American lives.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในระหว่างยุคชนะในเอเชียตะวันออก ประเทศฝรั่งเศสเน้นโชคหักในอินโดจีน ฝรั่งเศสมีการในพื้นที่สำหรับศตวรรษ แต่นโยบายเปลี่ยนแปลงเมื่อชาติยุโรปตะวันตกอื่น ๆ เริ่ม colonize และอ้างตนชิ้นของเอเชีย ภาษาฝรั่งเศสเสียอธิปไตยเวียดนาม colonizing และแบ่งประเทศ มันกลายเป็นว่าฝรั่งเศส "รัฐในอารักขา" จาก 1883-1939 และยังคง เป็นจักรวรรดิหรือ "ครอบครอง" จนถึง 1945 ประมาณ คนเวียดนามขอ resented tyrannical กฎการปฏิบัติการทางการเมือง และสังคมของฝรั่งเศส ดังนั้น เป็นโจรชนิดปฏิวัติองค์กร โฮจิมินห์เวียดนาม รูปแบบไดรฟ์ออกฝรั่งเศส พวกเขาถูกนำ โดยโฮจิมินห์ เพิ่งได้รับการแต่งตั้งผู้นำแบบประชาธิปไตยสาธารณรัฐเวียดนาม (ปัจจุบันเรียกว่าเวียดนามเหนือ) สงครามอินโดจีนถูกแทบคุมเชิงฝรั่งเศสและมินห์เวียตจาก 1946-1950 แล้ว ตอนท้ายใน 1954 โฮจิมินห์เวียดนามรับความก้าวหน้าสำคัญในการขับขี่ออกฝรั่งเศสใน 1949 ฝรั่งเศสได้รัฐเวียดนาม (ปัจจุบันเรียกว่าเวียดนามใต้) เป็นการ "เชื่อมโยง statehood" ภายใต้เบาไดเนื่องจากเขาได้รับความร่วมมือกับฝรั่งเศสในอดีต แต่รัฐบาลนี้กระทบของโฮจิมินห์ประชาธิปไตยสาธารณรัฐเวียดนามในอุดมคติทางการเมือง และสังคมที่เป็นเป้าหมายของเขา nationalistic ที่เวียดนามและประเทศอื่น ๆ รู้สึกว่า ความพยายามนี้ไม่เป็นขั้นตอนสำคัญต่อเอกราชเวียดนาม แต่เป็นเพียงใบปะหน้าค่าของจริงที่เวียดนามยังคง เป็น "หุ่นเชิดชาติ" เวียดมินห์ ผู้สนับสนุนคอมมิวนิสต์ ยังเน้นหนักในความคิดของชาตินิยมในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพจากฝรั่งเศส นี้ให้สระของพันธมิตรในเวียดนาม แม้ฝรั่งเศสมีอาวุธที่เหนือกว่าเทคโนโลยีและความช่วยเหลือทางการเงินจากสหรัฐอเมริกา อย่างมากก็ถูกปล้นสะดม โดยโฮจิมินห์เวียดในกำลังคน ฝรั่งเศสยังประสบจาก unfamiliarity กับการต่อสู้ในป่ากับทหารกองโจรแต่หญ้าสูง ศัตรูได้ยากที่จะระบุ สำหรับพวกเขาดูไม่แตกต่างจากพลเรือน ในความเป็นจริง บางคน ในระหว่างวัน โฮจิมินห์ประเทศเวียดนามได้พิจารณานักรบท้องถิ่น และเนื่องจากความเกลียดชังที่เวียดนามของอาชีพฝรั่งเศส โฮจิมินห์เวียดนามยังได้รับประโยชน์จากข้อมูลข่าวกรองพลเรือนให้พวกเขา เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนชนะการควบคุมของจีนใน 1949 อาวุธขั้นสูงช่องว่างระหว่างสองฝ่ายช้าปิดเนื่องจากประเทศจีน กับสหภาพโซเวียตคอมมิวนิสต์ เริ่มจัดหาโฮจิมินห์เวียดนามกับปืนใหญ่ ยัง เพลงประทับใจของนักรบโจรเวียดมินห์ได้ว่า พวกเขา overtook ลุ่มน้ำแดง โดยไม่มีการต่อสู้ใด ๆ ที่สำคัญ สติปัญญาของพวกเขาโจรกลยุทธ์และพลเรือนโฮจิมินห์เวียดนามจะเอาชนะฝรั่งเศสได้ที่เดียนเบียนฟู 1954 ฝรั่งเศสทำยืนสุดท้ายของพวกเขาในการต่อสู้ที่ยาวนาน ความนี้ ล้อมและต่อสู้เอาโทรในฝรั่งเศสจากทหารเมื่อ พวกเขาไม่สามารถกู้คืน ในปีเดียวกัน มีลายเซ็น Accords เจนีวา และฝรั่งเศสซ้ายของอาณานิคมในอินโดจีน Accords เหล่านี้แบ่งเวียดนามครึ่ง ใต้ แต่ไม่ได้จบการต่อสู้ เวียดนามใต้ขณะนี้ quaked ในความกลัวคอมมิวนิสต์เหนือขบวนนั้น