Technology distorts human social in

Technology distorts human social interactions. People have lost the ability to actually converse with one another face to face. Resisting Facebook and texting compares with turning down a martini for an alcoholic. You can see the hold technology has when you try to engage in a conversation with someone who has a smartphone in hand. Eye contact: zero. Listening abilities: nada. You might as well be talking to a cucumber.
People are more distracted and the resulting distractions can have deadly consequences e.g. when cellphone-wielding drivers cause major accidents or the text-walking phenomenon in which pedestrians glued to their screens walk off curbs into passing traffic or open manholes. The urge to text or check email is so powerful it overrides our survival instinct.
A lack of concentration results in errors being made and a loss of sense of time can end up in burnt meals or children left at school, forgotten to be picked up.
Technology is disrupting children’s learning. Grades drop drastically when they’ve been watching too many TV shows instead of doing homework. Using text language has a negative effect on their English, particularly spelling. Plagiarism is more abundant than ever before.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เทคโนโลยี distorts การโต้ตอบทางสังคมมนุษย์ คนได้สูญเสียความสามารถในการสนทนาจริง กันเผชิญหน้า Resisting Facebook และ texting เปรียบเทียบกับเปิดสำหรับแอลกอฮอล์ที่ลงเป็นมาร์ตินี่ คุณสามารถดูเทคโนโลยีถือได้เมื่อคุณพยายามที่จะมีส่วนร่วมในการสนทนากับบุคคลที่มีสมาร์ทโฟนในมือ ตา: เป็นศูนย์ ความสามารถในการฟัง: nada คุณอาจดีได้พูดคุยกับแตงกวาคนต้องคอยกังวลมาก และรบกวนที่เป็นผลลัพธ์อาจมีผลกระทบร้ายแรงเช่นเมื่อโปรแกรมควบคุมกล้องโทรศัพท์มือถือทำให้เกิดปรากฏการณ์การเดินข้อที่ชิดติดจอของพวกเขาเดินไปปิดบ่อผ่านจราจรหรืออุบัติเหตุใหญ่ หรือเปิด manholes กระตุ้นให้กาเครื่องหมายหรือข้อความอีเมล์จะมีประสิทธิภาพดังนั้นแทนที่สัญชาตญาณการอยู่รอดของเราขาดผลความเข้มข้นในการทำข้อผิดพลาดและสูญเสียความรู้สึกเวลาอาจจบลงที่อาหารไหม้หรือเด็กโรงเรียน ลืมนำเทคโนโลยีคืออาจรบกวนการเรียนรู้ของเด็ก เกรดปล่อยอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาได้รับการดูทีวีมากเกินไปแทนที่จะทำการบ้าน การใช้ภาษาข้อความมีผลกระทบในอังกฤษของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสะกด โจรกรรมทางวรรณกรรมจะอุดมสมบูรณ์มากขึ้นกว่าเดิม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เทคโนโลยีบิดเบือนปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของมนุษย์ คนที่ได้สูญเสียความสามารถในการพูดคุยกับจริงหนึ่งเห็นหน้าอีก ต่อต้าน Facebook และ texting เปรียบเทียบกับมาร์ตินี่หันไปหาแอลกอฮอล์ คุณสามารถเห็นเทคโนโลยีถือได้เมื่อคุณพยายามที่จะมีส่วนร่วมในการสนทนากับคนที่มีมาร์ทโฟนในมือ สัมผัสกับตา: ศูนย์ ความสามารถในการฟัง: nada คุณเช่นกันอาจจะมีการพูดคุยกับแตงกวา.
คนที่มีสมาธิมากขึ้นและส่งผลให้เกิดการรบกวนสามารถมีผลกระทบร้ายแรงเช่นเมื่อคนขับรถโทรศัพท์มือถือควงก่อให้เกิดอุบัติเหตุรายใหญ่หรือปรากฏการณ์ข้อความเดินในที่ที่คนเดินเท้าติดกาวที่หน้าจอของพวกเขาเดินออกไปแปะลงไปที่ผ่านการจราจร หรือบ่อพักเปิด กระตุ้นให้กับข้อความหรือตรวจสอบอีเมลที่มีประสิทธิภาพเพื่อที่จะแทนที่สัญชาตญาณการอยู่รอดของเรา.
ขาดผลความเข้มข้นในการทำข้อผิดพลาดและการสูญเสียความรู้สึกของเวลาที่สามารถจบลงในอาหารหรือเด็กที่เผาทิ้งไว้ที่โรงเรียนลืมที่จะหยิบขึ้นมา
เทคโนโลยีมีการรบกวนการเรียนรู้ของเด็ก เกรดลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพวกเขาได้รับการดูทีวีมากเกินไปแสดงแทนการทำบ้าน ใช้ภาษาข้อความที่มีผลกระทบในทางลบต่อภาษาอังกฤษสะกดโดยเฉพาะอย่างยิ่งของพวกเขา การขโมยความคิดจะมีมากขึ้นกว่าเดิม