Unlike normal matter, dark matter d

Unlike normal matter, dark matter does not interact with the electromagnetic force. This means it does not absorb, reflect or emit light, making it extremely hard to spot. In fact, researchers have been able to infer the existence of dark matter only from the gravitational effect it seems to have on visible matter. Dark matter seems to outweigh visible matter roughly six to one, making up about 27% of the universe. Here's a sobering fact: The matter we know and that makes up all stars and galaxies only accounts for 5% of the content of the universe! But what is dark matter? One idea is that it could contain "supersymmetric particles" – hypothesized particles that are partners to those already known in the Standard Model. Experiments at the Large Hadron Collider (LHC) may provide more direct clues about dark matter.
Many theories say the dark matter particles would be light enough to be produced at the LHC. If they were created at the LHC, they would escape through the detectors unnoticed. However, they would carry away energy and momentum, so physicists could infer their existence from the amount of energy and momentum “missing” after a collision. Dark matter candidates arise frequently in theories that suggest physics beyond the Standard Model, such as supersymmetry and extra dimensions. One theory suggests the existence of a “Hidden Valley”, a parallel world made of dark matter having very little in common with matter we know. If one of these theories proved to be true, it could help scientists gain a better understanding of the composition of our universe and, in particular, how galaxies hold together.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เหมือนเรื่องปกติ สสารมืดไม่โต้ตอบกับแรงแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งหมายความว่า มันไม่ดูดซับ สะท้อน หรือเปล่งแสง ทำให้มันยากมากในการจุด ในความเป็นจริง นักวิจัยได้สรุปการดำรงอยู่ของสสารมืดจากผลความโน้มถ่วงที่ดูเหมือนจะมีเรื่องที่มองเห็นเท่านั้น สสารมืดดูเหมือนไปหมดปรากฏว่าประมาณหกวัน ถึงประมาณ 27% ของจักรวาล นี่เป็นความจริง sobering: เรื่องที่เรารู้ และที่ทำให้ดาวและกาแลคซีทั้งหมดบัญชีเพียง 5% ของจักรวาล แต่สสารมืดคืออะไร ความคิดหนึ่งคือการ ที่มันอาจประกอบด้วย "อนุภาค supersymmetric" – อนุภาคตั้งสมมติฐานที่มีคู่ค้าที่รู้จักกันในรูปแบบมาตรฐานแล้ว การทดลองที่มีขนาดใหญ่เครื่องชนอนุภาคขนาด (ลวิ) อาจให้ข้อมูลโดยตรงมากขึ้นเกี่ยวกับสสารมืดหลายทฤษฎีกล่าวว่า อนุภาคสสารมืดจะไปผลิตที่ลวิ ถ้าสร้างที่ลวิ พวกเขาจะหลบหนีผ่านเครื่องตรวจจับใหญ่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะนำไปพลังงานและโมเมนตัม เพื่อให้นักฟิสิกส์สามารถสรุปตายจากยอดของพลังงานและโมเมนตัม "หายไป" หลังจากการชน ผู้สมัครที่สสารมืดเกิดขึ้นบ่อยในทฤษฎีที่แนะนำฟิสิกส์นอกเหนือจากแบบมาตรฐาน เช่นสมมาตรยิ่งยวดและมิติพิเศษ ทฤษฎีหนึ่งแสดงให้เห็นการดำรงอยู่ของ "ซ่อนอยู่หุบเขา" โลกคู่ขนานที่ทำจากสสารมืดมีน้อยร่วมกันกับเรื่องที่เรารู้ ถ้าทฤษฎีเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นจริง มันสามารถช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ได้เข้าใจองค์ประกอบ ของจักรวาลของเรา และ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิธีกาแล็กซีถือกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ซึ่งแตกต่างจากเรื่องปกติสารมืดไม่โต้ตอบกับแรงแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งหมายความว่ามันไม่ดูดซับสะท้อนหรือเปล่งแสงทำให้มันยากมากที่จะจุด ในความเป็นจริงนักวิจัยได้รับสามารถที่จะสรุปการดำรงอยู่ของสสารมืดเพียงผลกระทบจากแรงโน้มถ่วงของมันดูเหมือนว่าจะมีในเรื่องที่มองเห็นได้ สสารมืดดูเหมือนว่าจะเกินดุลเรื่องที่มองเห็นประมาณ 6-1 ทำให้ขึ้นประมาณ 27% ของจักรวาล นี่คือความเป็นจริงสติ: เรื่องที่เรารู้และที่ทำให้ดาวทั้งหมดและกาแลกซี่เพียงบัญชีสำหรับ 5% ของเนื้อหาของจักรวาล! แต่สิ่งที่เป็นสสารมืด? หนึ่งความคิดก็คือว่ามันอาจมี "อนุภาคเม" - อนุภาคตั้งสมมติฐานว่าเป็นพันธมิตรกับผู้ที่รู้จักกันอยู่แล้วในรูปแบบมาตรฐาน การทดลองที่ Large Hadron Collider (LHC) อาจให้เบาะแสโดยตรงเพิ่มเติมเกี่ยวกับสสารมืด.