สหรัฐอเมริกาเร็ว ๆ นี้มาช่วยเหลือเวียดนามใต้ และสงครามที่ตามมาจะยั่วเมืองอเมริกัน และต้นทุนชีวิตอเมริกันยอดเยี่ยมมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ช่วงยุคแห่งชัยชนะในเอเชียตะวันออกฝรั่งเศสที่มุ่งเน้นการระงับโชคลาภในอินโดจีน ฝรั่งเศสได้รับในพื้นที่มานานหลายศตวรรษ แต่นโยบายเปลี่ยนไปเมื่อประเทศอื่น ๆ ในยุโรปตะวันตกเริ่มที่จะตั้งรกรากและเรียกร้องของตัวเองชิ้นส่วนของทวีปเอเชีย ฝรั่งเศสเสียหายอำนาจอธิปไตยของเวียดนามโดยอาณานิคมและการแบ่งประเทศ มันก็กลายเป็นที่รู้จักกันเป็นภาษาฝรั่งเศส "อารักขา" จาก 1883-1939 และยังคงเป็นจักรวรรดิอาณานิคมหรือ "ครอบครอง" จนถึงปี 1945 คนเวียตนามอย่างยิ่งไม่พอใจการปกครองของเผด็จการและการใช้งานทางการเมืองและสังคมของฝรั่งเศส ดังนั้นองค์กรปฏิวัติการรบแบบกองโจรชนิดเวียดมินห์ที่เกิดขึ้นที่จะขับรถออกมาจากฝรั่งเศส พวกเขานำโดยโฮจิมินห์เป็นผู้นำได้รับการเลือกตั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม (ที่รู้จักกันในปัจจุบันเป็นเวียดนามเหนือ) ครั้งแรกที่สงครามอินโดจีนแทบจนมุมระหว่างฝรั่งเศสและเวียดมิจาก 1946 - 1950; จากนั้นในช่วงปลายในปี 1954 เวียดมินห์ได้รับความก้าวหน้าที่สำคัญในการผลักดันออกจากฝรั่งเศส. ในปี 1949, ฝรั่งเศสตั้งค่ารัฐเวียดนาม (ปัจจุบันเรียกว่าเวียดนามใต้) ในฐานะที่เป็น "ที่เกี่ยวข้องมลรัฐ" ภายใต้ Bao Dai เพราะเขาได้รับความร่วมมือ กับฝรั่งเศสในอดีตที่ผ่านมา แต่รัฐบาลนี้ตัดกับโฮสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามในอุดมการณ์ทางการเมืองและสังคมเช่นเดียวกับเป้าหมายของเขาชาตินิยม ประเทศเวียดนามและอื่น ๆ รู้สึกว่าความพยายามนี้ไม่ได้เป็นขั้นตอนที่สำคัญต่อความเป็นอิสระของเวียดนาม แต่เพียงปกปิดความจริงที่ว่าเวียดนามจะยังคงเป็น "ประเทศหุ่นเชิด." เวียดมินห์ผู้สนับสนุนของลัทธิคอมมิวนิสต์ยังเน้นหนักใน ความคิดของลัทธิชาตินิยมในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพจากฝรั่งเศส; นี้ขยายสระว่ายน้ำของพวกเขาจากพันธมิตรที่อยู่ในเวียดนาม แม้ว่าฝรั่งเศสมีเทคโนโลยีอาวุธที่เหนือกว่าและความช่วยเหลือทางการเงินจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่พวกเขามากกว่าอย่างมากโดยในเวียดมิกำลังคน ฝรั่งเศสยังได้รับความเดือดร้อนจากความไม่คุ้นเคยกับการต่อสู้ในสภาพแวดล้อมของป่ากับทหารกองโจรรอในหญ้าสูง ศัตรูก็ยากที่จะระบุสำหรับพวกเขาดูไม่แตกต่างจากพลเรือน; ในความเป็นจริงบางคนในระหว่างวัน เวียดมินห์ได้อย่างง่ายดายได้รับคัดเลือกสู้ท้องถิ่นและเพราะความเกลียดชังของเวียดนามยึดครองฝรั่งเศส, เวียดมิยังได้รับประโยชน์จากข้อมูลข่าวกรองพลเรือนให้พวกเขา เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้รับรางวัลการควบคุมของจีนในปี 1949 ช่องว่างอาวุธขั้นสูงระหว่างสองฝ่ายตรงข้ามปิดช้าเพราะประเทศจีนพร้อมกับคอมมิวนิสต์สหภาพโซเวียตเริ่มที่จะจัดหาเวียดมิด้วยปืนใหญ่ แต่ความสำเร็จที่น่าประทับใจที่สุดของเวียดมิสู้รบแบบกองโจรคือการที่พวกเขาทันสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดงโดยไม่มีการต่อสู้ใด ๆ ที่สำคัญ ยุทธวิธีการรบแบบกองโจรและสติปัญญาของพวกเขาได้รับอนุญาตให้พลเรือนเวียดมิที่จะเอาชนะฝรั่งเศส. ที่เดียนเบียนฟูในปี 1954 ฝรั่งเศสทำยืนสุดท้ายของพวกเขาในระยะยาวนี้การต่อสู้ที่เหนื่อยมาก ล้อมและการต่อสู้เอาโทรที่ทหารฝรั่งเศสเมื่อพวกเขาไม่สามารถกู้คืน ในปีเดียวกันสนธิสัญญาเจนีวาได้ลงนามและฝรั่งเศสที่เหลืออาณานิคมในอินโดจีน สนธิสัญญาเหล่านี้แยกเวียดนามในช่วงครึ่งปีเหนือและภาคใต้ แต่ไม่ได้จบการต่อสู้ เวียดนามใต้ตอนนี้ไหวกระทำในความหวาดกลัวของภาคเหนือของพรรคคอมมิวนิสต์แซงพวกเขา สหรัฐเร็ว ๆ นี้มาให้ความช่วยเหลือของภาคใต้เวียดนามและสงครามที่เกิดขึ้นมากจะกระทบการเมืองอเมริกันและเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากของชีวิตของชาวอเมริกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในยุคของการพิชิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ฝรั่งเศสเน้นโชคลาภระงับสงครามอินโดจีน ฝรั่งเศสได้รับในพื้นที่มานานหลายศตวรรษ แต่นโยบายก็เปลี่ยนไปเมื่อประเทศยุโรปตะวันตกอื่นๆ เริ่มตั้งรกรากและเรียกร้องชิ้นของตัวเองของเอเชีย ฝรั่งเศสเสียอธิปไตย และเวียดนามโดยการเข้ายึดครองประเทศมันก็กลายเป็นที่รู้จักกันเป็นภาษาฝรั่งเศส " ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน " จาก 1883-1939 และยังคงเป็นจักรวรรดิอาณานิคมหรือ " ครอบครอง " จนถึงปี 1945 คนเวียดนามอย่างมาก ไม่พอใจการปกครองที่กดขี่และการใช้งานการเมืองและสังคมฝรั่งเศส ดังนั้น กองโจรประเภทปฏิวัติองค์กร มินห์ เวียดนาม ก่อตั้งขึ้นเพื่อขับไล่ฝรั่งเศส พวกเขาถูกนำโดยโฮจิมินห์การเลือกตั้งเมื่อเร็ว ๆนี้ผู้นำของสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ( ปัจจุบันเรียกว่าเวียดนามเหนือ ) สงครามอินโดจีนครั้งแรกก็แทบทางตันระหว่างฝรั่งเศสและมินห์เวียดนามจาก 1946 – 1950 ; แล้วต่อท้ายใน 1954 , มินห์ เวียดนามได้รับความก้าวหน้าทางด้านขับรถออกจากฝรั่งเศส

เมื่อปี 1949ฝรั่งเศสจัดตั้งรัฐเวียดนาม ( ปัจจุบันเรียกว่าเวียดนามตอนใต้ ) เป็น " ที่มลรัฐ " ภายใต้เบ๋าได๋ เพราะเขาเคยร่วมมือกับฝรั่งเศสในอดีต แต่รัฐบาลนี้ปะทะกับโฮสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามในทางการเมืองและสังคมอุดมคติเป็นเป้าหมายชาตินิยมของเขาประเทศเวียดนามและอื่น ๆ รู้สึกว่าพยายามไม่ก้าวสําคัญต่อความเป็นอิสระของเวียดนาม แต่ก็ปกปิดความจริงที่ว่า เวียดนามจะยังคงเป็น " หุ่นเชิด เนชั่น " มินห์เวียดนาม , สนับสนุนลัทธิคอมมิวนิสต์ยังเน้นหนักในความคิดชาตินิยมในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพจากฝรั่งเศส นี้พัฒนา สระว่ายน้ำของพันธมิตรในเวียดนามแม้ว่าฝรั่งเศสมีเทคโนโลยีอาวุธที่เหนือกว่าและความช่วยเหลือทางการเงินจากสหรัฐอเมริกา พวกเขามีมากน้อยกว่าโดยมินห์เวียดนาม ในด้าน ฝรั่งเศสยังได้รับความเดือดร้อนจากพวกต่อสู้ในสภาพแวดล้อมป่ากับทหารกองโจรอยู่ในหญ้าสูง ศัตรูยากที่จะระบุ มันดูไม่ต่างจากพลเรือน ในความเป็นจริงบางอย่างที่เป็น