ทฤษฎีหลายคนบอกว่าอนุภาคสสารมืดจะเบาพอที่จะได้รับการผลิตที่ LHC หากพวกเขาถูกสร้างขึ้นที่ LHC ที่พวกเขาจะหลบหนีผ่านเครื่องตรวจจับสังเกต แต่พวกเขาก็จะนำไปใช้พลังงานและโมเมนตัมดังนั้นนักฟิสิกส์สามารถสรุปการดำรงอยู่ของพวกเขาจากปริมาณของพลังงานและโมเมนตัม "หายไป" หลังจากการปะทะกัน ผู้สมัครสสารมืดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในทฤษฎีที่แนะนำฟิสิกส์เกินกว่ารุ่นมาตรฐานเช่น supersymmetry และขนาดพิเศษ ทฤษฎีหนึ่งที่แสดงให้เห็นการดำรงอยู่ของ "ซ่อนอยู่ในหุบเขา" โลกคู่ขนานทำจากสสารมืดมีน้อยมากในการร่วมกันกับเรื่องที่เรารู้ หากหนึ่งในทฤษฎีเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่าจะเป็นจริงมันอาจจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ได้รับความเข้าใจที่ดีขึ้นขององค์ประกอบของจักรวาลของเราและโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีกาแลคซีถือร่วมกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไม่เหมือนเรื่องปกติ สสารมืดไม่ได้โต้ตอบกับแรงทางแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งหมายความว่ามันไม่ซับ สะท้อน หรือเปล่งแสง ทำให้มันยากที่จะจุด ในความเป็นจริง นักวิจัยได้สามารถยืนยันตัวตนของสสารมืดเท่านั้นจากความโน้มถ่วงผลกระทบมันมีปรากฏขึ้น สสารมืดดูเหมือนจะเกินดุลประมาณหกต่อหนึ่งปรากฏขึ้น ทำให้ขึ้นประมาณ 27% ของจักรวาล นี่ถึงความจริงที่ว่า : เรื่องที่เรารู้และที่ทำให้ขึ้นดาวและกาแล็กซีบัญชีเพียง 5% ของปริมาณของจักรวาล แต่อะไรคือสสารมืด ? หนึ่งความคิดที่อาจประกอบด้วย " อนุภาค " supersymmetric –ศึกษาอนุภาคที่เป็นพันธมิตรกับผู้ที่รู้จักกันอยู่แล้วในรุ่นมาตรฐาน การทดลองที่เทลิโทรมัยซิน ( มจธ ) อาจให้เบาะแสโดยตรงเพิ่มเติมเกี่ยวกับสสารมืดหลายทฤษฎีกล่าวว่าอนุภาคสสารมืดจะเป็นแสงเพียงพอที่จะผลิตที่มจธ . ถ้าพวกเขาถูกสร้างขึ้นในเครื่องเร่งอนุภาค พวกเขาจะรอดผ่านเครื่องตรวจจับสังเกต อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็จะแบกไปพลังงานและโมเมนตัม ดังนั้นนักฟิสิกส์สามารถอนุมานการดำรงอยู่ของพวกเขาจากปริมาณของพลังงานและโมเมนตัม " หายไป " หลังจากการปะทะกัน ผู้สมัครสสารมืดเกิดขึ้นบ่อยในทฤษฎีที่แนะนำฟิสิกส์จากรุ่นมาตรฐาน เช่น ระดับ และขนาดพิเศษ ทฤษฎีหนึ่งเสนอว่า การดำรงอยู่ของ " หุบเขา " ซ่อนอยู่ เป็นโลกคู่ขนานของสสารมืดมีน้อยมากเหมือนกันกับเรื่องที่เรารู้ ถ้าหนึ่งของทฤษฎีเหล่านี้ได้พิสูจน์ว่าเป็นจริง มันสามารถช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ได้รับความเข้าใจที่ดีขึ้นขององค์ประกอบของจักรวาลของเราและโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการกาแล็กซีถือด้วยกัน